Court
From MS Computech
ขอให้อ่านตามลำดับ คุณขี้เกียจอ่านเท่ากับว่าคุณยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม คำศัพที่ควรรู้ อ่านก่อนไม่อ่านไม่รู้เรื่อง ==================================================== บทที่1 เบสิค ปฐมบทจีบสาว: กําจัดความดิ้นรนให้หมดสิ้น (สําคัญ) rep 21,33 การเป็น dj ที่สมบูรณ์แบบ rep 34 ความสําคัญของหน้าตา? rep 50 เมื่อถูกปฎิเสธ (สําคัญ) rep 58 แค่เล่นไปตามเกม rep 68 เมื่อคุณไม่กล้า rep 75 ซื่อสัตย์และรักตัวเอง (สําคัญ) rep 94 มีแต่ได้ rep 108 "ไม่"เป็นตัวของตัวเอง rep 185 แบบฝึกดอนฮวน rep 251,252 ระดับความสนใจ rep 272,274 ไล่ความกลัวออกไปวันนี้ (สําคัญ) rep 339-341 ความเข้าใจผิดในการจีบสาว rep 411,412,506 - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - • บทที่ 2 Nice guy กับ Jerk Jerks vs. nice guys rep 507 Nice jerk: ทําให้เธอเซอร์ไพรส์ rep 508 โลกอยากให้คุณเป็น AFC rep 509 Nice guy ซินโดรม rep 510 กฎของธรรมชาติ : ความพ่ายแพ้ของ nice guy (สําคัญ) rep 538,539 กฎของธรรมชาติ : ความพ่ายแพ้ของ nice guy ภาค 2 (สําคัญ) rep 540,541 ดอนฮวนหายาก : รางวัลที่ผู้หญิงต้องการ rep 542,543 - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - • บทที่ 3 เรื่องราวจากประสบการณ์จริง ตัวอย่าง cocky+funny ตัวอย่าง cocky+funny2 กฎ 3 วินาทีและความสําคัญของการสบตา (สําคัญ) Social proof : ไม้ตายดอนฮวน ความน่าจะเป็น: หัวใจในการจีบสาว (สําคัญ) Nice guy story จีบจากการเป็นเพื่อน: ทําไมถึงไม่ควรทํา ให้สิ่งที่เธอต้องการคือการให้สิ่งที่เธอไม่รู้ว่าเธอต้องการ เธอถอยหนึ่งก้าวเราถอยสองก้าว ขอเบอร์สไตล์ดอนฮวน (สําคัญ) Infatuation : ศัตรูอันดับหนึ่งของดอนฮวน (สําคัญ) - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - • บทที่ 4 ทัศนคติที่ดี เปลี่ยนทัศนคติ ความเคารพ ดอนฮวนสมบูรณ์แบบ ทําตัวให้เหมือนเดิม AFC 3 ทัศนคติ (สําคัญ) เธอบอกไม่แต่ผมหัวเราะ เจาะลึกความคิด Dj และ AFC (สําคัญ) เกมมันเพิ่งเริ่มต้น : รักษาเธอเอาไว้ 33 ทฤษฎีดอนฮวน ภูมิคุ้มกันความสวย ให้โอกาสตัวเอง (สําคัญ) คุณต้องเริ่มก่อนเสมอ เปลี่ยนจากภายในและความเชื่อมั่น ดอนฮวนคือ ? ภาค1 : ความคิด ทัศนคติ New! ดอนฮวนคือ ? ภาค2 : ความรู้สึกต่อตัวเอง New! - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - • บทที่ 5 เสน่ห์ดึงดูดใจ การยิ้ม สุดยอดเคล็ดลับในการจีบสาว (สําคัญ) สัญญาณว่าเธอสนใจ มองที่ตาของเธอ 4C Neg-hit เธอ สุขุม มั่นคง เจมส์ บอนด์คอมบิเนชั่น (สําคัญ) The Ultimate Challenge : เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น เป็นแมนที่แท้จริง (สําคัญ) กําจัดทางเลือกของเธอให้หมดไป สัมผัส : เปิดประตูหัวใจเธอ ซุปเปอร์สตาร์ ความสุขของดอนฮวน : สิ่งที่สําคัญที่สุด (สําคัญ) - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - • บทที่ 6 พัฒนาการคุย การเป็นนักคุยที่ดี การเข้าไปคุยตามสถานการณ์ Trance word Value เทคนิคคุยโทรศัพท์ (สําคัญ) พจนานุกรมดอนฮวน สันนิษฐานว่าเธอจะซื้อจากคุณ (สําคัญ) keyword listening Cocky Funny+Sexual (สําคัญ) :: ================================================================================ ก่อนอื่นมาเริ่ม ต้องอ่านอันนี้ก่อน คำศัพที่ควรรู้ ถ้าไม่อ่านไม่รู้เรื่องแน่ จะอ้างอิงถึง และได้รู้ว่าอันไหนคือตัวคุณ don juan (ดอนฮวน),(dj) = เป็นคนที่มีสาวมาชอบมากมายเพราะมีลักษณะที่ดีของ nice guy และ jerk มารวมกันคือ เป็นคนที่เข้าใจผู้อื่น มีนํ้าใจ ไม่เคยทําร้ายใคร แต่ก็ไม่ยอมให้ใครทําร้ายเช่นกัน มีจุดยืน เชื่อมั่นในตนเอง ทําในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และทําในสิ่งที่ควรจะทํา สุขุม ควบคุมตัวเองได้ทุกสถานการณ์ เคารพตนเองและ ต้องการให้คนอื่นเคารพด้วยเช่นกัน ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ ตลก มองโลกในแง่ดีเสมอ มีความเป็นผู้นํา ฉลาด dj นั้นไม่ได้ให้ความสําคัญกับผู้หญิงจนเกินไป dj รู้ดีว่าผู้หญิงนั้นเป็นส่วนที่ดีส่วนหนึ่งในชีวิตไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต donjuan นั้นพัฒนาตนเองอยู่เสมอ nice guy = ผู้ชายที่หวังจะให้หญิงชอบ โดยการทําดีต่อเธอทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของขวัญให้ ตามใจผู้หญิง ไม่เคยปฎิเสธเธอ ไม่กล้าขัดใจหญิง เพราะกลัวว่าเธอจะไม่ชอบ ไม่มีความเป็นผู้นํา มองว่าผู้หญิงเป็นความสุขอย่างเดียวในชีวิต ผู้ชายประเภทนี้ส่วนใหญ่ตกหลุมรักง่ายมาก และคิดว่าตัวเองเป็นคนที่รักเธอมากที่สุด แต่สุดท้ายก็จะคิดได้ว่าสาวสวยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีแฟนเป็นผู้ชายลักษณะนี้ เนื่องจากไม่ค่อยมีลักษณะนิสัยที่ผู้หญิงต้องการ จะพบว่าผู้หญิงที่ชอบผู้ชายแบบนี้จะมีอายุแล้ว หรือไม่ก็แต่งงานแล้ว jerk = ตรงข้ามกับ nice guy แทบจะทุกอย่าง ผู้ชายประเภทนี้ไม่แคร์ใคร ไม่เคยยอมใคร เอาแต่ใจตัวเองเป็นหลักไม่สนใจความรู้สึกใคร ทําตามอารมณ์ของตัวเอง ผู้ชายประเภทนี้จะมีสาวมาชอบเยอะ เพราะแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวเองอย่างสูง และด้วยความไม่แคร์ใครจึงทําให้ลึกๆแล้ว ผู้หญิงรู้สึกท้าทาย (challenging) ที่จะทําให้ jerk มาชอบใครสักคน แต่ jerk ก็ขาดลักษณะที่ผู้หญิงชอบเช่นกันคือ ความสุขุม (calm) และการควบคุมตัวเอง(control) เพราะโดยส่วนใหญ่ผู้ชายลักษณะนี้จะเป็นคนที่วู่วาม ถึงแม้ว่า jerk จะมีสาวมาชอบเยอะ แต่ก็ไม่สามารถคบได้นาน cocky +funny = เทคนิคการพูดคุยตลกที่มีคําเสียดสี ประชด หรือการยกตนเอง แบบทีเล่นทีจริงอยู่ในประโยค ถ้าทําอย่างถูกวิธีแล้ว การคุยตลกเช่นนี้ผู้หญิงจะชอบมาก เนื่องจากจะแสดงความมั่นใจ ความมีพลัง อํานาจ ความฉลาดและแถมด้วยอารมณ์ขัน ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นลักษณะที่ดีที่จะทําให้หญิงมาชอบทั้งสิ้น การพูดแบบนี้โดยมากจะมา พร้อมกับการยิ้มแบบกวนๆนิดๆ social proof = การแสดงออกทางสังคม ที่หมายถึงว่าคุณเป็นคนที่มีคนยอมรับ หรือมีฐานะทางสังคมที่สูง social proof เป็นวิธีที่จะทําให้สาวมาหลงคุณได้เร็วที่สุด แต่ไม่ใช่จะทําได้ง่ายๆ เช่น การเป็นดารา หรือเป็นคนรวยแสดงให้เห็นว่ามี social proof สูง เทคนิคนี้โดยมากจะเป็นในกรณีที่คุณเดินไปกับเพื่อนๆผู้หญิงหน้าตาดีๆสัก หน่อย แล้วสาวคนที่คุณหมายปองมาเจอเข้า ทําให้เธอคิดว่าคุณเป็นคนที่มี social proof เพราะคุณเดินอยู่กับสาวๆ(เพื่อนคุณ) นั่นเอง หรือการตีซี้กับเพื่อนสนิทของสาวที่คุณชอบ แล้วพื่อนคนนั้นไปพูดสิ่งดีๆเกี่ยวกับคุณให้เธอฟัง อันนี้ก็ถือเป็น social proof เหมือนกัน neg-hit = เทคนิคนี้ส่วนใหญ่จะใช้กับสาวสวยมากๆ ประเภทพวก 8-9 จากคะแนนเต็มสิบ คือ การแซวหญิงโดยสังเกตจากจุดอ่อนของพวกเธอ อาจจะเป็นจุดบกพร่องทางนิสัย หรือทางหน้าตาเล็กน้อยๆ จุดประสงค์ของมันก็คือทําให้สาวสวยเหล่านั้น เปิดใจกับเรามากขึ้น ไม่คิดว่าตัวเองเลิศเลอ perfect ทําให้เธอคิดว่าเราอยู่ในระดับที่คู่ควรกับเธอ อีกนัยนึงคือ การทําลาย bitch shield นั่นเอง bitch shield = สาวสวยหลายคนจะมี bitch shield (กําแพงนางมารร้าย) โดยอัตโนมัติ กับคนที่เข้าไปจีบคือ อาจจะไม่ยอมพูดดีด้วย หรือทําตัวแบบหยิ่งๆ นี่เป็นผลมาจากสาวสวยนั้นส่วนใหญ่จะโดนผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้าไปรุมจีบ ซึ่งก็จะมีทั้งผู้ชายบ้ากาม หื่นๆ มากมาย สาวสวยเหล่านี้จึงต้องมี bitch shield ไว้ป้องกันตัว ไม่ให้โดน... ได้อย่างง่ายดาย จุดประสงค์อีกอย่างคือเป็นการทดสอบว่าผู้ชายที่เข้ามาจีบจะเหมาะสมกับเธอ หรือไม่ ถ้าทําลาย bitch shieldเธอได้แสดงว่าผู้ชายคนนั้นมีคุณสมบัติที่ดีที่จะเป็นแฟนเธอ การทําลาย bitch shield นั้นทําได้หลายวิธี เช่นcocky + funny หรือ neg-hit บางครั้งการแสดงออกว่ามีความมั่นใจสูงอย่างเดียวก็ทําลายได้ อันนี้แล้วแต่คน note-ผู้หญิงบางคนมี bitch shield ตั้งแต่เกิด คือ มี bitch shield ในสันด_น ผู้หญิงประเภทนี้ไม่ควรจีบต่อไปเพราะจะไม่ทําให้ชีวิตเราดีขึ้นมา AFC (average frustrated guy) = ผู้ชายที่ชอบมานั่งครุ่นคิด ว่า สาวๆจะชอบเค้ามั้ย เป็นพวกวิตกจริตว่าทําอย่างนี้แล้วเธอจะชอบเค้าหรือป่าว ทําอย่างนั้นแล้วเธอจะรักเค้ามั้ย เวลาจีบสาวไม่ติดพวกเค้าก็มัวแต่ถามตัวเอง ว่า ทําไม ทําดีอย่างนี้แล้วเธอยังไม่ชอบ ทําไมทําอะไรก็ไม่ดีไปหมด พวกเค้า ชอบหวังว่าถ้าเค้าเป็นอย่างนู้น เป็นอย่างนี้ก็คงดี เช่นถ้าหล่อกว่านี้อีกหน่อย ถ้ารวยกว่านี้อีกนิด สาวๆคงจะมาสนใจมากขึ้น พวกเค้าชอบนั่งซึม เศร้า โทษฟ้าดิน โทษคนนู้นที คนนี้ที ไม่ได่รู้เลยว่า ปัญหาที่แท้จริงมันฝังลึกอยู่ในทัศนคติของตัวเอง ซึ่งผู้ชายที่ชอบ คิดแบบนี้โดยส่วนใหญ่มักจะเป็น nice guy กันทั้งนั้น ====================================================================== 1.ปฐมบทจีบสาว: กําจัดความดิ้นรนให้หมดสิ้น นี่คือสิ่งที่เป็นพื้นฐานสําคัญที่สุดในการจีบสาว ต่อจากนี้ไม่ว่าคุณจะใช้วิธี เทคนิคใดๆก็ตาม เพื่อที่จะให้สาวสวยมาสนใจ ไม่ว่าพูด จะคิด หรือจะทําอะไรก็ตามในการจีบสาว คุณจะต้อง คิดย้อนมาถึงบทนี้เสมอ ไม่มีข้อแม้ใดๆเพราะทุกๆบทในเวปนี้มาจากหลักในเรื่องนี้ทั้งสิ้น ปฐมบทจีบสาว : ดอนฮวนขึ้นอยู่กับ ความคิด ทัศนคติ ไม่ใช่อยู่ที่คําพูดหวานๆ ในการจีบสาว นี่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องรู้สึกได้ว่าคุณมีบทนี้ไว้ในใจทุกเวลา ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที การที่จะเป็นดอนฮวนได้นั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีคําพูดเท่ๆไว้จีบ หญิงมากเท่าไหร่ มันไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณหล่อแค่ไหน มันขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณต่อผู้หญิง ชีวิตและสังคมโดยรวมต่างหาก ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ความคิดตรงนี้ได้สาวๆจะมารายล้อมคุณอย่างไม่น่าเชื่อ รับประกันอย่างแรงงงงง ไม่เข้าใจเหรอครับ อ่านต่อไป ผู้ชายส่วนมากต่างก็ดิ้นรนที่จะได้สาวๆสวยๆ มาควงกันแทบทั้งสิ้น ผม คุณหรือใครๆก็เคยรู้สึกกันมา แล้วทั้งนั้น แต่ว่านายตัวดิ้นรนนี่เองที่มันเป็นด่านแรกที่ขวางไม่ให้เรากลายเป็นดอนฮวน มันทําให้เรากลาย เป็นคนอ่อนแอไปโดยปริยาย จะยกตัวอย่างให้ดู ผมเคยลองถามเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันดูว่าทําไมเธอถึงไม่ชอบผู้ชายที่เข้ามา จีบเธอเลย ผู้ชายพวกนั้นไม่ดีตรงไหน (เธอเป็นคนที่ค่อนข้างสวยมาก มีคนเข้ามาจีบตลอดเวลา) เธอตอบทันทีเลยว่า เธอไม่ชอบพวกผู้ชายที่ดิ้นรนอยากจะมีแฟนจนตัวสั่น ไม่รู้จักควบคุมความต้องการของตัวเอง มันทําให้ เธอคิดว่าพวกผู้ชายเหล่านั้นกําลังจนตรอก ไม่มีใครเอามาเป็นแฟน พวกเค้านั้นให้ความสนใจเธอทุกเวลา พวกเค้าคิดถึงธอตลอด โทรหาเธอทุกวัน พูดคําหวานๆ ซื้อดอกไม้ ของขวัญ พวกเค้าไม่เคยขัดใจเธอแม้แต่ครั้งเดียว พวกเค้าแคร์ความรู้สึกเธอตลอดเวลา ไม่กล้าที่จะเปิดเผย ตัวตนที่แท้จริงออกมา ผู้ชายเหล่านี้หวังว่าการกระทําเช่นนี้จะทําให้เธอมาหลงรักได้ พวกเค้าเลยบูชาเธออย่างกับนางฟ้ามาเกิด!!!! พวกเค้าทําให้เธอคิดว่า"โอ้! อย่าจากผมไปนะ นางฟ้าของผม ผมรักคุณมาก ผมจะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไรโดยที่ไม่ มีคุณอยู่เคียงข้างกาย คุณคือทุกๆอย่างในชีวิตที่ผมต้องการ" ถ้าคุณทําอย่างนี้เวลาจีบสาวสวยละก้อ คุณกําลังทําสิ่งที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่สุด!!!! ผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายที่ดิ้นรนเกินไป ง่ายๆ สั้นๆ ได้ใจความ คุณไม่สามารถทําเช่นนี้แล้วหวังว่าเธอจะมาชอบคุณได้ คุณจะหวังว่าเธอจะมาชอบได้ยังไง ในเมื่อคุณกําลังบอกเธออยู่ว่าเธอดีกว่าคุณ เธอเหนือกว่าคุณ เธอเป็นนางฟ้า ในท้ายที่สุดพวกเธอนั้นก็จะทิ้งคุณไปหาคนอื่น คนใหม่ที่คู่ควรกับเทพธิดาอย่างเธอแทน อันนี้ไม่สามารถโทษผู้หญิงได้จริงๆ โลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่ นิยายที่ดอกฟ้าจะลงเอยกับหมาวัดเสมอไป ถ้าคุณจะเอานางฟ้าคุณก็ต้องเป็นเทพบุตร คุณต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงความคิด ความดิ้นรนตรงนี้โดยด่วนที่สุด แต่ว่าโชคดีครับที่เราสามารถจะขจัดนายตัวดิ้นรนนี้ออกไปได้ ด้วยทัศนคติของเรา เป็นวิธีเดียวที่ได้ผลและจะเป็น แค่วิธีเดียวเท่านั้น ไม่สามารถกําจัดออกด้วยวิธีอื่นครับ ไม่ว่าคุณจะใส่เสื้อผ้าราคาแพงแค่ไหน ทรงผมคุณจะเท่แค่ไหน ไม่ว่าหุ่นคุณจะบึกแค่ไหนก็ตาม มันก็จะยังอยู่ในตัวคุณ กําจัดออกได้วิธีเดียวเท่านั้น ทางความคิด (ทัศนคติ perspective) อย่าไปทําให้เธอคิดว่าเธอดีกว่าคุณเป็นอันขาด!!! อย่าไปบอกเธอว่า เธอเป็นรางวัลชีวิตที่คุณต้องการ ตรงกันข้ามคุณนั่นแหละเป็นรางวัลชีวิตที่เธอต้องการ พวกผู้ชายที่ดิ้นรนไม่ได้คิดอย่างนี้ และนั่นเป็นสาเหตุว่าทําไม พวกเค้าไม่สามารถจีบสาวได้อย่างที่ใจเค้าอยากจะให้เป็น หลักสําคัญก็คือให้คิดว่าคุณนี่แหละที่เป็นดอนฮวน คุณนี่แหละที่จะทําให้เธอมีความสุข ทําให้เธอหัวเราะได้ วิธีคิด : วิธีคิดที่ถูกต้องก็คือ คุณต้องคิดว่าคุณเป็นคนที่รวย อ๊ะๆๆๆ ไม่ใช่รํ่ารวย เงินทอง มากมาย แต่คุณรวยเสน่ห์ เป็นคนที่ใครเห็นแล้วก้อต้องหลงในเสน่ห์ หัวปักหัวปํา ถ้าคุณสามารถ คิดและบอกตัวเองได้อย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก้อ วันนึงคุณก็จะรู้สึกอย่างที่คิดจริงๆ และคุณก็จะเป็นอย่างที่ คุณคิดไว้จริงๆ ความด้นรนทั้งหลายแหล่จะถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่คุณคิดเอาไว้ นั่นคือ.... 1.ปฐมบทจีบสาว: กําจัดความดิ้นรนให้หมดสิ้น นี่คือสิ่งที่เป็นพื้นฐานสําคัญที่สุดในการจีบสาว ต่อจากนี้ไม่ว่าคุณจะใช้วิธี เทคนิคใดๆก็ตาม เพื่อที่จะให้สาวสวยมาสนใจ ไม่ว่าพูด จะคิด หรือจะทําอะไรก็ตามในการจีบสาว คุณจะต้อง คิดย้อนมาถึงบทนี้เสมอ ไม่มีข้อแม้ใดๆเพราะทุกๆบทในเวปนี้มาจากหลักในเรื่องนี้ทั้งสิ้น ปฐมบทจีบสาว : ดอนฮวนขึ้นอยู่กับ ความคิด ทัศนคติ ไม่ใช่อยู่ที่คําพูดหวานๆ ในการจีบสาว นี่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องรู้สึกได้ว่าคุณมีบทนี้ไว้ในใจทุกเวลา ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที การที่จะเป็นดอนฮวนได้นั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีคําพูดเท่ๆไว้จีบ หญิงมากเท่าไหร่ มันไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณหล่อแค่ไหน มันขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณต่อผู้หญิง ชีวิตและสังคมโดยรวมต่างหาก ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ความคิดตรงนี้ได้สาวๆจะมารายล้อมคุณอย่างไม่น่าเชื่อ รับประกันอย่างแรงงงงง ไม่เข้าใจเหรอครับ อ่านต่อไป ผู้ชายส่วนมากต่างก็ดิ้นรนที่จะได้สาวๆสวยๆ มาควงกันแทบทั้งสิ้น ผม คุณหรือใครๆก็เคยรู้สึกกันมา แล้วทั้งนั้น แต่ว่านายตัวดิ้นรนนี่เองที่มันเป็นด่านแรกที่ขวางไม่ให้เรากลายเป็นดอนฮวน มันทําให้เรากลาย เป็นคนอ่อนแอไปโดยปริยาย จะยกตัวอย่างให้ดู ผมเคยลองถามเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันดูว่าทําไมเธอถึงไม่ชอบผู้ชายที่เข้ามา จีบเธอเลย ผู้ชายพวกนั้นไม่ดีตรงไหน (เธอเป็นคนที่ค่อนข้างสวยมาก มีคนเข้ามาจีบตลอดเวลา) เธอตอบทันทีเลยว่า เธอไม่ชอบพวกผู้ชายที่ดิ้นรนอยากจะมีแฟนจนตัวสั่น ไม่รู้จักควบคุมความต้องการของตัวเอง มันทําให้ เธอคิดว่าพวกผู้ชายเหล่านั้นกําลังจนตรอก ไม่มีใครเอามาเป็นแฟน พวกเค้านั้นให้ความสนใจเธอทุกเวลา พวกเค้าคิดถึงธอตลอด โทรหาเธอทุกวัน พูดคําหวานๆ ซื้อดอกไม้ ของขวัญ พวกเค้าไม่เคยขัดใจเธอแม้แต่ครั้งเดียว พวกเค้าแคร์ความรู้สึกเธอตลอดเวลา ไม่กล้าที่จะเปิดเผย ตัวตนที่แท้จริงออกมา ผู้ชายเหล่านี้หวังว่าการกระทําเช่นนี้จะทําให้เธอมาหลงรักได้ พวกเค้าเลยบูชาเธออย่างกับนางฟ้ามาเกิด!!!! พวกเค้าทําให้เธอคิดว่า"โอ้! อย่าจากผมไปนะ นางฟ้าของผม ผมรักคุณมาก ผมจะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไรโดยที่ไม่ มีคุณอยู่เคียงข้างกาย คุณคือทุกๆอย่างในชีวิตที่ผมต้องการ" ถ้าคุณทําอย่างนี้เวลาจีบสาวสวยละก้อ คุณกําลังทําสิ่งที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่สุด!!!! ผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายที่ดิ้นรนเกินไป ง่ายๆ สั้นๆ ได้ใจความ คุณไม่สามารถทําเช่นนี้แล้วหวังว่าเธอจะมาชอบคุณได้ คุณจะหวังว่าเธอจะมาชอบได้ยังไง ในเมื่อคุณกําลังบอกเธออยู่ว่าเธอดีกว่าคุณ เธอเหนือกว่าคุณ เธอเป็นนางฟ้า ในท้ายที่สุดพวกเธอนั้นก็จะทิ้งคุณไปหาคนอื่น คนใหม่ที่คู่ควรกับเทพธิดาอย่างเธอแทน อันนี้ไม่สามารถโทษผู้หญิงได้จริงๆ โลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่ นิยายที่ดอกฟ้าจะลงเอยกับหมาวัดเสมอไป ถ้าคุณจะเอานางฟ้าคุณก็ต้องเป็นเทพบุตร คุณต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงความคิด ความดิ้นรนตรงนี้โดยด่วนที่สุด แต่ว่าโชคดีครับที่เราสามารถจะขจัดนายตัวดิ้นรนนี้ออกไปได้ ด้วยทัศนคติของเรา เป็นวิธีเดียวที่ได้ผลและจะเป็น แค่วิธีเดียวเท่านั้น ไม่สามารถกําจัดออกด้วยวิธีอื่นครับ ไม่ว่าคุณจะใส่เสื้อผ้าราคาแพงแค่ไหน ทรงผมคุณจะเท่แค่ไหน ไม่ว่าหุ่นคุณจะบึกแค่ไหนก็ตาม มันก็จะยังอยู่ในตัวคุณ กําจัดออกได้วิธีเดียวเท่านั้น ทางความคิด (ทัศนคติ perspective) อย่าไปทําให้เธอคิดว่าเธอดีกว่าคุณเป็นอันขาด!!! อย่าไปบอกเธอว่า เธอเป็นรางวัลชีวิตที่คุณต้องการ ตรงกันข้ามคุณนั่นแหละเป็นรางวัลชีวิตที่เธอต้องการ พวกผู้ชายที่ดิ้นรนไม่ได้คิดอย่างนี้ และนั่นเป็นสาเหตุว่าทําไม พวกเค้าไม่สามารถจีบสาวได้อย่างที่ใจเค้าอยากจะให้เป็น หลักสําคัญก็คือให้คิดว่าคุณนี่แหละที่เป็นดอนฮวน คุณนี่แหละที่จะทําให้เธอมีความสุข ทําให้เธอหัวเราะได้ วิธีคิด : วิธีคิดที่ถูกต้องก็คือ คุณต้องคิดว่าคุณเป็นคนที่รวย อ๊ะๆๆๆ ไม่ใช่รํ่ารวย เงินทอง มากมาย แต่คุณรวยเสน่ห์ เป็นคนที่ใครเห็นแล้วก้อต้องหลงในเสน่ห์ หัวปักหัวปํา ถ้าคุณสามารถ คิดและบอกตัวเองได้อย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก้อ วันนึงคุณก็จะรู้สึกอย่างที่คิดจริงๆ และคุณก็จะเป็นอย่างที่ คุณคิดไว้จริงๆ ความด้นรนทั้งหลายแหล่จะถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่คุณคิดเอาไว้ นั่นคือ.... การเป็น dj ที่สมบูรณ์แบบ หลายต่อหลายคนในที่นี้ก็เคยเป็นคนที่ไม่มั่นใจอย่างน้อยก็ในช่วงนึงของชีวิต และผมรู้ว่ามันไม่สนุกเลย บางคนที่มีปัญหาในการจีบหญิงนั้นก็ เอาแต่คิดว่าควรจะพูดกับ เธอคนนั้นไงดี เพื่อที่จะทําให้เธอมาชอบ หรือบางครั้งก็เอาแต่จําคําที่คิดว่าเท่ว่าดีเอาไว้พูดจีบหญิง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผิด ถ้าคุณได้อ่านเรื่อง กําจัดความดิ้นรนให้หมดสิ้น คุณคงพอจะเข้าใจว่า เคล็ดลับ สําคัญมันไม่ได้อยู่ที่คําพูด แต่มันอยู่ที่ ความคิด ทัศนคติของเราต่อผู้หญิงและต่อคนอื่นโดยทั่วไปต่างหาก นี่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องทําในการที่จะเป็น dj ที่สมบูรณ์แบบ คุณจะต้องเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่จน มันกลายเป็นธรรมชาติของคุณ เริ่มด้วยการที่คุณจะต้องให้ความสําคัญกับตัวคุณเองเป็นอันดับแรก คุณต้องเริ่มต้นด้วยการ ให้ความเคารพและรักตัวเอง แล้วคนอื่นถึงจะเคารพและรักคุณ อย่าไปคิดว่าคุณด้อยกว่าคนอื่น คุณไม่มีความสามารถ จริงๆแล้วคนเราทุกๆคนมีความสามารถที่อยู่ในตัวไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ เพียง แต่ว่าคุณยังหามันไม่พบเท่านั้นเอง ต่อมาคุณจะต้องเปลี่ยนทัศนคติต่อผู้หญิงซะใหม่ ผู้หญิงนั้นไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตแต่เป็นเพียงส่วนที่ดี ส่วนหนึ่งในชีวิตเท่านั้น คุณจะต้องไม่เอาความสุขในชีวิตของคุณไปขึ้นอยู่กับการกระทําของพวกเธอ ความสุขของคุณนั้นขึ้นอยู่กับตัวคุณเท่านั้น ผู้หญิงช่วยแต่งเติมให้มันมีสีสันมากขึ้นเท่านั้นเอง อย่างที่สามคุณจะต้องเรียนรู้ที่จะแก้ไขข้อบกพร่องของตัวคุณเอง ถ้าคุณคิดว่าคุณคุยกับสาวๆไม่ค่อยเก่ง ไม่ค่อยมั่นใจทางเดียวที่จะแก้ได้ก็คือออกไปคุยกับสาวๆ ลองคุยกับสาวๆแปลกหน้าดูบ้าง สัปดาห์ละ 5 คนก็เช่นไปซื้อของที่ seven ลองคุยกับแคชเชียร์สาวๆดูบ้าง ไปร้านหนังสือลองถามสาวคน ที่กําลังอ่านหนังสืออยู่ว่า หนังสือเล่มนั้นน่าสนใจมั้ย จุดประสงค์อันนี้ไม่ใช่การจีบ แต่เป็นการแก้ข้อบกพร่องของคุณ ในที่นี้คือการพูดคุยและความมั่นใจ ถ้ากลัวว่าเค้าจะไม่คุยด้วย หรือไม่กล้าที่จะคุยกับเค้า ก็เท่ากับว่าคุณปฎิเสธตัวเอง ปัญหาที่มี ก็จะยังอยู่ต่อไป จะแคร์ทําไมถ้าเธอพูดไม่ดีกับเราหรือทําตัวหยิ่งๆ อย่างนี้แสดงว่าเธอมีปัญหาอะไรบางอย่างใน สมองแล้วล่ะครับ! มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย ถ้าคุณบอกว่าปัญหามันแก้ยากเกินไปหรือมันเหนื่อยเกินไปที่จะแก้ คุณก็จะเป็นผู้แพ้ต่อไป คุณต้องเปลี่ยนความคิดตรงนี้ ถึงแม้เวปนี้จะสามารถช่วยคุณได้ในการบอกเทคนิค ทริคจีบสาว ที่ได้ผลก็จริง แต่ถ้าคุณไม่เอาไปใช้ในชีวิตจริง มันก็ไร้ความหมาย ต่อให้สุดยอดเทคนิคก็ไร้ค่า จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของ dj จริงๆแล้วไม่ใช่การจีบสาวให้ได้ แต่เป็นการปรับปรุงตัวเองตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ตลกว่าจะทําให้เรากลายเป็นคนที่มีลักษณะที่สาวๆชอบ หลายอย่าง และสาวๆจะเข้ามาหาเอง 55 และเมื่อคุณได้ปรับปรุงตัวคุณเองอย่างต่อเนื่องแล้วเมื่อถึงจุดหนึ่ง มันก็จะมาโดยธรรมชาติ คุณแทบจะไม่ต้องออกแรงใดๆเลย มันก้อเหมือนกับการที่เราหัดขี่จักรยาน เริ่มต้นแรกๆ คุณ ก็จะต้องล้มบ้าง เจ็บบ้าง แต่เมื่อคุณหัดไปสักพัก คุณก้อจะสามารถเริ่มขี่ได้อย่างช้าๆ เมื่อ คุณหัดไปอีกหน่อย คุณก็สามารถขี่ได้อย่างรวดเร็วและคุณไม่ต้องคิดพะวงเลยว่า คุณจะต้องทรงตัวยังไง ปั่นยังไง มันจะมาเองโดยธรรมชาติ ซึ่งการจีบสาวก็เป็นแบบเดียวกัน การที่จะเป็น dj ที่แท้จริงได้นั้นสิ่งที่สําคัญคือ การปรับปรุงตัวเองตลอดเวลา ซึ่งจะทําได้ทาง เดียวคือผ่านทางประสบการณ์ และทางเดียวที่จะได้ประสบการณ์ก็คือออกไปฝึกในชีวิตจริง อืมม แล้วคุณมัวรออะไรอยู่ ออกไปแก้ข้อบกพร่องจากประสบการณ์ซะแล้วคุณก็ จะกลายเป็นชายที่สมบูรณ์ แบบ ชายที่เป็น dj อย่างแท้จริง ชายที่สาวๆทุกคนเฝ้าหามานาน เสดแร้วบอกกุด้วยนะมิง ลงเยอะมิงขี้เกียจกานอีก ========================================================== ความสําคัญของหน้าตา? ถ้าคุณจะถามผมว่าหน้าตามีความสําคัญมั้ย? บอกได้เลยครับว่าสําคัญแต่ ไม่สําคัญมากอย่างที่คุณหรือใครๆคิดเลย ผู้ชายอย่างพวกเราตัดสินผู้หญิงด้วยหน้าตา ทรงผม หน้าอก เรียวขา ทรวดทรงมากกว่าสิ่งใดทั้งหมด ผู้ชายปิ๊งผู้หญิงที่ภายนอก (หรือถ้าจะไม่สนใจก็เพราะภายนอกเช่นกัน) ในขณะที่ผู้หญิงจะรู้สึกปิ๊งผู้ชายที่คําพูดและการกระทํามากกว่า นอกเสียจากกว่าผู้ชาย คนนั้นจะเป็นดาราดังหรือเป็นนายแบบ อะไรแบบนั้นผู้หญิงถึงจะรู้สึกปิ๊งที่หน้าตา (อันนี้พูดกันแบบโดยรวม) เป็นเรื่องปกติมากที่ผู้ชายส่วนใหญ่จะคิดว่าผู้หญิงชอบผู้ชายที่หน้าตาเช่น เดียวกัน ใช่ครับ ผู้หญิงปิ๊งที่หน้าตาแต่ก็แค่ถึงจุดหนึ่งเท่านั้น ผู้หญิงให้ความสําคัญกับหน้าตา น้อยกว่าความรู้สึกที่ผู้ชายคนนั้นสามารถให้เธอได้ หน้าตาดีจะทําให้คุณเข้าหาสาวๆ และทําความรู้จักกับพวกเธอได้ง่าย แต่ก็แค่นั้น ได้แค่นั้นจริงๆ หลังจากจุดนั้นแล้วมันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสามารถทําให้เธอรู้สึกดีได้อย่าง ไร ขึ้นอยู่กับ ความสามารถของคุณว่าจะทําให้สาวๆเค้าอบอุ่น มีความสุข สนุก และรู้สึกอยู่ลึกๆ ในใจว่าต้องการคุณได้อย่างไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ต้องสนใจหน้าตาคุณเลย ก็ได้ คุณควรจะใส่ใจกับรูปร่างหน้าตาเพื่อให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองอยู่เสมอ ไม่ต้องไปต่อ ให้คนอื่นหรอกครับ =========================================================== เมื่อถูกปฎิเสธ เป็นที่รู้กันว่าการจีบสาวนั้น ขึ้นอยู่กับจํานวนอย่างแท้จริง คนแรกปฎิเสธ คนที่สองบอกไม่ คนที่สามเดินหนี คนที่สี่ตกหลุมรักคุณ ลองคิดดูว่าถ้าคุณ ถอดใจตั้งแต่โดนปฎิเสธในครั้งแรก คุณจะเป็นยังไง คุณก็จะไม่ได้พบรักกับ สาวสวยคนที่สี่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สําคัญมากในการเล่นเกมนี้คือ การไม่ท้อถอย การไม่ท้อถอยเป็นสิ่งสําคัญที่ dj จะต้องมีไม่เช่นนั้น เค้าจะไม่มีวันไปถึงจุดมุ่งหมาย ที่ตั้งใจไว้ได้ คุณคิดว่าคนที่ประสบความสําเร็จในชีวิตเค้าถอดใจ เมื่อเค้าทําผิดพลาด เค้าล้มเหลวหรือเปล่า คุณคิดว่าไทเกอร์ วู้ด นั้นคิดอย่างไรเมื่อเค้าตีลูกตกนํ้าหรือพัทท์ลูกจากระยะ 2 ฟุตพลาด เค้าจะคิดว่า "แย่จริงๆ ฉันคงไม่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ เพราะแค่ลูกง่ายๆก็ยังตีพลาด" เค้าจะคิดอย่างนั้นหรือ? คุณคิดว่าไมเคิล จอร์แดนคิดกับตัวเองยังไงเมื่อเค้าดังค์พลาด หรือเลย์อัพลูกง่ายๆไม่ลง คุณคิดว่าไมเคิล โอเว่นบอกกับตัวเองว่า "ชั้นนี่มันห่วยจริงๆ ไม่มีฝีมือ" เมื่อเค้ายิงลูกโทษพลาดหรือครับ? ไม่มีวัน!!! สุดยอดผู้เล่นเหล่านี้ไม่เอาความผิดพลาดมาคิดให้รกสมอง พวกเค้าจะตั้งใจจดจ่อ อยู่กับการเล่น การทําคะแนนครั้งต่อไป พวกเค้ารู้ดีว่าเมื่อลงมาเล่นในสนามจะต้องเจอกับ ความผิดหวัง ความผิดพลาด ความเจ็บปวด ลองคิดดูว่ากี่ครั้งที่โอเว่นโดนเตะเข้าไปที่ขา กี่ครั้งที่โดนกระแทกจนล้มลง พวกเค้ารู้ดีว่าความเจ็บปวด ความผิดหวัง มันเป็นส่วนหนึ่ง ในเกม ถึงแม้พวกเค้าจะพลาดสักเท่าไร พวกเค้าก็ยังคงเล่นมันต่อไปอย่างสุดฝีมือ พวกเค้าเล่นเพื่อที่ จะเป็นผู้ชนะ!!! ต่อให้เก่งขนาดไหนก็ยังต้องมีวันที่ฟอร์มตก ต่อให้ dj ที่เซียนที่สุดในโลกก็ยัง มีวันที่จีบสาวไม่ติด มีวันที่ทําผิดพลาด แต่สิ่งที่ทําให้ dj แตกต่างจากผู้ชายธรรมดาทั่วไปคือ dj ไม่เคยท้อถอย dj รุ้ดีอยู่เสมอว่าเค้าจะต้องเจอกับการถูกปฎิเสธแน่นอน มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ ทุกคนจะต้องเจอ เค้ารู้ว่าเค้าสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ตลอดเวลา เค้าไม่เอาความผิดพลาดมายับยั้งไม่ให้เค้าทําในสิ่งที่ต้องการ เค้ายังคงกล้า ที่จะจีบสาวต่อไป ไม่ต้องห่วงว่าคุณจะทําผิดพลาด จงกล้าที่จะเล่นต่อไปเพราะโอกาสมีมาให้คุณอยู่เสมอ! แค่เล่นไปตามเกม มีสิ่งนึงที่จําเป็นมากที่ dj จะต้องรู้และทําความเข้าใจไว้ในการจีบสาว สิ่งนั้นก็คือ คุณจะต้องเข้าใจว่า ผู้หญิงนั้นไม่ได้ใช้ความถูกต้อง ไม่ได้ใช้ เหตุผลในการที่จะเลือกผู้ชายสักหนึ่งคน สิ่งที่เธอใช้นั้นคือ ความรู้สึกลึกๆของเธอว่าผู้ชายคนนั้นเหมาะสมกับเธอต่างหาก คุณไม่สามารถหวังว่า เมื่อคุณทําดีกับเธอมากที่สุด ทําดีกว่าผู้ชาย คนอื่นๆที่มาจีบเธอ แล้วเธอจะหันมาชอบคุณ ไม่ใช่ครับ!!! ความรักความชอบมันไม่ได้เกิดจากเหตุผล ความถูกต้อง ผู้หญิงนั้นจะคบกับผู้ชายที่เธอ "รู้สึก" ว่าเธอต้องการ พวกเธอจะทําในสิ่งที่เธอ "รู้สึก" ว่าต้องการ คุณไม่สามารถควบคุมผู้หญิงได้ทั้งหมด คุณทําได้เพียงแค่มีอิทธิพลต่อ การตัดสินใจของเธอบ้างเท่านั้น แต่สิ่งที่คุณควบคุมได้อย่างแท้จริงก็คืออารมณ์ และการกระทําของตัวคุณเอง ถ้าคุณเข้าใจในจุดนี้คุณจะรู้ว่า สิ่งที่คุณจะต้องทําในการจีบสาวนั้นก็แค่เล่นไปตามเกม ทําในสิ่งที่คุณสมควรจะทําตามสถานการณ์ที่เหมาะสมเหมือนที่ผมเข้าใจหลักการ ของมันแล้ว ผมเดินเข้าไปคุยกับสาวคนนึงในห้าง และขอเบอร์เธอด้วยความรู้สึก ที่ไม่แคร์ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาอย่างไร เป็นครั้งแรกในชีวิต! ผมแค่ทําไปตามความรู้สึกของผม ไม่สนใจสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น เธอบอกว่า เธอคงให้ไม่ได้ ผมเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม ผมเริ่มหัวเราะ ให้กับตัวเอง ไม่ใช่ว่าเยาะเย้ยตัวเอง แต่ผมไม่แคร์จริงๆว่าผมจะได้เบอร์ เธอหรือเปล่า!!! กาารที่ผมถูกปฎิเสธนั้นมันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับการที่ผมขอเบอร์เธอ โดยที่ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น ผมคือคนที่ได้รับการปลดปล่อยอิสรภาพ!!! ผมคือ คนเดียวที่ควบคุมอารมณ์และการกระทําของตัวเอง ผมทําสิ่งที่สมควรจะทํา ตามเหตุการณ์และอารมณ์ความรู้สึกที่เหมาะสม ไม่มีใครสามารถมีอิทธิพล เหนือมันได้นอกจากตัวผมเอง ถึงแม้ผู้หญิงอีก 100คนจะปฎิเสธ ก็ไม่สามารถจะ เอาความรู้สึกตรงนี้ไปจากผมได้ นี่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก เป็นการกระทําที่ประสบความสําเร็จอยู่ในตัวอยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องดูว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร การจีบสาวนั้นก็แค่ต้องเล่นไปตามเกม เราไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ ได้ แต่เราสามารถควบคุมวิธีที่กระทําได้ ทําไมคุณต้องไปกังวลกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เมื่อคุณไม่กล้า ผู้ชายแทบทุกคนนั้นต้องเคยเจอช่วงเวลาที่ไม่กล้าเข้าไปจีบสาว กลัวๆกันทั้งนั้น พวกเค้าได้แต่มองอยู่อย่างนั้น มองไปๆ เค้าบอกกับตัวเองว่า "โอ้! เธอน่ารักๆจริง ชอบๆๆๆ เราคงต้องเข้าไปจีบให้ได้" แต่แล้วเค้าก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ครึ่งชั่วโมงผ่าน หนึ่งชั่วโมงผ่าน ในใจก็คิดว่าอยากคุยกับเธอมาก แต่ขามันไม่ขยับ ปากมันสั่นๆ ร่างกายพวกเค้าเริ่มเป็นอัมพาฒ ควบคุมมันไม่ได้ แล้วเค้าก็บอกตัวเองว่า วันหน้ายังมีไม่เป็นไร วันหน้าคงมีโอกาสดีกว่านี้ไว้ปลอบใจตัวเอง มันช่างน่าเสียดายจริงๆ ผม คุณหรือใครๆก็เคยเจอกับมันมาแล้ว ใช่ครับเราทุกคนเคยเจอกับมัน เรารู้จักมันดี ความกลัว ความกลัวมันได้ยับยั้งไม่ให้เราทําในสิ่งที่ต้องการ มันทําลายโอกาส ทําลายความมั่นใจ มันเป็นสิ่งแรกที่ยับยั้งไม่ให้เราได้เธอคนนั้นมาเป็นแฟน มันไม่ได้ช่วยให้เราดีขึ้นมาเลย เรารู้กันว่าเราต้องขจัดความกลัวออกไปให้หมดจากสมองมิฉะนั้นเราจะแห้วเหมือน ที่ผ่านๆมา ทุกคนรู้ ทุกคนเห็นตรงกัน แต่คําถามมีอยู่ว่าเราจะขจัดมันออกไปได้อย่างไร? เอาล่ะ! ต่อไปนี้ทุกครั้งที่คุณเห็นสาวสวยสุดบาดใจแล้วนายตัวความกลัวนี้มันวิ่งเข้า ไปในสมองคุณ ผมอยากจะให้คุณลองใช้จินตนาการดู ให้คุณคิดถึงตัวคุณเองในอนาคตในอีกหลายสิบปีข้างหน้า ลองคิดดูถึงวันที่คุณอายุ 90 คุณแก่มากแล้ว หน้าเ!่ยวย่น ร่างกายคุณทรุดโทรม แม้แต่จะยืนยังลุกขึ้นไม่ไหวคุณได้แต่นอนอยู่บนเตียง ไม่สามารถทําอะไรได้ คุณไม่รู้เลยว่าจะอยู่ต่อไปได้นานอีกสักแค่ไหน "แก!! นายความกลัว เพราะแกคนเดียว แกคนเดียวที่ทําให้ชั้นต้องมานอนอยู่แบบนี้อย่างเดียวดาย แก ทําให้ชั้นพลาดโอกาสที่ดีมาตลอดทั้งชีวิต ซํ้าแล้วซั้าอีก มะเร็งที่ชั้นเป็นอยู่นี่มันจิ๊บจ๊อยมาก เมื่อเทียบกับความผิดหวังที่แกสร้างขึ้นมาให้ชั้น ชั้นต้องมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว ชีวิตชั้นมีแต่ ความผิดหวัง ล้มเหลวก็เพราะแกคนเดียว! ทําไมๆแกต้องมาอยู่ในชีวิตชั้นด้วย" เห็นหรือยังครับว่ามันน่ากลัวแค่ไหน ความกลัวการเข้าไปคุยกับสาวๆนั้นมันเด็กๆมาก เมื่อคุณคิดอย่างนี้แล้วคุณจะดีใจที่คุณยังหนุ่มยังแน่นอยู่ ยังมีกําลังที่จะจีบสาวได้ จงดีใจที่คุณมีโอกาสได้เจอหญิงที่คุณหมายปอง ใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์เมื่อคุณยังมีโอกาสอยู่ คุณไม่สามารถจีบสาวไปได้ทั้งชีวิตหรอก ทุกครั้งที่ผมจินตนาการแบบนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมแทบจะวิ่งเข้าไปหาเธอคนนั้นเลย ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง nice guy คนนึงเจอสาวที่ปิ๊งอย่างมาก เค้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่พบ เธอนี่แหละคือนางในฝันที่รอมานาน เค้าพยายามเข้าไปถามเพื่อนๆ เผื่อพอจะมีคนไหนบ้างที่รู้จักเธอโอ้! ช่างโชคดีเสียนี่กระไร เพื่อนของเค้ารู้จักเธอ เค้าเลยได้เบอร์โทรศัพท์เธอมา เค้ารวบรวมความกล้า โทรไปหาเธอ โอ้! โชคดีสองต่อ เธอคุยกับคุณ ดูเหมือนว่าเธอจะ perfect หมดทุกอย่าง เค้าวางหูจากโทรศัพท์ และโลกก็เปลี่ยนไปเป็นสีชมพู มองโต๊ะก็สีชมพู มองฟ้าก็สีชมพู มองหมาก็ยังเป็นสีชมพู เค้าตัดสินใจเลยว่า เธอเป็นผู้หญิงในฝันอย่างแท้จริง หลังจากนั้นมาเค้าก็ไม่สามารถคิดถึงเรื่อง อื่นๆได้อีก วันๆนั่งคิดถึงแต่เธอ เธอ เธอ แล้วก็เธอ เค้าก็พยายามโทรหาเธอทุกวัน ซื้อดอกไม้ ของขวัญให้ เค้าเอาใจเธอทุกอย่าง ถึงแม้ว่าต่อมาเธอดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสนใจเค้าเแล้ว แต่เค้าก็ไม่สามารถจะหยุดรักเธอได้ เค้าได้ให้ใจเธอไปหมดแล้ว แต่ว่าหยุดก่อน!!! หยุดก่อนคุณ Nice guy ถามจริงๆนะครับว่าในโลกนี้คุณควรจะรักใครมากที่สุดครับ (ไม่นับครอบครัวของคุณ) ใช่ครับ ตัวคุณเองไง คนที่คุณควรจะรักมากที่สุดคือตัวคุณเอง ทําไมคุณไปให้ใจของคุณกับ ผู้หญิงคนนึงเร็วขนาดนั้น ทําไมคุณไปให้ตําแหน่งผู้หญิงในฝันของคุณกับเธอเร็วขนาดนั้นครับ ทําไมคุณไม่ซื่อสัตย์กับตนเอง ผู้หญิงในฝันของคุณเป็นตําแหน่งที่สําคัญไม่ใช่หรือครับ ทําไมคุณไปมอบให้กับใครบางคนที่ ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองเลย เธออาจจะมีลักษณะภายนอกที่ดีเหมือนนางในฝันของคุณ แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าเธอจะมีคุณสมบัติที่ดีพอที่จะได้รับตําแหน่งนี้นะครับ ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นคนสัมภาษณ์คนที่มาสมัครงานในบริษัทคุณ ตําแหน่งนี้เป็นตําแหน่งที่สําคัญมาก สมมุติว่าเป็นตําแหน่งผู้บริหาร เป็นตําแหน่งที่จะชี้เป็นชี้ตายให้กับบริษัทของคุณ คุณพลิกไปดูประวัติ ผู้สมัคร และสะดุดตากับคนนึงซึ่งดูเหมือนว่าจะเหมาะสมกับตําแหน่งมาก คุณคิด "อืมม... เธอดูเหมือน จะเหมาะสมกับงานนี้ จบด๊อกเตอร์ จากต่างประเทศ เธอคงจะเหมาะกับตําแหน่งนี้แน่นอน ถ้างั้น ไม่ต้องสัมภาษณ์แล้ว ให้ตําแหน่งนี้กับเธอไปเลยแล้วกัน" คุณจะทําอย่างนี้หรือเปล่าครับ ไม่มีทางแน่นอน!! คุณยังคงต้องเรียกเธอมาสัมภาษณ์ คุณต้องให้เธอทดลองงานดูก่อน ให้เธอได้ พิสูจน์ตัวเองก่อนว่าเหมาะสมกับตําแหน่งจริงๆ หลังจากนั้นแล้วคุณถึงมอบตําแหน่งนั้นให้กับเธอ ตําแหน่งผู้หญิงในฝันเป็นตําแหน่งที่สําคัญมาก เธอต้องแสดงให้คุณเห็นก่อนว่าเธอคู่ควรกับมัน อย่าไปให้กับใครเพียงเพราะว่าคุณอยากจะให้เธอเป็นผู้หญิงในฝันของคุณ ถ้าคุณทําอย่างนั้นแสดงว่าคุณ ไม่ได้ซื่อสัตย์กับตัวเอง ไม่ได้รักตัวเอง มีแต่ได้ ผู้ชายหลายคนไม่เคยคิดเลยว่าจริงๆ แล้วในการจีบสาวพวกเค้ามีแต่ได้ ไม่มีเสีย พวกเค้ามัวแต่คิดว่าถ้าเข้าไปจีบเธอ พวกเค้าอาจจะต้องเสียหน้าถ้าเธอตอบปฎิเสธ พวกเค้าอาจจะต้องเสียใจเมื่อเธอไม่รับรัก พวกเค้ามัวแต่คิดว่าเค้าจะต้องเสียหายต่างๆนานา เป็นความคิดที่ผิดมหันต์!!! ผู้ชายที่คิดอย่างนี้ผมบอกได้เลยว่า จะไม่มีวันประสบความสําเร็จในการจีบสาว นี่เป็นเหตุผลสําคัญว่า ทําไมก่อนที่จะเป็น dj จะต้องคิดแบบ dj ให้ได้เสียก่อน การที่เราเข้าไปจีบสาวนั้น ถ้าเธอตอบปฏิเสธกลับมามันอาจจะทําให้เราเสียหน้า อับอาย เสียศักดิ์ศรีได้ ครับเมื่อก่อนผมก็คิดแบบนั้น แต่คุณรู้มั้ยครับว่ามันไม่ใช่ความจริงแม้แต่น้อย คุณลองคิดดูให้ดี สมมุติว่า คุณบังเอิญเดินไปพบกับสาวสวยคนหนึ่ง สวยแบบสุดบาดตาบาดใจ ใจหนึ่งคุณก็อยากเดินเข้าไปขอเบอร์ อีกใจนึงคุณก็ลังเลไม่แน่ใจ ว่าควร จะเข้าไปดีหรือไม่? ถามจริงๆคุณมีอะไรจะเสียครับ? ถามหน่อยว่าในตอนนี้คุณมีเบอร์เธอหรือยังครับ คุณรู้จักเธอหรือยัง ถ้าคุณเข้าไปแล้วเธอตอบปฏิเสธกลับมาคุณจะเสียอะไรครับ? คุณก็ไม่ได้เสียอะไร ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ให้เบอร์ คุณก็ยังไม่ได้เสียอะไร เพราะว่าคุณก็ไม่ได้มีเบอร์เธอตั้งแต่แรก คุณยังเป็นคนเดิมทุกอย่าง มี ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิม เหมือนตอนก่อนเข้าไปขอเบอร์เธอ คุณอาจจะคิดว่า "ไม่เสียอะไรได้ไง เสียดิ เสียหน้าไง เสียใจด้วย" มันไม่จริงครับ การที่คุณเข้าไปจีบสาวนั้น คุณมีแต่ได้ คุณได้ความกล้าที่จะเข้าไปคุยกับสาวสวยที่ผู้ชายอีกมากมาย ไม่เคยมี คุณได้ความเป็นแมน คุณได้เรียนรู้ว่าควรจะทําตัวอย่างไรเมื่อถูกปฎิเสธ คุณได้ทําประโยชน์ให้กับตัวคุณเองโดยการไม่ต้องมาเสียเวลา ในการที่จะเดาว่าเธอนั้นชอบคุณหรือเปล่า คุณได้พัฒนาทั้งด้านความคิดและการกระทํา พูดโดยสรุปก้อคิอคุณได้ประสบการณ์การจีบสาวบทใหม่ที่จะทําให้คุณกลายเป็น dj ในอนาคต!!! แล้วลองมาคิดดูว่าถ้าเธอเกิดให้เบอร์คุณมาล่ะ คุณจะได้อะไร โอวววว ช่างเป็นรางวัลที่งดงามเหลือเกิน การจีบสาวนั้นถ้าลองคิดดูให้ดีๆแล้ว คุณจะเห็นว่าจริงๆแล้วคุณมีแต่ได้ ไม่มีเสีย แล้วคุณยังไม่อยากที่จะเล่นเกมที่มีแต่ได้แบบนี้อยู่หรือเปล่าครับ!!! "ไม่" เป็นตัวของตัวเอง คุณเคยมีปัญหาเรื่องจีบสาวแล้วไปถามเพื่อนๆ กันบ้างมั้ยครับ ประมาณว่า "เฮ้ย! คุณบอกหน่อยสิว่าถ้าผมจะจีบน้องจอยเนี่ย ควรทําไงวะ" เพื่อนมันก็ให้คําตอบที่ประทับใจมาก " คุณเป็นตัวของตัวเองก้อพอ แล้วเข้า ไปจีบเลย เชื่อผม" "เหรอ มันได้ผลจริงเหรอวะ" "เออ ดิ" คุณกลับบ้านเปิดคอม แล้วไปโพสตามบอร์ดดังๆ ถามชาวบ้าน "เอ่อ... ถ้าผมชอบสาวอยู่คนนึงเนี่ย ผมควรเข้าไปจีบยังงัยครับ" สักพัก มาละ คําตอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก "คือ...พี่คิดว่าน้องควรจะเป็นตัวของตัวเองนะครับ" "ลองทําตามที่ใจคุณเรียกร้องสิคะ เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด" " ไม่ต้องทําไรมากครับ ทําอย่างที่คุณเป็นอยู่นี่แหละ ดีที่สุด จริงใจเข้าไว้" คุณเริ่มงง ไม่รู้จะเอายังไงดี เพราะว่าคําตอบเหล่านั้นไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาเลย ทุกคนบอกให้เป็นตัวของตัวเอง คุณครุ่นคิดสักพัก โพสถามไปใหม่ "เอ่อ..แล้วถ้ากะ..ผม เอ้ย! ผมนี่เป็นตัวของตัวเองมาตลอดเลย แต่ ทําไมยังไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมาเลยครับ" รอสักพักแล้วเค้าก้อจะตอบมาแนวๆว่า "ใจเย็นๆๆ ของๆเรายังไงมันก็เป็นของเรา แต่ถ้ามันไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่ ยังไงก็ต้องเจอคนที่ใช่สักวันนะ อ้อ! อย่าลืมว่าน้องต้องเป็นตัวของตัวเองนะ" ฮิตกันเหลือเกิน คําตอบแบบนี้เนี่ย ========================================================= แบบฝึกดอนฮวน เอาล่ะครับ คุณคงทราบดีแล้วว่า การที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็นดอนฮวนนั้นมันไม่สามารถที่จะเปลี่ยน กันได้ชั่วข้ามคืน ไม่ใช่ว่าคุณอ่านบทความในเวบหมดภายในคืนเดียวแล้ว พรุ่งนี้คุณจะกลายเป็นดอนฮวน เลยซะเมื่อไหร่ มันเป็นไปไม่ได้ครับ คุณต้องใจเย็นๆ อย่าไปเร่งมัน การเปลี่ยนตัวเองเป็น dj มันต้องใช้ เวลาพอสมควร จะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับว่าคุณจะจริงจังกับมันแค่ไหน คุณต้องนําบทความมากมายที่คุณเรียนรู้ในเวบไปไปฎิบัติ ไปใช้ในชีวิตจริง ต่อให้คุณจําทุกบทได้จนขึ้นใจแต่ ถ้าคุณไม่นําไปใช้มันก็ไร้ความหมาย ต่อให้เป็นสุดยอดเทคนิคก็ไร้ค่า เพราะฉะนั้นอ่านแล้วคุณต้องนําไป ปฎิบัติอย่างสมํ่าเสมอจนเป็นธรรมชาติของคุณ และเมื่อถึงจุดนั้นคุณก็จะรู้สึกเลยว่าคุณสามารถที่จะจีบสาวได้ อย่างที่ใจคุณต้องการ คุณจะไม่มีข้อจํากัดต่างๆมากมายที่คุณเคยมีอีกต่อไป มันก็เหมือนกับการที่เราวิ่งมาราธอนที่มันเป็นระยะทางที่ไกล แต่ถ้าคุณเดินหน้าไปเรื่อยๆๆๆๆ ทุกๆวัน สักวันคุณก็จะถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ เพราะฉะนั้นอย่าท้อแท้ครับ ถึงแม้ว่าวันนี้คุณอาจจะยังไม่สามารถ จีบสาวได้ แต่ผมรับรองว่าถ้าคุณตั้งใจ ทุ่มเทกับมันสักหน่อย อีกไม่นานหรอก สาวๆก็จะมารายล้อมคุณ เต็มไปหมด ทําไมผมถึงมั่นใจขนาดนี้เหรอครับ ก็เพราะว่าผมได้ผ่านจุดที่คุณเคยเป็นมาแล้วนะสิครับ ผมเคยรู้สึกท้อแท้ ผิดหวังมาแล้ว แต่ผมก็พยายามเรียนรู้มันจนมาถึงจุดที่ผมต้องการได้ ถ้าผมทําได้ คุณก็ทําได้ครับ เอาล่ะ มาถึงบทนี้ผมมีแบบฝึกดอนฮวนที่จะทําให้คุณสามารถพัฒนาตัวเองได้เร็วยิ่งขึ้น ผมเคยใช้มาแล้วและก็ได้ผลเป็นอย่างดี แบบฝึกนี้ไม่ยากเลยแต่ต้องใช้ความอดทนซักเล็กน้อย คุณถึงจะผ่านมันไปได้ แบบฝึกนี้จะใช้เวลาประมาณ 12 สัปดาห์หรือประมาณ 3 เดือน ครับ เริ่มแรกเลยคุณจะต้องมีกระดาษสักหนึ่งแผ่นที่จะเอาไว้จดคะแนนที่ทําได้ ระหว่างการฝึก กระดาษแผ่นนี้คุณจะพกติดตัวไปด้วยตลอดเวลา อย่าลืมพกปากกาไปด้วยอีกอย่าง Step 1--ระยะเวลา 2 สัปดาห์ สิ่งที่ปฎิบัติ: สบตาและยิ้ม ในช่วงที่ 1 นี้ เราจะเริ่มต้นด้วยสิ่งที่ง่ายที่สุดนั้นก็คือการที่คุณสบตากับสาวๆแล้วส่ง ยิ้มให้พวกเธอ คุณจะฝึกที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นห้าง โรงเรียน มหาลัย ที่ทํางาน ทุกที่ตามที่คุณต้องการ วิธีการก็คือให้คุณ เลือกสาวคนที่คุณต้องการจะสบตาและยิ้มให้กับเธอ แล้วหาจังหวะเวลาเธอหันมาหาคุณ พอเธอหันมาคุณก็สบตา และยิ้ม คุณสามารถจะสบตาและยิ้มให้กับเธอจากระยะไกลๆก็ได้ไม่จําเป็นต้องเข้าไปใกล ้ เช่น คุณนั่งอยู่ในร้านอาหาร เธอนั่งอยู่อีกโต๊ะ คุณก็สามารถทําได้ วิธีให้คะแนน : ถ้าคุณสบตาแล้วยิ้มกับพวกเธอให้เขียนเลข 1 ลงไปในกระดาษ แต่ถ้าคุณสบตาเฉยๆ ไม่ได้ยิ้มหรือไม่กล้าแม้กระทั่งสบตาให้เขียนเลข 0 ลงไปในกระดาษ ***พอผ่าน 1 สัปดาห์คุณก็เอากระดาษที่เขียนคะแนนมาดู หากเลข 1 มากกว่าเลข 0 อยู่ 10 ตัว คุณก็ผ่าน stepแรก แต่หากไม่ใช่ ให้คุณกลับไปเริ่มต้นใหม่ Step 2 --ระยะเวลา 2 สัปดาห์ สิ่งที่ปฎิบัติ: พูดสวัสดีครับ step 2 นี้คุณจะต้องเข้าใกล้ สาวๆมากว่าเดิมสักนิดนึง เพราะคุณจะต้องพูดคําว่า "สวัสดีครับ" ให้เธอได้ยิน คุณอาจจะพูดตอนที่คุณเดินสวนกับเธอระหว่างอยู่ในมหาลัยก็ได้ หรือเวลาใดๆที่โอกาสมาถึง แต่การพูดนี้จะต้องพูดกับสาวที่คุณไม่รู้จักเท่านั้น ถ้าคุณรู้จักเธอไม่นับ วิธีให้คะแนน : ถ้าคุณพูดสวัสดีครับกับเธอให้คุณเขียนเลข 1 ลงไปในกระดาษจดคะแนน ถ้าเธอหันมาสบตากับคุณแล้วแต่คุณไม่ได้พูดออกไปให้ใส่เลข 0 ลงไปในกระดาษ ***หมด 2 สัปดาห์ เอากระดาษที่จดคะแนนมาดู ถ้าคุณมีเลข 1 มากกว่า 0 อยู่ 10 ตัวคุณผ่านขั้นตอนที่ 2 ถ้าไม่ผ่านกลับไปเริ่มขั้นที่ 2 ใหม่ Step 3 --ระยะเวลา 4 สัปดาห์ สิ่งที่ปฎิบัติ: พูดคุยเล็กน้อยแล้วเดินจากไป step 3 เมื่อคุณเห็นสาวที่ต้องการแล้วให้เข้าไปคุยกับเธอบางอย่าง คุณจะเข้าไปพูดคุยเรื่องอะไรกับเธอก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเข้าไปถามเวลา คุยเรื่องหนังสือที่เธออ่านอยู่ คุยถามทาง อะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แล้วคุณก็เดินจากไป step 3 นี้คุณไม่ต้องใส่ใจ ว่าจะได้เบอร์เธอหรือเปล่า คุณเพียงแค่เข้าไปคุยกับเธอเท่านั้นพอ วิธีให้คะแนน : ถ้าคุณเห็นสาวแล้วคุณเข้าไปคุยกับเธอ ให้คุณเขียนเลข 1 ลงไปในกระดาษ ถ้าเธอว่างแต่คุณไม่กล้าไปคุยกับเธอไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ให้คุณเขียนเลข 0 ลงไปในกระดาษ ***ผ่าน 4 สัปดาห์ให้เอากระดาษจดคะแนนมาดู ถ้าเลข 1 มากกว่า เลข 0 อยู่ 10 ตัว คุณผ่านขั้นตอนที่3 Step 4 --ระยะเวลา 4 สัปดาห์ สิ่งที่ปฎิบัติ: พูดคุยทําความรู้จักแล้วขอเบอร์ Step 4 นี้คุณจะต้องหาสาวคนที่คุณต้องการขอเบอร์ จากนั้นให้เข้าไปแนะนําตัว พูดคุย พยายามคุยให้รู้ว่าเราเข้าไปจีบแต่แต่อย่าลืมทําตัวแบบไม่ซีเรียส แฝงไว้ด้วยรอยยิ้มเสมอ แล้วสุดท้ายก่อนคุณไปคุณจะขอเบอร์เธอ เพื่อเอาไว้โทรจีบในวันหลัง คุณอาจจะพูดเข้าไปขอเบอร์ตรงๆเช่น "สวัสดีครับ ผมชื่อ... คุณชื่ออะไรครับ" "ผมอยากรู้จักคุณ เบอร์โทรศัพท์คุณเบอร์อะไรครับ" เข้าไปขอตรงๆเลยก็ได้ไม่ผิดกฎหมายครับ ***การที่จะผ่าน step นี้ คุณจะต้องได้เบอร์สาวๆอย่างน้อย 4 คน และคุณจะต้องถูกสาวๆปฎิเสธอย่างน้อยทั้งหมด 10 คน หากคุณได้เบอร์มา 4 คน แต่คุณถูกปฎิเสธแค่ 3 คน คุณยังไม่ผ่าน คุณจะต้องถูกสาวๆปฎิเสธให้ครบ 10 คนก่อน สําคัญมากนะครับเพราะการที่คุณถูกปฎิเสธนั้นจะทําให้คุณเก่งขึ้นในอนาคต เป็นหัวใจสําคัญในการจีบสาว พอคุณสามารถผ่านขั้นตอนต่างๆมาได้จนหมดแล้ว รับรองว่าคุณจะมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ที่จะเข้าไปพูดคุยกับสาวๆ คุณจะมีประสบการณ์มากกว่าผู้ชาย 90% ที่ไม่เคยกล้าเข้าไปคุยกับพวกเธอ คุณจะพัฒนาเกมการจีบสาวของคุณสูงขึ้นไปอีกระดับนึง แต่สิ่งที่สําคัญยิ่งกว่านั้นก็คือคุณจะเห็นว่าการจีบสาว นั้นเป็นเรื่องที่สนุกสุดๆ คุณสามารถที่จะจีบใครก็ได้ตามที่คุณต้องการ คุณจะไม่กลัวการจีบสาวอีกต่อไปตลอดกาล!!! ================================================= ระดับความสนใจ ระดับความสนใจนี้คือระดับความสนใจทางด้านโรแมนติกของเธอที่มีต่อคุณ หรือจะพูดง่ายๆ ว่า เธอชอบคุณแบบแฟนมากแค่ไหนนั่นเอง ระดับความสนใจนี้จะทําให้คุณ สามารถรู้จักสังเกตุเธอได้ คุณจะรู้ว่าคุณมีโอกาสแค่ไหนกับสาวที่จีบอยู่ คุณจะรู้ว่าคุณควรจะทําอย่างไรที่จะเพิ่มความสนใจของเธอ มีประโยชน์มาก 90-100%- รัก เธอคิดว่าคุณคือคู่รักแท้ของเธอ และพยายามทําทุกอย่างเพื่อที่จะแสดงให้คุณเห็นว่าเธอรักคุณมากแค่ไหน เธอจะไม่คิดถึงผู้ชายคนไหนอีกเลย คุณคนเดียวเท่านั้นที่เธอต้องการ ไม่ว่าคุณจะทําผิดอะไรเธอก็รับได้เสมอ 80 ถึง 89% หลงหัวปักหัวปํา ผู้หญิงคนนี้จะยอมตามใจคุณแทบทุกอย่าง เธอจะว่างเสมอเวลาที่คุณชวนเธอไปไหนด้วยกัน เวลาที่คุณอยู่กับเธอ เธอจะอารมณ์ดีเสมอๆ ผู้หญิงคนนี้จะโทรหาคุณตลอดเวลา อยากพบคุณ ทุกวัน เธอจะยอมแม้กระทั่งนั่งรถเมล์มาหาคุณที่บ้าน ถ้าคุณไม่ยอมไปหาเธอ เธอจะเล่าเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตเธอให้คุณได้ฟัง และจะขําไปกับมุขตลกที่คุณพูด ทั้งๆที่คุณไม่คิดว่ามันตลกแม้แต่นิดเดียว เพราะแค่การได้พบคุณก็เป็นสิ่งที่ทําให้เธอ มีความสุขอย่างมากแล้ว ความสุขของเธอขึ้นอยู่กับการกระทําของคุณอย่างแท้จริง เธอจะจดจํารายละเอียดเล็กๆน้อยๆของคุณได้เป็นอย่างดี เธอจําแม้กระทั่งว่าคุณทําอะไร วันไหน คุณใส่ชุดสีอะไรเมื่อ 5 วันที่แล้ว เธอจําสิ่งที่คุณพูดได้เสมอ และฝันถึงคุณ เสมอๆเวลาที่คุณไม่อยู่ ถ้าเธอมีแฟนอยู่แล้วเธอจะยอมทิ้งแฟนเธอเพื่อมาคบกับคุณ เรียกได้ว่าเธอคือ nice girl ที่จะยอมคุณแทบทุกอย่าง คุณคือ ดอนฮวนสําหรับเธอ ยินดีด้วยครับบบบบบ!!! 60 ถึง 79% ชอบ ผู้หญิงคนนี้คิดว่าคุณมีเสน่ห์มากทีเดียว ความสนใจระดับนี้เป็นระดับที่เธอจะยอมเป็นแฟนกับคุณ เธอจะยินดี เปิดเผยให้เพื่อนๆเธอได้รู้เลยว่า คุณนี่แหละคือแฟนของเธอ เธอจะพูดได้คําว่า "แฟน" ได้อย่างเต็มปากเต็มคํา เวลาคุณกอดเธอ เธอก็จะกอดคุณกลับ เวลาคุณจูบเธอ เธอก็จะตอบสนองกลับมาด้วยดี เวลาที่คุณพูดอะไรขึ้นมาเธอก็จะให้ความสนใจ เธอจะถามเรื่องราวเกี่ยวกับตัวคุณมากมาย เพราะเรื่องของคุณก็มีความหมายกับเธอเช่นกัน เธออาจจะทดสอบคุณบ้างโดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจ เช่น เรียกร้องให้คุณมาสนใจเธอตามธรรมชาติของผู้หญิงอาจจะแกล้งงอนให้คุณง้อบ้าง ในบางเวลา หรืออาจจะพยายามให้คุณพูดว่าชอบเธอ แต่โดยปกติแล้วทุกๆอย่างจะไปได้สวย เวลามีข้อขัดแย้งก็จะสามารถแก้ไขไปได้ด้วยความรวดเร็ว ง่ายดาย วิธีเพิ่มระดับความสนใจ: พยายามท้าทายเธอพอสมควร เมื่อเธอชวนคุณไปเที่ยวปฏิเสธเธอไปบ้าง อย่าว่างที่จะเจอตลอดเวลา มิเช่นนั้นความสนใจเธอจะน้อยลงกว่าเดิม เธอจะเห็นคุณเป็นของตาย 40 ถึง 59% สนใจ ระดับนี้เป็นระดับที่ผมชอบเรียกว่า "กิ๊กๆกันอยู่" เธอค่อนข้างที่จะให้ความสนใจคุณมากพอสมควร รู้สึกว่าคุณอาจจะเป็นผู้ชายที่เธอต้องการก็เป็นได้ เมื่อคุณชวนเธอออกเดทมีโอกาสสูงที่เธอจะตอบตกลงไปกับคุณ เธอจะคิดถึงคุณบ้างเป็นครั้งคราว อาจจะโทรมาหาคุณบ้างเมื่อเธอมีเวลาว่าง เธออาจจะยอมให้คุณจับมือถือแขน แต่ก็อาจจะยังไม่ยอมให้คุณทําอะไรมากไปกว่านั้น การที่เธอได้ใช้เวลาอยู่กับคุณ เธอจะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าเธอนั้นยังไม่แน่ใจอย่างเต็มที่ว่าคุณจะเหมาะสม กับเธอหรือไม่ เธอแค่รู้สึกว่า "น่าจะไปด้วยกันได้" เท่านั้น เธอยังมีความคิดที่ว่าคุณอาจจะยังไม่ใช่คนที่ดีที่สุดสําหรับเธอ วิธีเพิ่มระดับความสนใจ: อย่าพยายามรีบเร่งทําให้เธอเป็นของคุณ คุณจะต้องไม่ใจร้อน คุณไม่อยากจะให้เธอคิดว่าคุณเป็น AFC เลยแม้แต่นิดเดียว เพิ่มความ cocky+funny เข้าไปให้มากๆ , Neg-hit เธออย่างสมํ่าเสมอ, พยายามอย่าทําอะไร ที่มันน่าเบื่อ เช่น พาเธอไปดูหนังทุกๆ เสาร์ คุณไม่อยากจะให้เธอนั้นสามารถเดาคุณออกได้ พยายามเปลี่ยนแปลงกิจกรรมที่ทําบ้าง ให้เธอเดาไม่ออกว่าคุณจะทําอะไรต่อไป , ถ้าคุณสามารถโชว์ social proof ได้จะเป็นการดีมากความสนใจเธอจะเพิ่มขึ้นในทันที Note: nice guy ส่วนมากติดอยู่แค่ level นี้ เพราะชอบไปเอาใจผู้หญิงมากเกินจําเป็น จากที่เธอเริ่มสนใจกลับทําให้เธอสนใจน้อยลง จนกระทั่งเหลือแค่ 0% 20 ถึง 39% เริ่มสนใจ ผู้หญิงที่คุณไปขอเบอร์ส่วนใหญ่มักจะเริ่มสนใจคุณในระดับนี้ คือเธอเริ่มที่จะรู้สึกว่าคุณมีคุณสมบัติที่ด ีที่เธอชอบในผู้ชาย อาจจะประทับใจในความกล้าที่คุณเข้าไปขอเบอร์เธอ แต่ยังไม่ได้รู้สึกว่าจะคุณจะดี เลิศเลอ เธอจะคุยกับคุณเมื่อคุณโทรไปแต่จะยังไม่โทรหาคุณแน่นอนถ้าไม่มีเรื่องจํา เป็นให้โทร เธอยังรู้สึกว่าคุณจะต้องแสดงให้เธอได้เห็นก่อนว่าคุณมีอะไรที่มากกว่านั้น โอกาสที่เธอจะตอบตกลงเวลาคุณชวนเธออกเดท ถึงแม้ว่าจะไม่มากแต่ก็ยังมีโอกาสอยู่ เธออาจจะปฎิเสธคุณก่อนสักครั้งสองครั้งแล้วจึงตกลงผู้หญิงคนนี้จะท้าทายและ ทดสอบคุณอยู่เสมอๆ เพื่อดูว่าคุณจะมีความสามารถรับมือกับมันได้ดีแค่ไหน เช่น ทําตัวไม่สนใจคุณ เวลาออกเดทอาจจะมีสิ่งที่ ทําให้เธอต้องรีบกลับ เธออาจจะมีเวลาให้เพื่อนเธอแต่ไม่มีเวลาให้คุณ เป็นต้น วิธีเพิ่มระดับความสนใจ: อย่าไปทําให้เธอคิดด็ดขาดว่าคุณบูชาเธอเหมือนางฟ้า!!! อย่าโทรไปทุกวัน อย่า messege บอกรัก!!! ถ้าคุณโทรไปแล้วเธอไม่สามารถคุยได้นาน บอกว่ามีธุระต้องไปทํา ให้เธอไป อย่าไปตื้อพยายามที่จะให้เธอคุยต่อ คุณไม่อยากที่จะให้เธอคิดว่าเธอคุมเกมอยู่ คุณต้องทําให้เธอรู้ว่าคุณชอบที่จะได้มาคุยหรือมาเที่ยวด้วยกัน แต่เธอก็ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งของคุณ คุณยังสามารถที่จะไปหาสาวอื่นที่สวย น่ารักกว่าเธอได้ ถ้าคุณไปแสดงออกว่าดิ้นรนอยากจะเป็นแฟนกับเธอแม้แต่ครั้งเดียว เธอจะหนีคุณไปในทันที, คุณต้องให้เธอรู้ว่าคุณสามารถแบ่งปันความสุขให้เธอได้ เจมส์บอนด์คอมบิเนชั่นและ 4C ในบทที่ 5 ก็จะช่วยให้เธอสนใจมากขึ้นได้ในระดับนึง Note: พวก nice guy มักจะทําผิดพลาด โดยที่พอเธอเริ่มที่จะให้ความสนใจเพียงเล็กน้อย พวกเค้าก็เทใจให้เธอจนหมดสิ้นยอมเธอทุกอย่าง ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง!!! 0 ถึง 19% รู้สึกว่าคุณเริ่มเข้ามา ผู้หญิงคนนี้จะยังไม่ได้มีความสนใจคุณในด้านโรแมนติกเลยหรือถ้ามีก็น้อยมาก จนไม่อาจสังเกตุเห็นได้ เรียกว่าเธอรู้สึกได้ว่าคุณเริ่มเข้ามาในชีวิตแต่เธอยังเฉยๆอยู่ ซึ่งไม่ต้องกังวลไป มันอาจจะเป็นเพราะว่า คุณยังไม่มีโอกาสได้แสดงคุณสมบัติที่แท้จริงของคุณให้เธอรู้ เธอก็เลยยังไม่รู้สึกอะไร -1 ถึง -30% เฉยๆค่อนไปทางไม่อยากยุ่ง ระดับนี้เป็นระดับที่ผมเรียกว่า Point of no return คือไม่ว่าคุณจะทําอะไรก็ตามความสนใจเธอก็จะ ไม่เพิ่มขึ้นอีกแล้ว เป็นระดับที่ความสนใจเธอจะมีแต่ลดลงไป ไม่มีทางหวนกลับมา เธอนั้นไม่ได้สนใจคุณเลย เธอรู้สึกไม่อยากจะคุยกับคุณ ไม่ค่อยอยากเจอหน้าคุณ ผู้หญิงที่มีความสนใจในระดับนี้จะไม่ค่อยรับโทรศัพท์ คุณหรือถ้ารับจะคุยได้ไม่นานมีธุระตลอด เวลาบังเอิญเดินมาเห็นคุณก็จะเลี่ยงเดินไปอีกทาง เธอจะเจอคุณก็ต่อเมื่อสถานการณ์มันบีบบังคับ เช่น ทํางานที่เดียวกัน หรือเรียนอยู่ห้องเดียวกัน สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะทําได้ และควรจะทําก็คือไปขอเบอร์สาวสวยคนต่อไปซะ ไม่มีประโยชน์ที่จะจีบเธออีกต่อไปแล้ว -31 ถึง -60% หลบเลี่ยง เธอจะรู้สึกไม่ชอบใจในสิ่งที่คุณทํา ถ้าคุณพยายามเข้าไปคุยกับเธอ เธอจะคิดว่าคุณ เป็นคนผู้ชายที่โรคจิต ชอบตามตื้อ เธอจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะให้เธอไม่ต้องมาเจอกับคุณ เธออยากจะให้คุณหายตัวไปจากโลกนี้ -61 ถึง -100% เกลียด เลี่ยงทุกวิถีทาง เธอเกลียดคุณมาก เธอจะคิดได้แค่ความไม่ดีของคุณ เธอไม่เคยมองเห็นสิ่งที่ดีของคุณเลย เธอจะไม่เคารพคุณแม้แต่นิดเดียว เธอจะแสดงออกในทุกๆทางให้คุณรู้ว่าอย่ามายุ่งกับเธอ ไปไกลๆอะไรทํานองนี้ เห้อกุหล่ะเบื่อ =================================================================== ไล่ความกลัวออกไปวันนี้ ตั้งแต่พวกเราเป็นเด็กจนถึงปัจจุบันเราเคยได้ยินกันมาไม่รู้กี่ร้อยครั้ง แล้วว่า ทําอะไรอย่าผลัดวันประกันพรุ่ง มันดูเหมือนเป็นสิ่งง่ายๆ แต่ว่าเราก็ไม่ค่อยจะได้ทําตามกันสักเท่าไร เรายังคงทําทุกอย่างเมื่อเราอยากจะทํา ถ้าไม่อยากทําเราก็บอกตัวเองว่า เอาไว้วันหลังก็ได้ ลองมานั่งคิดดูกันว่าทําไมเค้าต้องสอนเราว่าอย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ทําไม ทําไม ทําไม ทําไม ทําไม ทําไม? เพราะชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน!!! และด้วยความไม่แน่นอนนี่เองที่มันทําให้ผมคิดได้ถึงความเป็นจริงของชีวิต ที่พวกเรามักจะมองข้ามไป เป็นสัจธรรมของชีวิต เราทุกคนไม่ได้เป็นอมตะ สักวันนึงเราทุกคนก็ต้องตาย ทุกคน!!! พวกเราหลายๆคนก็ยังอยู่ในช่วงที่เป็นวัยรุ่นอยู่ บางคนอาจจะอายุ 19 บางคนอาจจะ20 21 เคยรู้สึกเหมือนผมมั้ยครับว่าช่วงเวลาเหล่านี้จะอยู่กับเราตลอดไป ไม่มีที่สิ้นสุด เคยรู้สึกกันมั้ยครับ? แต่เชื่อผมเถอะว่าช่วงเวลาเหล่านี้มันจะจากพวกเราไปสักวันนึง และมันก็จะไม่หวนคืนมาอีก เชื่อผมเถอะ!!! อีกไม่นานหรอก คุณและผมก็จะแก่ตัวลงไปและก็จะไม่สามารถทําอะไรได้อย่างที่ต้องการเหมือน ช่วงที่เป็นวัยรุ่นนี้อีก เวลาที่คุณอายุ 40 คุณอาจจะยังมีเวลาหลงเหลืออยู่ในชีวิต แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว บางสิ่งมันเปลี่ยนไป คุณรู้แล้วว่าช่วงเวลาวัยรุ่นไม่อาจหวนคืนกลับมาอีก คุณรู้มั้ยครั้บว่าทางเดินชีวิตของพวกเรามักจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เรา เป็นวัยรุ่นนี่แหละ เราจะเดินไปทางไหน จะดีหรือไม่มันขึ้นอยู่กับช่วงเวลานี้ สิ่งที่คุณทําวันนี้จะเป็นตัวกําหนดอนาคตของคุณ การตัดสินใจในสิ่งต่างๆของคุณในวันนี้มันจะตามไปหลอกหลอนคุณในวันข้างหน้า ทําให้คุณรู้สึกเสียใจในสิ่งที่คุณไม่ได้ทํา หรือไม่ก็มันจะทําให้คุณรู้สึกภาคภูมิใจเพราะคุณได้ทําในสิ่งที่สมควรจะทํา คุณได้ทําในสิ่งที่เหมาะสม คุณลองถามตัวเองดูสิว่า ถ้าเกิดคุณต้องตายไปในตอนนี้ ในวินาทีนี้ คุณยังต้องเสียใจอะไรอีกหรือไม่? คุณยังมีสิ่งที่ติดค้างอะไรในชีวิตนี้หรือไม่? คุณได้ทําในสิ่งที่คุณสมควรทําหรือเปล่า? คุณมีความสุขกับชีวิตที่ผ่านมาหรือเปล่า? ลองจินตนาการกันดูเลยดีกว่า ให้คุณคิดจริงๆเลยว่า มีนายบ้าที่ไหนไม่รู้อยู่ดีๆ มันเอาปืนมาจ่อหัวคุณ ในตอนนี้ วินาทีนี้ แล้วมันก็ถามคุณว่า "ก่อนตาย ขอถามสักคําว่า แกมีความสุขกับขีวิตแกหรือเปล่า? แกมีความสุขกับสิ่งที่แกทํามั้ย?" คุณจะตอบว่าอะไรครับ ใช่ หรือ ไม่ใช่ พวกเราอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ไมีใครรู้ พรุ่งนี้เราอาจจะถูกรถชนตอนที่เราเดินข้ามถนน หรือเราอาจจะ เกิดป่วยเป็นโรคร้ายแรงกระทันหันก็ได้ พวกเราไม่สามารถควบคุมความตายได้ มันจะมาเมื่อไหร่ เวลาไหน ที่ไหน เราควบคุมไม่ได้ เราอาจจะเป็นคนที่อายุยืนถึง 90 ปี แต่เราก็อาจจะโชคร้ายเหมือนกับอีกหลายๆคนที่ตายตั้งแต่ อายุยังน้อย ชีวิตมันไม่แน่นอน ผมมีเพื่อนรุ่นพี่อยู่คนนึง แกอายุจะ 40 แล้ว ผมนับถือแกมากเพราะแกคอยให้คําปรึกษากับผมในหลายๆเรื่อง รวมถึงเรื่องผู้หญิงด้วย แกเคยเล่าประวัติชีวิตให้ผมฟังว่า เมื่อตอนช่วงแกยังวัยรุ่นนั้น แกเป็นคนที่ขี้อายมากๆ เป็นคนที่ไม่กล้าที่จะเข้าไปจีบสาวๆเลย ถึงแม้ว่าแกจะมีเพื่อนที่เป็นผู้หญิงอยู่บ้างแต่ก็ไม่เคยจีบใครสักคน เวลาที่แกไปเจอสาวๆตามที่ต่างๆ แกไม่กล้าแม้แต่ที่จะสบตา หรือถ้ารวบรวมความกล้ามองเธอได้ เวลาเธอหันมาแกก็ ต้องหลบตาพวกเธอทุกครั้งไป แกบอกผมว่าตลอดชีวิตวัยรุ่นของแก แกเจอสาวสวยตลอดเวลา แต่ก็ไม่เคยมีความกล้า เข้าไปคุยกับสาวๆเหล่านั้นเลยสักครั้ง ไม่เคยกล้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว แกพลาดโอกาสทองมาโดยตลอด!!! แกคิดว่าแกคงไม่สามารถจีบพวกเธอได้ แกคิดอยู่เสมอว่าสถาณการณ์มันไม่เป็นใจในการจีบสาว และแกก็เรียนจบมา ทํางาน แกเป็นคนมีรายได้ดี มีรถ มีบ้าน เป็นคนที่ประสบความสําเร็จ และก้อเพิ่งแต่งงานไปได้ไม่กี่ปี แกบอกผมว่า ถึงแม้แกจะรู้สึกว่าแกมีความสุขกับชีวืตที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่แกก็เสียดายที่ใช้ชีวิตไม่คุ้ม แกปล่อยให้ชีวิตวัยรุ่นแก ผ่านไปอย่างปล่าวเปลี่ยว เดียวดาย แกไม่เคยมีแฟนเลยในช่วงวัยรุ่น แกบอกว่าถ้าเอาเวลาช่วงนั้นกลับมาได้ก็คงดี และก็บอกผมว่าอย่าทําเหมือนที่แกเคยทํา ใช้ชีวิตให้คุ้ม อยากทําอะไรก็ทํา ตราบใดที่มันไม่ได้ทําให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่อย่างนั้นจะต้องมานั่งเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทํา ผมจะเล่าอีกเรืองนึงให้คุณฟัง ผมมีเพื่อนอยู่คนนึง เป็น AFC มันชอบมาถามผมเสมอๆ ทําไมมีสาวๆมาชอบผมเยอะ ถามว่ามันควรจะทํายังไงในการจีบสาว ผมก็บอกมันไป แต่รู้อะไรมั้ยครับ มันไม่เคยเอาไปปฎิบัติเลย เวลามันไปเที่ยวกับผม มันเจอสาวที่ชอบ มันก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นแหละ มันหวังที่จะให้ผู้หญิงมาสนใจมันก่อน มันถึงจะกล้าเข้าไปคุย และนั่นก้อเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย หลังจากนั้นมันก็ชอบที่จะมาบ่นให้ผมฟังว่า ทําไมมันจีบสาวไม่ได้ ทําไมมันไม่มีแฟนซะที มันชอบคิดว่ามันไม่หล่อพอ มันคงเป็นโรคไม่ถูกกับผู้หญิงมั้ง ผมบอกกับมันไปว่า.... ความกลัว ใครจะไปสนว่าเธอจะชอบคุณหรือเปล่า คุณทําสําเร็จ คุณขจัดความกลัวออกไปแล้ว!!! คุณได้ชนะสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คุณเอาชนะมันได้แล้ว!!! เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผมเคยกลัวการเข้าไปคุยกับสาวๆมากครับ โคตรๆๆๆๆๆกลัว เวลาเห็นสาวสวยเดินผ่านมา แล้วนายตัวความกลัวนี่มันก็จะเริ่มคุยกับผมทันที คิดว่ามันก็คงเคยพูดกับคุณเหมือนกัน "อ๊ะ อ๊ะ คุณชอบเธอใช่มั้ยล่ะ? อยากเข้าไปคุยกับเธอล่ะสิ แต่ผมขอเตือนคุณว่าอย่าดีกว่า เพราะเธอไม่มีทางชอบคนอย่างคุณหรอกโว้ยยยย!!! ดูสารรูปตัวเองซะก่อน หล่อก็ไม่หล่อ รวยก็ไม่รวย อย่าหวังเลย คนอย่างคุณไม่มีทางจีบสาวสวยติดหรอก เพราะคุณไม่มีอะไรดีไง คุณก็เป็นได้แค่คนธรรมดาๆที่ไม่มีใครต้องการ คุณก็จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปตลอดกาล ไม่กล้าเข้าไปขอเบอร์ละซิ นายขี้ขลาด!!! สมนําหน้า สะใจโว้ยยยย ผมทําให้คุณกลัวหัวหดเลย 555 ผู้หญิงสวยๆไม่เอาคนอย่างคุณเพราะคุณขี้ขลาดไง และคุณก็จะต้องทนอยู่กับผมไปตลอดกาล คุณก็จะต้องตกอยู่ใต้อํานาจผมไปตลอดชีวิต นายขี้ขลาด 5555555" หุบปากเดี๋ยวนี้!!! นายความกลัว ไสหัวไปเลย คุณควบคุมผมไม่ได้หรอก เพราะว่าผมจะทําสิ่งที่คุณไม่คาดฝัน ผมจะเข้าไปคุยกับเธอ!!! แค่นั้นแหละสิ่งที่คุณต้องทํา ไล่มันออกไป อย่าให้นายความกลัวมันชนะคุณ! อย่า! ลองคิดดูสิถ้าคุณไม่มีความกลัว คุณสามารถที่จะทําอะไรก็ได้ตามที่ใจคุณต้องการ คุณเห็นสาวสวยที่คุณต้องการ คุณก็สามารถเข้าไปคุยได้อย่างไม่มีปัญหา คุณจะทําได้อย่างดีด้วย คุณคือคนที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง คุณได้รับการปลดปล่อยอิสรภาพและคุณก็จะประสบความสําเร็จอย่างแน่นอน ความกลัวมันยับยั้งไม่ให้คุณได้ในสิ่งที่คุณสมควรได้ คุณต้องหันหน้าสู้กับมัน ถ้าคุณไม่สู้มันวันนี้ คุณก็ต้องสู้กับมันวันข้างหน้าอยู่ดี เอาล่ะ ผมมีปัญหาอยู่ข้อนึงให้คุณได้คิดกัน สมมุติว่าคุณเดินอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญคุณโชคร้าย ไปเหยียบเศษแก้วที่อยู่บนพื้น คุณร้องดังลั่น โอ้ยยย!!! และมองดูที่เท้าตัวเอง ปรากฎว่า เลือดไหลนอง เศษแก้วนั้นก็บาดลึกเข้าไปในเท้าคุณ คุณรู้ว่าคุณต้องเอาเศษแก้วนั้นออก แต่คุณจะเอาออกด้วยวิธีไหน วิธีแรก คุณค่อยๆ ดึงเศษแก้วออกมาอย่างเบาๆ ช้าๆ เพราะคุณกลัวว่าจะเจ็บ แต่ว่ามันบาดลึกมาก ทุกๆครั้งที่คุณค่อยๆ ดึงมันออกมา มันก็ยังเจ็บจนนําตาร่วงอยู่ดี วิธีที่สอง ด้วยความที่คุณกลัวว่าถ้าดึงออกแล้วจะเจ็บปวดมาก คุณไม่อยากจะดึงเศษแก้วออกมาเลย คุณเลยปล่อยมันไว้ แล้วรอให้มีเทวดามาเสกมันออกจากเท้าโดยที่คุณไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดเดียว ( ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้! ) วิธีที่สาม หรือว่าคุณจะกลั้นใจดึงมันออกมาภายในครั้งเดียว เลือดอาจจะไหลนอง แต่มันจะเจ็บแค่วินาทีเดียว แล้วความเจ็บจะหายไป หลังจากนั้นคุณก็รีบทําแผลใส่ยา คุณจะเลือกข้อไหนครับ? ถ้าคุณเลือกข้อสองคุณคือ AFC เต็มตัว คุณหนีปัญหาที่ยังไงคุณก็ต้องแก้มันสักวันนึง คุณหนีมันไม่พ้น ถ้าเป็นผม ผมขอเลือกข้อสามให้มันเจ็บเพียงแปปเดียวแล้วหายไปเลยดีกว่า สิ่งสุดท้ายในบทนี้ที่ผมอยากจะบอกก็คืออย่ารอที่จะไล่ความกลัวออกไป อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ทํามันวันนี้! เดี๋ยวนี้! ชีวิตเราไม่ได้เป็นอมตะ และไม่ได้ยาวนานอย่างที่หลายๆคนคิดหรอกครับ ชีวิตคนเราโดยเฉลี่ยอย่างมากก็ประมาณ 70 ปี คุณด้วย 365 ได้ 25,550 นั่นหมายความว่าเวลาของคุณ เหลืออย่างมากสุดไม่น่าเกิน 25,550 วัน สมมุติคุณอายุ 20 ปีและอยากจะจีบสาวสวยให้ได้ก่อนคุณอายุ 30 คุณมีเวลาเหลือประมาณ 10 ปี นั่นคือประมาณ 3,650 วัน ถ้าคุณอายุ 20 นะครับ คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณ อยู่บนโลกใบนี้มา 7,300 วันแล้ว!!! หรือว่ายังจําตอนฉลองปีใหม่ตอนขึ้นปี 2000 ปีMillennium ได้มั้ยครับ ดูเหมือนมันเพิ่งผ่านมาไม่นานนี่เองใช่มั้ย? คุณรู้มั้ยครับว่าเหตุการณ์นั้นมันผ่านมากว่า 1,000 วันแล้ว!!! แล้วคุณมีเวลาประมาณแค่ 3,000 วันที่จะเอาความกลัวออกไป น่าเป็นห่วงมั้ยล่ะครับ เวลามีเหลือไม่มากเท่าไหร่ ปล่อยความกลัวมันออกไปครับ!!! ปล่อยมันออกไป!!! ไร้ความกลัว ไร้ความกังวล ไร้ความกลัว ไร้อุปสรรค คุณจะเป็นอิสระและคุณจะมีความสุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต! ===================================================== ความเข้าใจผิดในการจีบสาว ความเข้าใจผิดข้อที่ 1 : คุณต้องเป็นคนรวย คนดัง หรือหน้าตาดีเท่านั้นถึงจะจีบสาวสวยติด โอวววววว ผู้ชายแทบทุกคนต้องเคยคิดแบบนี้อย่างน้อยสักครั้งนึงในชีวิตอย่างแน่นอน ผมก็เคยคิดแบบนี้และผมก็รู้ว่าคุณก็เคยคิดเหมือนกัน ผู้ชาย AFC ทั้งหลายแหล่ ไม่เคยที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดอันนี้ได้ พวกเค้าชอบคิดว่า พวกเค้าไม่มีความสามารถในการจีบสาว ผู้ชาย AFC อาจจะมีความกล้าลองจีบสาวสวยดูสักครั้ง สองครั้ง แต่แล้วก็โดนพวกเธอปฎิเสธ พวกเค้าหันไปมองรอบข้างเห็นพวกผู้ชายที่หน้าตาหล่อๆ หน้าตาดีเดินควงสาวสวย ที่เค้าต้องการ หันไปอีกทางเห็นผู้ชายขับรถ Benz โดยมีสาวสวยนั่งอยู่ข้างๆ "โลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ" AFC คิด พวกเค้ารู้สึกท้อแท้ หัวใจแตกสลาย เมื่อเห็นสาว ขาว สวย หมวย อึ๋ม เดินผ่านมา AFC ก็จะ เอาความเข้าใจผิดอันนี้มาเป็นข้ออ้างในการที่จะไม่เดินเข้าไปจีบเธอ ปล่อยให้โอกาสนั้นมันหลุดลอยไป หลังจากนั้นก็จะมานั่งโทษสังคม โทษผู้หญิง โทษคนอื่นๆ โดยไม่เคยคิดที่จะหันมาแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง แม้แต่สักครั้งเดียว ใช่ การที่เราเป็นคนที่มีเงินเป็นล้านๆหรือการที่เราเป็นคนที่ดังเหมือนดารานัก ร้องจะทําให้มีสาวสวยเข้ามาให้เลือก อย่างมากมาย มันถูกต้องและมันคือความเป็นจริง แต่ว่าคนธรรมดาๆทั่วไปก็มีสิทธิ์ที่จะควงสาวสวยเหมือนกัน ถ้าเข้าใจธรรมชาติของการจีบสาว "ผู้หญิงชอบผู้ชายเข้มแข็งที่เป็นแมนอย่างแท้จริงและมีความอ่อนโยนซ่อนอยู่ ในเวลาเดียวกัน" และสิ่งนี้คุณก็ทําได้โดยไม่จําเป็นต้องหล่อ รวยหรือเป็นคนดัง การฝึกการจีบสาวมันก็เหมือนกับการที่เราฝึกทักษะอื่นๆทั่วไป เช่นฝึกเล่นฟุตบอล ถ้าอยากจะเก่ง คุณก็ควรจะมีทั้งพรสวรรค์และความพยายาม แต่ถ้าไม่มีพรสวรรค์ ขอให้คุณมีความพยายามที่จะเรียนรู้มากๆ คุณก็สามารถเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ นักฟุตบอลอาชีพหลายคนไม่ได้เก่งเพราะมาจากพรสวรรค์แต่มาจากความพยายามครับ จีบสาวก็เหมือนกันถ้าคุณไม่รวย หล่อ หรือ ดัง(ไม่มีพรสวรรค์) คุณก็ต้องใช้ความพยายาม เรียนรู้ธรรมชาติของผู้หญิง และคุณก็จะสามารถเก่งเท่ากับหรืออาจจะเก่งกว่าคนที่มีพรสวรรค์ด้วยซํา เหมือนที่คนชอบพูดกันว่า อัจฉริยะมาจากพรสวรรค์ 10% นอกนั้นอีก 90% มาจากความพยายาม คุณสมบัติที่คุณต้องมีในการเล่นเกมจีบสาวสวยนี้มีอยู่แค่ 3 อย่าง 1.คุณเกิดเป็นผู้ชาย 2.ความพยายาม 3.ความเข้าใจธรรมชาติของผู้หญิง ความเข้าใจผิดข้อที่ 2 : ผู้หญิงสวยมักมีแฟนกันหมดแล้ว ไม่มีตัวเลือกมากนักหรอก มาอีกแล้วววว ข้ออ้างสุดฮิตอันดับ 2 ที่ AFC ชอบใช้อ้างว่าเป็นสาเหตุที่ทําให้เค้าไม่สามารถ จีบสาวสวยได้ "พวกสาวสวยมีแฟนกันหมดแล้วนี่ จะให้ทํายังไง" ไม่น่าแปลกใจเลยที่ AFC จีบสาวสวยไม่ติด ก้อเพราะว่ายอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มนี่เอง ข้ออ้างข้อนี้เป็นข้ออ้างที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง คุณลองมองไปรอบๆตัวคุณ สมัยนี้สิ ผู้หญิงสวยๆ น่ารักๆ หุ่นดีๆ เดินกันให้เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ลองเดินไปตามห้างหรือ siamsquare แล้วลองนับดูสิครับ เป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน แม้ว่าบางคนจะสวยด้วยแพทย์ก็ตามที 555 แต่ยังไงก็ตามคุณจะเห็นได้ว่าผู้หญิงสมัยนี้สวยขึ้นกว่าเดิมมาก และก็มีมากเกินกว่าที่คิดเอาไว้ด้วย เยอะจริงๆ เวลาเดินออกไปนอกบ้านตามที่ต่างๆ ขอแค่คุณเปิดหูเปิดตาเอาไว้บ้างเท่านั้นคุณก็จะพบสาวที่ถูกใจ ที่คุณชอบได้ไม่ยาก เอาล่ะ ผมมีข่าวดีและข่าวร้ายจะบอก ข่าวดีก็คือ มีผู้หญิงสวยอีกมากมายที่กําลังมองหาผู้ชายสักคนนึงในทุกๆวัน ผู้ชายอย่างคุณนั่นแหละ คนที่เข้าใจธรรมชาติพวกเธอ คนที่นําความสุข ความตื่นเต้นมาให้ได้ ข่าวร้ายก็คือคุณต้องเป็นคนออกไปพบพวกเธอ ไม่ใช่รอให้เธอมาหา ความเข้าใจผิดข้อที่ 3 : แสดงออกว่าคุณรักเธอ ทําดีกับเธอมากๆ จริงใจกับเธอที่สุด แล้วเธอจะหันมาชอบเอง ข้อนี้ก็เป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงอีกข้อนึง ผมเห็นผู้ชายทําผิดพลาดในข้อนี้ตลอดเวลา!!! ครับ ผมรู้ว่ามันสมเหตุสมผล ที่เราชอบใครแล้วเราก็ควรจะทําดีกับเธอให้มากๆ และเมื่อเราทําดีกับเธอมากๆเธอก็จะหันมาชอบเรา มันเหมือนว่าน่าจะเป็นแบบนั้น มันดูเหมือนว่าน่าจะถูกต้องเพราะมันเป็นเหตุเป็นผลกันใช่มั้ย? ผิดถนัดเลยครับ ผู้ชายที่คิดว่าต้องเป็น nice guy เข้าใจเกมการจีบสาวสวยผิดอย่างสิ้นเชิง!!! วิธีจีบหญิงแบบ nice guy แบบนี้จะได้ผลถ้าคุณไปจีบผู้หญิงที่ไม่ค่อยสวยและไม่ค่อยจะมีคนเข้ามาจีบ พวกเธอจะดีใจแน่นนอน เพราะทั้งชีวิตแทบจะไม่เคยเจอคนมาจีบและคอยเอาใจ มันเป็นความแปลกใหม่ของพวกเธอ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ มีผู้ชายเข้ามาจีบเต็มไปหมด คุณคิดว่ามันจะได้ผลหรือครับ? ตอบได้ 3 อย่างคือ ไม่ ไม่ และก็ไม่ ผู้หญิงสวยต้องการมากกว่าแค่มาคอยเอาใจ ทําดีด้วย เพราะผู้ชาย 80% ที่มาจีบเธอ รับรองได้ว่า จะต้องเข้ามาจีบแบบ nice guy ซึ่งผู้ชายกลุ่มนี้ก็จะถูกเธอตัดออกไปในทันทีโดยที่เธอไม่ต้องคิดเลย คราวนี้มันก็จะเหลืออีกประมาณ 20 % ที่แตกต่างกว่าพวก nice guy ที่เธอตัดออก คนที่สามารถท้าทายเธอ และดึงดูดความสนใจเธอได้ หลักของการจีบสาวจริงๆก็คือ ผู้หญิงต้องการโดนจีบโดยคนที่จีบเป็น คนที่น่าตื่นเต้น สนุกสนาน เข้มแข็ง โรแมนติก ไม่ใช่หวังพึ่งแค่ว่าความดีอย่างเดียวก็สามารถเอาชนะใจเธอได้ ผู้ชายที่ทําตัว nice guy กับเธอ เธอมีมากเกินพอดีแล้ว เธอเบื่อ ให้ในสิ่งที่เธอขาดไม่ดีกว่าเหรอครับ? ความเข้าใจผิดข้อที่ 4 : ผู้หญิงไม่ชอบคนดี ชอบคนเลว AFC และ nice guy เปิดตามองไปรอบๆตัว เห็นพวกเพื่อนๆที่เป็น jerk ต่างมีแฟนเป็นสาวสวยกันหมด พวกเค้าก็เริ่มงง สับสนกับชีวิต "ตกลงผู้หญิงสวยไม่ชอบคนดี คนจริงใจแต่ชอบคนเลวใช่มั้ยเนี่ย?" nice guy สรุปเอาเอง "ไม่ใช่ๆ ผู้หญิงไม่ชอบคนเลว" ผมบอก "อ้าว คุณเวบมาสเตอร์ก็คุณบอกผมเองว่าเวลาจีบสาวสวยห้ามไปทําดีกับเธอ พวกเธอไม่ชอบ อย่างนี้ก็แสดงว่าผู้หญิงชอบคนเลวอะดิ แสดงว่าผมต้องเป็น jerk ให้มากที่สุดใช่มั้ย?" การที่ตั้งใจจะเป็น jerk แบบสุดๆก็ผิดเหมือนกัน สาวสวยไม่ได้ชอบ jerk เพราะว่า jerk เลว เข้าใจมั้ยครับ? สาวสวยชอบ jerk เพราะว่า jerk มีลักษณะเป็นผู้ชาย เป็นแมน และในทางตรงกันข้าม สาวสวยไม่ชอบ nice guy ไม่ใช่เพราะว่าทําดีเกินไป ไม่ใช่เพราะจริงใจเกินไป สาวสวยไม่ชอบ nice guy เพราะ nice guy ไม่เป็นผู้ชาย อ่อนแอ ผู้หญิงยังชอบคนดี ความดีไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าความดีต้องมาทีหลังความเป็นชายเท่านั้น!!! คุณสามารถให้ดอกไม้เธอได้หลังจากที่คุณแสดงออกให้เธอเห็นแล้วว่าคุณเป็นคน เข้มแข็ง มั่นใจ คุณสามารถพูดจาหวานๆ ภาษาดอกไม้กับเธอได้หลังจากที่คุณแสดงออกให้เธอเห็นแล้วว่าคุณเป็นผู้นํา คุณสามารถเอาอกเอาใจเธอได้หลังจากที่คุณแสดงให้เธอเห็นแล้วว่าคุณมีจุดยืน ของตัวเอง พูดง่ายๆก็คือ คุณทําตัวอ่อนโยนได้หลังจากที่คุณมีความเป็นชายอยู่ในตัวคุณแล้วเท่านั้น!!! ถ้าความดีมาเป็นอันดับแรก เธอจะจัดคุณอยู่ในกลุ่ม nice guy อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าความเป็นชายมาก่อนล่ะก็ ความดีก็จะเป็นอาวุธเสริมที่ดีของเรา ความเข้าใจผิดข้อที่ 5 : ผู้หญิงรู้ว่าพวกเธอต้องการอะไร ถามเธอสิว่าเธอต้องการอะไร เคยสังเกตุมั้ยครับว่า ผู้หญิงมักจะชอบบอกว่าชอบผู้ชายแบบนึง แต่สุดท้ายก็ไปลงเอย กับผู้ชายอีกแบบนึง ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงมักจะบอกว่าชอบคนดี คนที่น่ารัก จริงใจ แต่ว่าแฟนตัวจริงของเธอคือนายหนุ่มที่กินเหล้าและเที่ยวทุกวัน แถมเจ้าชู้อีกต่างหาก มีเพื่อนของแฟนผมคนนึง เธอบอกว่าชอบผู้ชายที่โรแมนติก อบอุ่น แต่ว่าแฟนของเธอน่ะ เป็น jerk แบบสุดๆ แฟนเธอไม่เคยให้ของขวัญหรือดอกไม้กับเธอแม้แต่ครั้งเดียว แถมยัง ชอบใช้กําลังทําร้าย ตบตีเธออีกด้วย ทําไมเธอพูดว่าชอบผู้ชายอย่างนึงแต่ว่าไปคบกับผู้ชายอีกแบบนึงรู้มั้ยครับ? ก็เพราะว่าเวลาที่เราถามว่าพวกเธอต้องการอะไร พวกเธอจะบอกลักษณะของผู้ชายที่แฟน หรือว่าแฟนเก่าของเธอให้ไม่ได้ มีเพื่อนผู้หญิงของผมอีกคนนึง แฟนเก่าของเธอเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบเลย เธอแทบจะต้องทําทุกอย่างให้ ทั้งรีดผ้า ซื้อกับข้าวให้กิน แม้กระทั่งเวลาลงทะเบียนเรียน ยังต้องให้เธอเป็นคนลงให้ หลังจากที่เธอเลิกกับนายหมอนี่แล้วผมก็ถามเธอว่า เธอต้องการผู้ชายแบบไหน เธอตอบว่า "ต้องการคนที่พึ่งพาตัวเองได้ มีความรับผิดชอบ เป็นผู้ใหญ่และช่วยเหลือเราได้" เวลาถามผู้หญิงว่าต้องการผู้ชายแบบไหน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยว่าคําตอบของเธอ เป็นสิ่งที่ไม่มีในตัวแฟนหรือแฟนเก่าเธอ ถ้าแฟนเธอเป็น jerk แน่นอนว่าเวลาถามเธอ เธอก็จะตอบว่าต้องการคนที่ทําดีกับเธอ เพราะนั่นมันจะเติมเต็ม ทําให้แฟนเธอ perfect ถามว่าคําตอบที่ได้ไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบอย่างนั้นหรือ? เปล่าครับเธอชอบครับแต่คําตอบที่เธอให้มาจะเป็นแค่ส่วนเสริมที่จะทําให้แฟน ของเธอ perfect เท่านั้น ไม่ใช่สิ่ง ที่เธอชอบอันดับแรก ผู้ชายส่วนมากนึกว่าคําตอบที่เธอตอบมาเป็นสิ่งแรกที่เธอชอบจริงๆ ซึ่งมันไม่ใช่ การไปถามผู้หญิงว่าชอบผู้ชายแบบไหน ก็เหมือนกับให้ จอร์จ บุช ไปถามซัดดัมว่า "ซัดดัม บอกมานะ ว่าโรงงานผลิตอาวุธเคมีอยู่ที่ไหน?" คําตอบที่ได้จะบิดเบือนไม่มากก็น้อย 555 ============================================================== - บทที่ 2 - ---------------------------------------------------- Jerks vs. nice guys เคยสงสัยกันบ้างมั้ยครับว่าทําไม jerk จึงดูเหมือนว่าจะเป็นที่ถูกใจของสาวๆ มากกว่า nice guy เคยคิดมั้ยครับว่ามันแปลกๆ ทัาไมผู้ชายที่เอาอกเอาใจเธออย่าง nice guy ถึงไม่ได้อะไร ในขณะที่พวก jerk เดินควงสาวสวยๆเต็มไปหมด จริงๆแล้วผู้หญิงต้องการผู้ชายแบบไหนกันแน่ พวกเธอต้องการคนที่มีความมั่นใจ อย่างสูงอย่างนั้นหรือ พวกเธอต้องการคนที่กล้าที่จะแสดงออกอย่างนั้นหรือ พวกเธอชอบคนที่ดูเหมือนจะอันตรายอย่างนั้นหรือ ก็ถูกครับ แต่แค่เพียงบางส่วนเท่านั้น สังเกตุมั้ยครับว่าคนที่พวกเธอชอบนั้นจะมีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างนึง คือเป็นคนที่สามารถ กระตุ้นอารมณ์เธอได้ ทําให้เธอตื่นเต้น ทําให้เธอรู้สึกอะไรบางอย่างได้ นี่เป็นสิ่งที่ทําให้ nice guy โดนตัดออกไป nice guy ไม่สามารถกระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึกเธอได้ nice guy ไม่ใช่คนที่พูดได้อย่างลื่นไหล nice guy ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า เค้ามีความสุขอย่างเหลือเฟือที่จะแบ่งปันให้ผู้หญิง nice guy ไม่ใช่คนที่สามารถ นําเธอไปพบกับความตื่นเต้นได้ ตรงกันข้าม jerk สามารถกระตุ้นอารมณ์พวกเธอได้อย่างเหลือเฟือ พวกเค้าทําให้หญิง ตื่นเต้นได้ตลอดเวลา พวกเธอสัมผัสทุกอารมณ์ความรู้สึกเมื่ออยู่กับ jerk สุข สนุก เสียใจ เศร้า ตื่นเต้น หวาดกลัว ผู้หญิงชอบที่จะถูกกระตุ้นความรู้สึก ทําไมผู้หญิงถึงชอบแบบนี้เหรอครับ ก็เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้กําหนดมาแล้วนั่นเอง และบางครั้งเราก็ไม่ต้องการเหตุผลว่าทําไมธรรมชาติถึงสร้างมาแบบนั้น มันแค่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น เท่านั้นเอง และ nice guy ก็ต้องยอมจํานนต่อกฎธรรมชาติ แต่น่าเสียดายที่ว่า การที่ผู้หญิงเลือกที่จะชอบ jerk มากกว่า nice guy นั้นมันทําให้ผู้ชาย มากมายได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไป เป็น jerk ตามแบบที่พวกเธอต้องการเพื่อที่จะมาเอาเปรียบ พวกเธอในทางกลับกัน ถ้าพวกเธอเลือกที่จะชอบ nice guy ตั้งแต่แรก ผู้ชายทั้งโลกคงเป็น nice guy กันหมดแล้ว Nice jerk: ทําให้เธอเซอร์ไพรส์! คุณเคยเข้าไปอ่านตามเวปบอร์ดหรืออ่านตามโพลความคิดเห็นต่างๆมั้ยครับ ที่เค้าชอบถามผู้หญิงกันจังว่า "ผู้หญิงชอบผู้ชายแบบไหน" แล้วมันก็จะมีคําตอบประมาณว่า "ชอบผู้ชายที่เป็นคนน่ารักค่ะ" "ชอบที่เอาใจใส่เรา เป็นห่วงเป็นใยค่ะ" "ชอบคนที่ไม่เจ้าชู้ค่ะ รักเราคนเดียว" " "ชอบคนที่เอาใจเก่งๆค่ะ นิสัยดีๆ" และอีกร้อยแปดพันเก้า รู้สึกเหมือนผมมั้ยว่ามันแปลว่า nice guy กี่ครั้งที่เราได้ยินแบบนี้เนี่ย ผู้หญิงนั้นบอกเราอยู่ตลอดเวลาว่าชอบ nice guy มากกว่า jerk แล้วพวกผู้ชายอย่างเราๆควรจะเชื่อดีมั้ยครับ ผมว่าคุณคงรู้คําตอบอยู่แล้ว ยังมีอีก ผมก็เคยได้ยินมาอีกว่าผู้หญิงชอบผู้ชายที่เป็นแบดบอยแต่เวลาอยู่กับเธอ แล้วกลายเป็น nice guy โอเคๆ เข้าใจๆ มันทําให้เธอรู้สึกว่ามีค่า แต่รู้มั้ยครับว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมได้ข้อสรุปอะไรบางอย่าง ---ผู้หญิงชอบคนที่ทําตัว nice guy กับทุกคนยกเว้นเธอ! คุณทําตัวดีกับทุกคนรอบๆข้างตัวคุณและรอบๆข้างเธอ คุณช่วยเหลือพวกเค้าอย่างเท่าที่จะทําได้ (แต่อย่าให้มันมากเกินไปไม่งั้นคุณจะไม่ได้รับการเคารพ คุณยิ้มแย้มแจ่มใสกับพวกเค้าเหล่านั้น คุณคือ nice guy แบบพอดีๆไม่มากไม่น้อยเกินไปในสายตาพวกเค้า แต่กับเธอคุณทําตัวเฉยๆ คุณ neg-hit เธอ คุณตลกและใช้ cocky+funny กับเธอ คุณดูเหมือนว่าไม่ใส่ใจกับอารมณ์ของเธอ คุณทําเหมือนว่าเธอไม่ได้มีค่าอะไรเท่าไหร่ คุณไม่เคยตามใจเธอ เธอเลยคิดว่าคุณเป็น jerk อยู่มาวันนึงเธอเริ่มสังเกตได้ว่าทุกคนรอบๆข้างเอาแต่พูดกันว่าคุณเป็น nice guy แม้กระทั่ง คนที่คุณรู้จักก็ยังมาขอบคุณคุณในสิ่งที่คุณเคยทําให้ เธอเริ่มสับสน งงๆ และมันจะมีผลดีกับเราหลายอย่าง เธอจะสับสนและไม่เข้าใจว่าคุณเป็นคนยังไงกันแน่ เพื่อนๆเธอบอกว่าคุณเป็น nice guy แต่สมองเธอบอกคุณเป็น jerk เธอไม่มั่นใจ เธอจะสงสัยและต้องการรู้คําตอบ ต่อมามันจะทําให้ เธอคิดถึงคุณมากขึ้น ผิดกับพวก nice guy ที่เข้ามาจีบเธอ พวก nice guy เหล่านั้นเธอสามารถ รู้ได้ทันทีว่าเป็นคนยังไง แต่กับคุณ เธอไม่สามารถรู้ได้เลย คุณเป็นคนที่ลึกลับ เธอไม่สามารถเดาคุณออกได้ ท้ายสุดคุณได้เอาลักษณะของ jerk และ nice guy มารวมกันซึ่งเป็นลักษณะที่ดีที่ dj ทุกคนต้องมี พยายามทําดีกับทุกคนไว้แต่อย่าไปทําดีกับเธอมาก คุณต้องแสดงออก ว่าคุณเป็น jerk พอสมควรเวลาคุณอยู่กับเธอ แล้วในที่สุดทุกคนก็จะทําให้เธอรู้ ว่าจริงๆแล้วคุณไม่ใช่ jerk แต่คุณเป็น nice jerk ต่างหาก เป็นคนที่ตรงกลาง ระหว่าง nice guy กับ jerk เธอจะไม่คิดว่าคุณเป็น nice guy เลยทีเดียวเพราะว่าคุณไม่ได้ทําตัว nice guy กับเธอ เธอไม่คาดผันว่าคุณจะมีอีกด้านนึงซึ่งมันทําให้คนอื่นมีความสุข เธอแปลกใจและประทับใจว่า คนที่เธอคิดว่าเป็นแบดบอยอย่างมาก นั้นจริงๆแล้ว เป็นคนที่เยี่ยมคนนึงเลยทีเดียว เป็น nice jerk เธอจะเซอร์ไพรส์!!! ========================================================== โลกทั้งโลกอยากให้คุณเป็น afc ทุกๆครั้งที่ผมขับรถไปที่ไหนก็ตามนะครับ ผมก็มักจะเปิดเพลงฟังเสมอ ฟังเทปที่ซื้อมามั่ง ฟังจากวิทยุมั่ง ซึ่งมันก็ผ่อนคลายได้ดี วันก่อนเปิดไปคลื่นนึง ได้ยินเพลงอะไรไม่รู้เพลงนึง กําลังดังมาก "พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ ถ้ารู้ว่าชอบอะไรจะหาให้เธอ พูดไม่ค่อยเก่งแต่ชั้นรักเธออออ อย่าปล่อยให้เพ้อให้รักเธอข้างเดียว" โอะๆๆๆ เปลี่ยนไปอีกคลื่น "อยากจะบอกเธอว่ารัก แต่มันคงจะเร็วไป เธอคงไม่เข้าใจในสิ่งที่ชั้นมีตอนนี้ ที่เป็นทุกข์ก็เพราะคงเฝ้าแต่คิดถึงเธอ ตั้งแต่วันที่ได้เจออออ เธอคือเหตุผล......" ฟังจบ เปลี่ยนคลื่นอีก มาอีกแล้วสไตล์เดิมๆ "....................เพราะคําว่ารักจะมีให้เธอเท่านั้น ในใจฉันไม่มีที่ว่างให้ใคร อยากให้วันพรุ่งนี้เธอรับรู้และเข้าใจ ว่ามีใครที่พรํ่าเพ้ออออออ คืนที่ดาวเต็มฟ้า ชั้นจินตนาการเป็นหน้าเธอออ โอวว เยยย........." โอว มายกอดดด จะตอกยํ้ากันไปถึงไหนครับ ขนาดเปลี่ยนไปสามคลื่น แล้วยังมาเจออีก สังเกตมั้ยครับว่า เพลงพวกนี้มันตอกยํ้าเราอยู่ทุกวัน ให้เรามีความคิดแบบ AFC ที่ยกตัวอย่างมานี่ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเพลงเค้านะ ชอบครับ ยอมรับเลยว่าเพราะมาก เป็นสามเพลงโปรดผมเลย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ เนื้อเพลงมันโคตร nice guy ถ้าเราฟังโดยไม่ระวังแล้วเนี่ย เราก็จะมีทัศนคติแบบ AFC โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย คุณต้องระวังไม่ให้มันมาสิงอยู่ใน สมองได้นะครับ ฟังไปเถอะครับ มันเพราะก็ฟังไป อินไปกับเพลง แต่ฟังจบแล้วให้ คิดดูว่าชีวิตจริงถ้าไปทําตัวแบบนี้แล้วผลลัพธ์มันมักจะออกมายังไง คุณก็รู้ๆกันอยู่ ยังมีอีกครับ ลองอ่านหนังสือพิมพ์กันดู ลองเปิดไปหน้าดาราดิ ที่เค้ามักจะมีข่าวประมาณว่า ดาราสาว...เผยแฟนใหม่ นักข่าวก้อเข้าไปรุมสัมภาษณ์กัน "ทําไมถึงมาคบกับพี่..คนนี้คะ เค้าดีตรงไหนคะน้อง" "เอ่อ..ก็แบบว่าพี่เค้าเป็นคนดีนะค่ะ คอยดูแลเทคแคร์ทุกๆอย่าง เป็นสุภาพบุรุษมากกกกกกคะ" เคยมีใครตอบแนวๆอื่นไหมครับว่า "พี่คนนั้นเหรอคะ... เค้า แบบว่า ท้าทายหนูค่ะ หนูเลยอยากจะเอามาเป็นแฟน ชอบตรงที่อยู่กับเค้าแล้วตื่นเต้นค่ะ แล้วเค้าไม่ทําตัวแบบ nice guy เหมือนคนอื่นๆที่มาจีบหนู ค่ะ คือคนแบบนี้หายากอ่ะค่ะ อ้อ! อีกอย่างพี่เค้ารวยค่ะ เดี๋ยวคนอื่นแย่งไปก่อน เสียดายแย่เลย " เคยมีใครตอบแบบนี้มั่งครับ!!! ไม่น่าสงสัยเลยว่าทําไมเราโตขึ้นมาด้วยทัศนคติ AFC ก็มาเล่นตอกยํ้ากันอยู่ทุกวัน แล้วแบบนี้ผมจะไม่เป็น AFC ได้ไง!!! การเป็น nice guy เป็นสุภาพบุรุษมันดีครับ ไม่ได้มีอะไรเสียหาย แต่อย่าทําให้มันเกินพอดี คุณจะต้องรู้จักว่าเวลาไหน ที่ควรจะเป็น nice guy เวลาไหนที่ควรจะหลีกเลี่ยง ระวังไว้ครับโลกทั้งโลกอยากให้คุณเป็น AFC แต่ว่าจะให้รางวัลกับ คนที่ไม่เชื่อมัน Nice guys ซินโดรม ถ้าคุณมาที่เวปนี้สักระยะนึง คุณคงจะรู้ว่า nice guy คือคนที่รองรับอารมณ์ของผู้หญิงที่ เมื่อถูกใช้แล้วก็จะถูกทิ้งไป ทําไม? ทําไมผู้หญิงไม่ชอบคนดี คนน่ารักที่ทําทุกอย่างเพื่อเธอ ผู้หญิงแทบทุกคนบอกว่า ต้องการคนที่เข้าใจเธอ เทคแคร์ เป็นสุภาพบุรุษไม่ใช่หรือ? แล้วถ้าอย่างนั้นทําไม nice guy ต้องโดนผู้หญิงทิ้งอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน สิ่งที่พวกเธอพูดเป็นแค่คําหลอกลวงเท่านั้นหรือ? สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับความดี ความน่ารักของ Nice guy ผู้หญิงนั้นชอบคนดี คนที่น่ารัก แต่ผู้หญิงมีปัญหากับคนที่ไม่กล้าแสดงออก ไม่มีจุดยืน ทําตัวอ่อนแอ ผู้หญิงนั้น ชอบความเข้มแข็ง มั่นใจมากกว่าความดี ความน่ารัก พวกเธอพูดความจริงแต่พูดไม่หมดเท่านั้นเอง -ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณไม่สามารถที่จะแสดงความสนใจทางเพศให้ผู้หญิงรู้ได้ คุณกําลังติดโรค nice guy ซินโดรม -ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณไม่สามารถที่จะขัดใจสาวคนที่คุณชอบได้คุณติดโรคnice guy ซินโดรม -ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณต้องทําอะไรบางอย่างที่มันเกินพอดี เกินความจําเป็นเพื่อที่จะให้เธอมาสนใจ เช่นคุณซื้อดอกไม้ให้เธอทุกวัน คุณก็กําลังติดเชื้อ Nice guy ซินโดรม -ถ้าคุณหมกมุ่นครุ่นคิดถึงผู้หญิงคนใดคนนึงตลอดเวลา ตื่นขึ้นมาคิดถึงเธอ แปรงฟันก็คิดถึงเธอ อาบนํ้าก็คิดถึงเธอ ทํางานก็คิดถึงเธอ เจ้านายด่าก็ยังคิดถึงเธอ คุณกําลังอยู่ในระยะสุดท้ายของ Nice guy ซินโดรม และคุณก็จะถูกทิ้ง 99.99% วิธีรักษา: อย่าทําให้เธอเป็นชีวิตของคุณ คุณไม่สามารถที่จะให้เธอเป็นทุกๆสิ่งในชีวิตคุณได้ ผู้หญิงจะยกย่องคนที่เข้าใจตัวเอง มีจุดยืน อย่าเปลี่ยนความคิดบางอย่างที่คุณคิดว่ามันถูกต้องเพียงเพราะว่าเธอคิดไม่ ตรงกับคุณ ถ้าคุณทําอย่างนั้น คุณแสดงถึงความอ่อนแอ ผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายอ่อนแอ มันเหมือนกับว่าขานดคุณยังไม่สามารถปกป้อง ตัวเองได้เลย แล้วจะไปปกป้องเธอได้หรือ? ขนาดคุณยังไม่เคารพตัวคุณเอง แล้วคุณจะหวังให้คนอื่น มาเคารพคุณได้ยังไง ทําให้เธอเป็นทุกสิ่งในชีวิตคุณ = Nice guy ซินโดรม = ฆ่าตัวตาย การรักษาทําได้ง่ายถ้าคุณสามารถคิดเป็นและมีทัศนคติที่ถูกต้อง แล้วคุณจะไม่มีทาง เป็น nice guy ซินโดรมอีกตลอดชีวิต ===================================================== กฎของธรรมชาติ : ความพ่ายแพ้ของ Nice guy ทําไม ทําไม ทําไม ทําไมสาวๆสวยๆถึงเลือก Jerk? นี่คือความลับที่เราอยากรู้คําตอบกันเป็นอย่างยิ่ง พวกเธอไม่รู้หรือไงว่ากําลังเล่นกับอะไรอยู่ พวกเธอไม่มีตากันหรือไง ผู้หญิงเองไม่ใช่เหรอที่บอกว่าชอบคนที่เป็นสุภาพบุรุษ คนดี แล้วทําไมพวกเธอไม่ทําตามที่พูด ทําไมผู้หญิงถึงเข้าใจได้ยากยิ่งเช่นนี้? Nice guy คนหนึ่งได้ไปพบสาวสวยกําลังเดินควงอยู่กับผู้ชาย เค้าตะโกนถามตัวเองว่า "ผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่ ทําไมถึงมีสาวสวยขนาดนี้มาชอบได้ เค้าพิชิตใจสาวสวยได้อย่างไรทั้งๆที่หน้าตาก็ไม่ได้หล่อเหลาสักนิด เค้าเป็น jerk อย่างนั้นหรือ" "ครับ คุณ nice guy สายตาคุณไม่ได้ฝาดไปหรอกครับ ผู้ชายที่คุณเห็นเดินควงกับสาวสวยนั้น เป็น jerk!!!" ผมตอบ "ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงงง คุณอย่ามาโกหก ผู้หญิงชอบ niceguy พวกเธอบอกอย่างนั้นเอง ผมจําได้ และก็ไม่ใช่เฉพาะพวกผู้หญิงเท่านั้น คนอื่นๆทุกๆคนก็บอกเช่นเดียวกัน" "เอ่อ... .ใจเย็นๆ คุณ nice guy ผมว่าคุณกําลังเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไปนะครับ ผมว่าเราลองมาคุยกับสาวสวยให้รู้จิตใจของพวกเธอกันจริงๆดีกว่า" อ้าาาาา นั่นไงสาวสวยสุดยอดอีกคนนึง เธอยืนอยู่บนเวทีสูงเหนือผู้หญิงทุกๆคน ข้างล่างรายล้อมไปด้วยชายหนุ่มยืนกันอยู่มากมายเต็มไปหมด ทุกคนต่างก็หวังว่า จะได้รู้ความลับที่จะพิชิตหัวใจของเธอ ไม่นานนักมีเสียงนึงจากข้างล่างเวทีตะโกนขึ้นมาว่า "คุณคนสวย ถ้าผมจะพิชิตหัวใจคุณผมจะต้องทํายังไง?" สาวสวยหัวเราะคิกๆ อย่างน่ารักน่าเอ็นดูก่อนจะบอกว่า "ไม่ยากหรอกค่ะ เพียงแต่มันเป็นสิ่งที่ พวกคุณชอบมองข้ามกันไป ลองทายกันดูสิคะว่ามันคืออะไร ใครทายถูกมีรางวัลให้นะคะ" ตอนนี้ข้างล่างเวทีเกิดเหตุชุลมุนอย่างมาก ชายหนุ่มทั้งหลายต่างแย่งกันตะโกนขึ้นมา "รวย มีเงิน" "หล่อ เท่" "ซื้อดอกไม้ให้" "เล่นกีต้าร์เก่งๆ" "เอาใจคุณ" "ของขวัญสวยๆ" "ดินเนอร์ใต้แสงเทียน" "ขับรถ BMW" "เข้าใจคุณให้มากๆ" "กล้ามใหญ่ๆ" "โทรหาทุกวัน" "ชมว่าคุณน่ารัก" "ทําตัวเป็นผู้ใหญ่" "โรแมนติก" "Messege ข้อความเท่ๆ" "คุณผู้ชายทั้งหลายคะ สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดมันก็ดีค่ะ แต่คุณไม่ทราบหรือคะว่ามีผู้ชายเป็นร้อยๆคน ที่สามารถให้สิ่งเหล่านั้นกับดิฉันได้ คุณไม่เคยสังเกตุหรือว่าจริงๆแล้วดิฉันต้องการอะไร" เธอตอบ ผู้ชายข้างล่างทั้งหมดได้แต่นิ่งเงียบ งุนงงกับสิ่งที่เธอพูดมา เธอต้องการอะไรกันแน่? คุณ nice guy หันมามองหน้าผมแล้วตะโกนกลับไปบนเวที "ผมรู้แล้วๆๆๆๆๆๆ คุณชอบผู้ชายที่เป็น jerk พวกแบดบอย" เธอหัวเราะก่อนจะตอบ "ก็ใช่นะคะ แต่ยังไม่ใช่คําตอบที่แท้จริง" "คุณชอบ jerk เพราะว่าเค้าเกเร" "ไม่ใช่เลยค่ะ" "คุณชอบเพราะเค้าขับรถแต่ง ชอบขับซิ่ง" "อื้มมม" "คุณชอบที่เค้าหยิ่ง ทะนงตน" "เค้าหยิ่ง คุณพูดถูกค่ะ แต่ไม่ใช่ตรงนั้นหรอกนะ" "คุณชอบที่เค้ามั่นใจ ไม่แคร์ใคร" "อ่าา ฮ้าา มีส่วนค่ะ" และแล้วทันใดนั้นเองผมก็ตะโกนขึ้นไปบนเวที "คุณชอบผู้ชายที่เป็นผู้ชายอย่างแท้จริง คุณชอบคนที่มีความเป็นแมนสูงกว่าผู้ชายทั่วไป!!!" "โอ้ คุณช่างรู้ใจผู้หญิงจริงๆ คุณชื่ออะไรคะ?" เธอพูดแล้วก็วิ่งลงจากเวทีมาหาผม "ผมชื่อ ดอนฮวน คุณจะให้รางวัลอะไรกับผมครับ?" ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้เธอ "นี่ค่ะ ดิฉันขอมอบหัวใจและความรักให้คุณค่ะ รับไว้สิคะ" ผมและเธอก็เดินจากฝูงชนไปด้วยกัน ทิ้งให้ชายหนุ่มทั้งหลายเก็บคําตอบกลับไปครุ่นคิด ผู้ชายที่เป็นผู้ชายอย่างแท้จริง!!! ผู้ชายที่เป็นแมนมากกว่าผู้ชายคนอื่นๆ!!! มันหมายความว่าอย่างไร? คําตอบนั้นมันอยู่ในธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ว่าก่อนอื่นเราลองมาดูผู้หญิงในแบบที่พวกเราชอบก่อนดีกว่า พวกเราชอบผู้หญิงแบบไหนกันครับ? พวกเราชอบผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก สวยๆ หุ่นดีๆนะสิ ยิ่งถ้าเป็นประเภทมีจริตแบบผู้หญิงนิดๆ แจ๊ะแจ๋ ทําตัวแร_หน่อยๆผู้ชายส่วนใหญ่ยิ่งชอบมากกว่าผู้หญิงที่เรียบร้อยแบบผ้าพับ ไว้ เพราะอะไรครับ ทําไมเราถึงชอบพวกเธอเหลือเกิน? ก็เพราะพวกเธอมีลักษณะของผู้หญิงจริงๆนะสิ! พวกเธอเป็นผู้หญิงที่เป็นผู้หญิงอย่างแท้จริง!!! เอวขอด สะโพกผาย ทรวงอกอวบอิ่มได้รูป ขาเรียวๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม มันแสดงออกถึงว่าเธอมีคุณสมบัติเป็นเพศหญิงสูง การที่พวกเธอดัดจริตนิดๆ เล่นหูเล่นตา พูดแบบมีมารยาหญิงมันแสดงออกว่าเธอมีคุณสมบัติเป็นเพศหญิงสูง พวกเราชอบที่เธอมีลักษณะของผู้หญิงอย่างแท้จริง!!! แล้วลองมาดูผู้หญิงอีกประเภทนึงกันบ้าง ทําไมเราถึงไม่มองผู้หญิงที่หน้าตาไม่สวย ไม่น่ารัก ทําไมผู้หญิงที่อ้วนๆ หุ่นไม่ดี เราไม่ชอบ ทําไมผู้หญิงที่พูดแบบห้าวๆ หรือเป็นทอมบอยเราถึงไม่ค่อยจะชอบกัน ทําไมผู้หญิงที่มีอายุมากๆสักนิดนึง เราถึงไม่สนใจเหมือนที่เราสนใจผู้หญิงสาวๆ วัยรุ่น ตอบได้ไม่ยากเพราะผู้หญิงประเภทนี้มีคุณสมบัติเป็นผู้หญิงน้อยกว่าประเภท แรก!!! เอวที่ใหญ่ หนาเตอะรูปร่างที่ไม่ได้สัดส่วน มันบอกเราว่าเธอมีความเป็นผู้หญิงน้อยกว่าผู้หญิงที่ เอวบางร่างน้อย การพูดจาห้าวๆมันก็แสดงออกว่าเธอน่าจะไปเป็นผู้ชายมากกว่าที่จะมาเป็นหญิง สาว และอายุที่มากขึ้นมันบอกพวกเราว่าคุณสมบัติความเป็นเพศหญิงของเธอกําลังลด น้อยลง พวกเราผู้ชายชอบผู้หญิงที่มีลักษณะเป็นเพศหญิงสูง!!!(Extremely feminine woman) แล้วลองมาดูในทางกลับกัน ผู้หญิงชอบผู้ชายแบบไหน? ผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชายที่ทําตัวเป็นเด็ก ผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชายที่ทําตัวแบบผู้หญิง ผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชายที่เป็น Nice guy แต่ผู้หญิงชอบผู้ชายที่แสดงออกว่าเป็นผู้ชายจริงๆ!!!! ผู้ชายที่มีคุณสมบัติเป็นเพศชายสูง (Extremely Male Character) นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมในโลกแห่งความเป็นจริง jerk ถึงชนะ nice guy ตลอดเวลาในเรื่องจีบสาวสวย jerk นั้นไม่ได้จีบสาวเก่งกว่า nice guy เลยแม้แต่นิดเดียว jerkไม่ได้รู้เคล็ดลับ เทคนิคจีบสาวมากกว่า nice guy เพียงแต่ว่าธรรมชาติได้ให้ความเป็นชาย jerk มามากกว่า nice guy หลายเท่าตัวนัก! ธรรมชาติได้ออกกฏมาว่าผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเป็นของเพศหญิงสูง (ผู้หญิงที่สวย) จะคู่กับ ผู้ชายที่มีคุณสมบัติของเพศชายสูง (jerk) ความเป็นหญิงสูงคู่กับความเป็นชายสูง เป็นกฎธรรมชาติที่ได้ถูกกําหนดเอาไว้แล้ว ======================================================= กฎของธรรมชาติ : ความพ่ายแพ้ของ Nice guy ภาค2 nice guy เคยแสดงออกถึงความเป็นชายบ้างมั้ยครับ? ไม่เคยเลย อ่อนแอ ไม่มั่นใจ ลังเล หวาดกลัว ไม่เป็นผู้นํา nice guy จะว่าไปแล้วก็เป็นผู้หญิงที่บังเอิญมีรูปร่างเป็นผู้ชายแค่นั้นเอง แล้วอย่างนี้จะหวังให้ผู้หญิงมาชอบได้อย่างไรกัน? ผู้ชาย nice guy แสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นตลอด ผู้ชาย nice guy มีลักษณะความเป็นเพศชายที่น้อยมากๆๆๆๆๆๆๆ และนั่นทําให้ nice guy จีบผู้หญิงได้แค่กลุ่มเดียวเท่านั้นคือผู้หญิงที่มีคุณสมบัติของเพศหญิงน้อย (ผู้หญิงไม่สวยนั่นเอง) ถ้าอยากจะให้สาวสวยสนใจก็จงเริ่มทําตัวให้สมกับเป็นผู้ชาย และยิ่งคุณมีลักษณะความเป็นชายมากเท่าไรผู้หญิงที่จะมาชอบคุณก็จะสวยมากขึ้น เท่านั้น เวลาจีบสาว jerk ไม่ได้คิดค้นหาคําพูดที่เพอร์เฟกต์ ไม่เคยคิดวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆให้มันยุ่งยาก พวกเค้าแค่เจอสาวที่เค้าชอบ จากนั้นธรรมชาติก็ได้เข้ามาควบคุมการกระทําของเค้าทั้งหมด ทําไม jerk ต้องจีบสาวสวย? ธรรมชาติตอบ "ก็เพราะผู้ชายชอบสาวสวย ผมสั่งให้เค้าทํา" ทําไม jerk ไม่แคร์ว่าจะทําให้สาวสวยมีความสุขหรือไม่ ทําไม jerk เอาแต่ใจตัวเอง? ธรรมชาติตอบ "ที่ jerk เป็นอย่างนี้ก็เพราะ ผมบอกกับเค้าว่าผู้ชายต้องการสาวสวย เค้าต้องได้ในสิ่งที่ต้องการ ผู้หญิงต้องมาทําให้เค้ามีความสุข ที่เค้าเอาแต่ใจเพราะเค้ากําลังถูกผมบังคับให้ทําอย่างนั้น" การกระทําของ jerk นั้นมาจากแรงปรารถนาของความเป็นผู้ชายที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ ไม่เคยฝืนธรรมชาติ การกระทําของพวกเค้ามีแรงผลักดันมาจากภายใน jerk ถูกควบคุมโดยธรรมชาติของตัวเอง ซึ่งแม้ว่าความเป็นชายของ jerk นี้จะทําให้สาวๆหลงใหล แต่มันก็สร้างความลําบากให้เค้าไม่น้อย ความเป็นชายสูงทําให้ Jerk ทําอะไรวู่วาม ไม่ค่อยไตร่ตรองให้รอบคอบ ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ความใจเย็นความสุขุม jerk จะมีปัญหามาก ความเป็นชายสูงทําให้ jerk มีอารมณ์ร้อน ห้าวหาญเกินพอดี ทําสิ่งที่อันตรายกว่าคนทั่วไปซึ่งบางทีเค้าเอาชีวิตไปเสี่ยงโดยไม่จําเป็น ในขณะที่ jerk โดนธรรมชาติของตัวเอง(แรงผลักดันจากภายใน) เข้ามาควบคุมการกระทําโดยสิ้นเชิงในทางตรงกันข้าม nice guy เป็นคนที่ถูกควบคุมโดยสิ่งแวดล้อมของตัวเอง(แรงผลักดันจากภายนอก) ืnice guy ไม่ทําในสิ่งที่ธรรมชาติบอกให้ทํา พวกเค้ากลัวธรรมชาติของตัวเอง nice guy จะทําสิ่งที่สิ่งแวดล้อมรอบตัวเค้าบอกว่าดี ว่าสมควร ถูกต้อง nice guy ถูกบังคับการกระทําโดยครอบครัว เพื่อนฝูง คนรอบข้าง สังคม โดยไม่ดูก่อนว่ามันจําเป็นที่จะต้องทําตามหรือไม่ จะเห็นได้ว่าทั้ง jerk และ nice guy ต่างก็มีข้อด้อยแตกต่างกัน นั่นทําให้เราต้องพัฒนาบุคลิกภาพของดอนฮวนขึ้นมา คนที่ยอมรับ และเล่นตามกฎของธรรมชาติแต่ก็ไม่ได้ถูกธรรมชาติบังคับการกระทําโดยสิ้นเชิง เป็นคนที่เข้าใจโลกและสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข มาเริ่มต้นใหม่ หากคุณยังไม่สามารถทําให้สาวสวยมาชอบได้ วิธีที่แก้ไขได้ดีที่สุดคือ เพิ่มความเป็นชายให้มากขึ้น เอาล่ะทํายังไง เลิกกลัวธรรมชาติของตัวเอง เมื่อมาถึงเรื่องจีบสาวทําในสิ่งที่ธรรมชาติของคุณบอกให้ทํา ทําในสิ่งที่มาจากแรงผลักดันภายในเหมือนที่ jerk ทํา ลืมเรื่องปัจจัยภายนอกไปซะ ไม่มีใครมาคอยจับผิดคุณอยู่หรอกว่าคุณกําลังจะเข้าไปจีบสาวสวย มีแต่ตัวคุณเองเท่านั้น ที่คอยจับผิดตัวเอง อย่ากลัวในสิ่งที่ธรรมชาติบอกให้คุณทํา จงดีใจที่ธรรมชาติบอกให้คุณมองสาวสวย เพราะมันเป็นสิ่งที่ทําให้คุณมีความสุข อย่าปิดบังความต้องการทางเพศ เมื่อคุณเข้าไปคุยกับสาวสวย พวกเธอรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องการอะไร อย่าพยายามทําตัวแบบ nice guy ไม่กล้าที่จะแสดงออกทางเพศ ไม่กล้าสบตา ไม่กล้าสัมผัสเธอ ไม่กล้าคุยเรื่องsex ผู้หญิงนั้นกล้าที่จะแสดงออกทางเพศมากกว่า nice guy มากมายนัก พวกเธอรู้วิธีที่จะแต่งตัว ยั่วยวนเพศตรงข้ามได้ รู้จักการเล่นหูเล่นตาดีกว่าผู้ชาย รู้วิธีพูดให้ผู้ชายหลงใหล รู้ว่าทํายังไงผู้ชายจะมองตาค้าง คุณคิดว่า jerk มีปัญหานี้หรือเปล่าครับ? คําตอบก็คือไม่มี jerkเป็นพวกที่เปิดในเรื่องเพศนั่นทําให้ผู้หญิงชอบ อย่าเข้าใจผิดว่าการแสดงความต้องการทางเพศคือการที่เราเดินไปพูดกับเธอว่า "เราไป.......กันมั้ย" (โปรดเติมคําเรท x ลงในช่องว่าง) มันไม่ใช่แบบนั้นผู้หญิงชอบคนที่แสดงความต้องการทางเพศออกมาแต่ก็สามารถควบ คุมความต้องการของตัวเองได้ในขณะเดียวกัน ไม่ใช่พวกหื่นกาม โรคจิต อ่อนโยนได้แต่อย่าอ่อนแอ จิตใจผู้ชายต้องเข้มแข็ง ไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งรอบตัวเด็ดขาด เพิ่มความหนักแน่นในการกระทําต่างๆ อย่าโลเล ทุกการกระทํามีจุดประสงค์เป้าหมายที่แน่นอน อย่าให้เพียงแค่ร่างกายเป็นผู้ชาย จงทําจิตใจให้เป็นผู้ชายด้วย และข้อแนะนําสุดท้าย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกําลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ สมองและร่างกายของคุณจะต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา วันไหนที่ร่างกายของผมไม่สมบูรณ์ ผมรู้สึกได้ว่า ผมไม่สามารถที่จะจีบสาวได้ วันไหนที่นอนไม่พอผมไม่มีบุคลิกลักษณะที่ดีในการจีบสาว ผมจะไม่กระฉับกระเฉง สมองจะคิดอะไรไม่ค่อยออก เฉื่อยชา การกระทําที่ดีมาจากสมองและร่างกายที่สมบูรณ์ จีบสาวสวยให้ติดไม่ได้เป็นสิ่งที่เกินความสามารถของพวกเรา พวกเราทุกคนมีความสามารถนั้นอยู่แล้วโดยธรรมชาติ พวกเราสามารถที่จะจีบสาวสวยแค่ไหนก็ได้ถ้าเราดึงความเป็นผู้ชายในตัวเราออก มาได้ จงเริ่มทําตัวให้เป็นธรรมชาติ ทําตัวให้เป็นผู้ชาย ธรรมชาตินั้นบอกว่าความเป็นชายคู่กับความสวยแต่ nice guy ถูกหล่อหลอมมาให้คิดว่าความดีคู่กับความสวย เลยเอาความดีเข้าแลก ซื้อของขวัญให้ โทรบอกรักสาวๆทุกวัน ไปรับไปส่ง พยายามทุกวิถีทางพวกเค้าไม่ได้มองโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ได้รู้กฎเกณฑ์ที่ธรรมชาติสร้างไว้ให้อยู่แล้ว พวกเค้าไปฝืนกฎธรรมชาติโดยที่ไม่รู้ตัว!!! เมื่อใดก็ตามที่คุณฝืนกฎธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะลงโทษคุณ แต่หากคุณเข้าใจและยอมรับมัน พยายามปรับตัวให้เข้ากับมัน เมื่อนั้นธรรมชาติก็จะให้รางวัลตอบแทนมา ความดีไม่ได้คู่กับความสวยอย่าเข้าใจผิดไป ความเป็นชายเท่านั้นที่คู่กับความสวย!! ================================================================= ดอนฮวนหายาก : รางวัลที่ผู้หญิงต้องการ เราทุกคนรู้กันดีว่า สิ่งใดก็ตามถ้ามันมีน้อย สิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่มีค่ามาก สิ่งไหนที่มันหายาก สิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่สําคัญ วันก่อนผมกําลังเดินอยู่แถวบ้าน เห็นเด็กสองคนกําลังแย่งลูกอมกันอยู่ ดึงกันไปดึงกันมา ผมเลยเดินเข้าไปถามว่า "น้องครับ น้องแย่งลูกอมกันทําไมครับ ในถุงของน้องนี่ก็เหลืออีกตั้งหลายเม็ดนะ จะแย่งกันทําแมวน้ำอะไรครับเนี่ย?" ผมพูดและก็ชี้ไปที่ถุงลูกอม ทั้งสองคนตอบเกือบจะพร้อมกันว่า "แต่ผมจะเอาเม็ดสีส้มอันนี้อ่าา" "ทําไม ชอบสีส้มเหมือนกันเหรอ?" "เปล่าหรอก แต่สีส้มมันเหลือแค่เม็ดเดียวเองพี่" เด็กแย่งกันเพราะสีส้มมันเหลือน้อย!!! รู้สึกว่ามันมีอะไรเกี่ยวข้องกับดอนฮวนอยู่มั้ยครับ ใช่เลย! สิ่งหนึ่งที่ทําให้ผู้หญิงหลงใหลดอนฮวนมากกว่า ผู้ชายประเภทอื่นๆ ก็เพราะว่า ดอนฮวนนั้นมีไม่มาก!!! ดอนฮวนมันหายาก ลองเดินออกไปนอกบ้าน มองไปรอบๆตัวคุณสิครับ nice guy jerk nice guy jerk nice guy jerk nice guy jerk nice guy jerk nice guy jerk nice guy jerk nice guy jerk nice guy jerk หรือเพื่อนๆ คุณ มีคนไหนบ้างที่คุณสามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่า dj (อย่าลืมว่า dj กับ playboy ไม่เหมือนกัน) ใช่ครับหลายๆคนที่คุณคิดมาอาจจะเป็น playboy ที่สามารถจีบสาวได้อย่างเยอะแยะ แต่มีใครมั้ยที่จะมีลักษณะ dj ที่แท้จริง คนที่จีบหญิงโดยการสร้างความสุขจากภายในตัวเอง แล้วแบ่งปันให้ผู้อื่น คนที่มีความตลกและสุขุมอยู่ในคนเดียวกันอย่างลงตัว คนที่มีความเป็นแมนอย่างเต็มเปี่ยม ทําให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นคงและเคารพในตัวเค้า คนที่อ่อนโยนแต่เข้มแข็ง คนที่เข้าใจกฎธรรมชาติและนั่นทําให้เค้ารู้ว่าควรทําตัว อย่างไรเมื่ออยู่กับผู้หญิง และอีกเยอะแยะมากมาย คราวนี้เหลือกี่คนแล้วครับ คนที่คุณคิดว่าเป็น dj มีไม่มากแล้วใช่มั้ยครับ? dj มันหายากมากครับ ถ้าเลือกผู้ชายมาร้อยคน จะหา dj จริงๆเจอไม่เกิน 1 คน 1 ใน 100 เป็นอย่างมาก!!! การที่ผู้หญิงจะหาผู้ชายที่เป็น dj มันยากกว่าการที่ผู้ชายจะเจอผู้หญิงสวยๆหลายเท่านักครับ ผู้หญิงสวยหาได้ทั่วไป ตามถนนหนทาง มหาลัย ห้าง สยาม คลีนิคศัลยกรรม หลับตาเดินบางทียังเจอเลย หาง่ายมากครับ!!! แต่ผู้ชายที่เป็น dj ทั้งชาตินี้จะหาเจอหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร และในเมื่อผู้ชายอย่าง dj มันหายากขนาดนี้แล้ว กฎของธรรมชาติจึงบอกกับผู้หญิงทั่วโลกว่า "dj เป็นรางวัลที่ผู้หญิงต้องการ" สิ่งนี้แหละที่สร้างความมั่นใจให้กับ dj อย่างเต็มเปี่ยมเสมอเวลาเค้าอยู่กับสาวๆ เพราะเค้ารู้ดีถึงกฎธรรมชาติข้อนี้ สําหรับคนที่ยังไม่สามารถจีบสาวติดแต่กําลังพัฒนาตัวเองอยู่บนเส้นทาง dj คุณมาถูกทางแล้วครับ "แต่คุณเวบมาสเตอร์ถึงแม้ผมรู้ว่าผมกําลังพัฒนาเป็น dj แต่ตอนนี้ผมไม่มีแฟนนี่ครับ มันเศร้านะครับ" "โอะ นั่นไม่ใช่ปัญหาครับ ปัญหาก็คือคุณต้องมีความสุขกับการอยู่เป็นโสดให้ได้ก่อน คุณถึงจะมีความสุขกับชีวิตคู่ได้" ผมเข้าใจครับว่าเวลาคุณเห็นคู่รักเดินจูงมือ โอบกอดกัน ใบหน้าเปื้อนยิ้ม มันเหมือนกับว่จะยิ่งมาซําเติมให้คนโสด อย่างคุณจมลงไปกับความเศร้า แต่รู้อะไรมั้ยครับ คุณไม่จําเป็นต้องกลัว เพราะคุณนําหน้าผู้ชายคนอื่นๆอยู่หลายช่วงตัว "อะ อะอะรายน้าครับ คุณกําลังบอกผมว่าผมเหนือกว่าคนอื่นทั้งๆที่ผมไม่มีแฟนเหรอครับ" โอววว ถูกต้องครับ ถ้าไม่เชื่อลองตามผมมาสิ Nice guy เห็น nice guy ที่เดินมากับสาวคนนั้นมั้ย? ลองสังเกตลักษณะของเค้าดีๆแล้วคุณจะเห็นอะไรบางอย่าง ลองมองดูดีๆครับ มองดูดีๆ เห็นท่าทางอันอ่อนแอของเค้ามั้ยครับ เห็นมั้ยว่าเค้าพยายามเอาใจผู้หญิงมากเกินพอดี เพราะเค้าไม่มั่นใจว่าเค้าจะสามารถทําให้เธอมารักเค้าได้ เค้าทําอย่างกับว่ากําลังไปขอความรักจากสาวคนนั้น ขอความเห็นใจให้มารับรักเค้าหน่อยเถอะ เอ้า ลองมองไปที่สีหน้าเค้าบ้าง เห็นมั้ยว่าเวลาที่ผู้หญิงยิ้มให้เค้า สีหน้าเค้ามีความสุขอย่างเต็มที่แต่เวลาที่ ผู้หญิงทําหน้าเฉยๆ เซ็งๆ สีหน้าแววตาเค้ากลับเต็มไปด้วยความสับสน วุ่นวายใจ เหมือนกับว่าเค้าบอกกับตัวเองว่า "โอ้!!! ไม่ เธอหยุดหัวเราะแล้ว เราทําอะไรผิดไปรึเปล่า เธอไม่ชอบเราแล้วเหรอ?" Nice guy บางคนไม่กล้าเดินเข้าไปขอเบอร์ผู้หญิง เอาแต่รอและหวังว่า สักวันนึงพระเจ้าจะประทานสาวสวยจากฟากฟ้า เดินเข้ามาพูดคุยกับเค้า จากนั้นเค้าและเธอก็แต่งงานอยู่กินกันอย่างมีความสุข น่าสมเพชครับ หรือ nice guy ที่โทรไปหาผู้หญิงที่เค้าหลงหัวปักหัวปําทุกวัน ทุกคืน!!! โทรไปขอความรักจากผู้หญิง น่าสมเพชมั้ยครับ? ลองมาฟังเรื่องนี้ดูบ้าง ผมเคยมีเพื่อนผู้หญิงมาเล่าให้ผมฟังว่า มีผู้ชายคนนึงเข้ามาจีบเธอ ผู้ชายคนนี้พยายามที่จะเจอเธอ ให้ได้ทุกเวลาไม่ว่าเธอจะไปไหนก็ตามเค้าก็จะตามไปด้วยเสมอ มีอยู่วันนึงตอนที่เธอเรียนพิเศษอยู่กับผู้ชายคนนี้ เธอบ่นออกมาลอยๆว่าหิวน้ำจังเลย รู้อะไรมั้ยครับ เค้าลุกออกจากห้องไปซื้อน้ำมาให้เธอทันที เธอไม่เข้าใจว่าทําไมเค้าต้องทําถึงขนาดนี้ มันน่าสมเพชแค่ไหนครับ Nice guy ไม่เคยมีความเป็นแมนอยู่ในตัวเอง พวกเค้าจะคอยตามผู้หญิงอยู่ตลอดเวลา เดินตามเหมือน!เลี้ยงของเธอ ผู้หญิงบอกว่าสิ่งไหนดี nice guy บอกว่าดี ผู้หญิงบอกว่าสิ่งไหนไม่ดี nice guy บอกว่าไม่ดีเช่นกัน และไม่ต้องแปลกใจว่าทําไมมีผู้ชายมากมายที่ทําตัวแบบนี้ ไม่ต้องแปลกใจครับเพราะสังคมเราทุกวันนี้สอนให้ผู้ชาย ปฎิเสธความเป็นชายของตัวเอง สังคมสอนให้ผู้ชายวิ่งหนีความเป็นแมน และนี่คือชะตากรรมของ nice guy พวกเค้ามองเห็นว่าผู้หญิงเป็นสิ่งลึกลับ ซับซ้อน ไม่เข้าใจว่าการที่จะทําให้ผู้หญิงมาชอบ ต้องทํายังไง พวกเค้าไม่เข้าใจ ตลอดชีวิต!!! Jerk ในขณะที่ nice guy มีแต่ความนุ่มนิ่ม อ่อนแอ jerk กลับแสดงออกในทางตรงกันข้าม jerk มีแต่ความก้าวร้าว แข็งกระด้างตลอดเวลา jerk เห็นผู้หญิงเป็นเพียงสิ่งของที่จะมาสนองความต้องการเพียงชั่วคราว jerk ไม่เคยคิดว่าผู้หญิงก็เป็นคนที่มีชีวิต จิตใจ เช่นเดียวกับตัวเค้าเอง จริงอยู่ที่ jerk สามารถดึงดูดให้ผู้หญิงเข้ามาหาได้ แต่เค้าก็ไม่ได้เป็นแมนอย่างแท้จริง เพราะคุณรู้มั้ยครับว่า จริงๆ แล้ว jerk ก็ไม่ได้มีความมั่นใจมากกว่า nice guy สักเท่าไหร่หรอก? "เอ๊ะ jerk เป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจหรือครับ ไม่น่าเป็นไปได้" Jerk มีความมั่นใจมากกว่า nice guy ครับแต่ยังไงมันก็ไม่ใช่ความมั่นใจที่แท้จริงอยู่ดี ทําไม jerk ต้องใช้กําลังกับผู้หญิงเวลาเค้าไม่พอใจที่เธอไปคุยกับหนุ่มอื่น? ก็เพราะว่าเค้ากลัวว่าจะเสียเธอไปเหมือน nice guy ไม่มีผิด แต่ jerk เลือก ที่จะแสดงออกในทางตรงกันข้ามแค่นั้นเอง jerk บังคับผู้หญิงให้เป็นไปในแบบที่เค้าต้องการ เค้าขังผู้หญิงไม่ให้เป็นอิสระไม่ให้มีความสุขที่แท้จริง แต่น่าสงสารที่ผู้หญิงยังไงซะก็ยังที่จะเลือกผู้ชายที่มีความเป็นผู้นํา มากกว่าผู้ชายที่มีแต่ความอ่อนแออยู่ดี ผู้หญิงเบื่อที่จะต้องมาคอยนําผู้ชายในทุกๆเรื่อง พวกเธอจึงเลือก jerk คนที่ไม่สมควรเลือก มันน่าเศร้าจริงๆ แต่คุณไม่ใช่ คุณไม่ใช่คนที่น่าสมเพชและไม่ใช่คนที่ชอบทําร้ายผู้หญิง คุณคือคนที่กําลังพัฒนาเป็นดอนฮวน คุณกลัวว่าการที่คุณไม่มีความรักในตอนนี้มันคือสิ่งที่แสดงออกว่าคุณเป็นคน ล้มเหลว อย่างนั้นหรือครับ? ไม่มีความจําเป็นต้องกลัว เพราะด้วยเส้นทาง dj ที่คุณกําลังเดินอยู่ ด้วยทัศนคติและเทคนิคจีบสาวที่คุณ ได้เรียนรู้ มันการันตีที่จะทําให้คุณพบความรักที่ดีกว่า nice guy กับ jerk และให้ความสุขกับคุณไปตลอดชีวิต Nice guy สามารถที่จะพูดได้อย่างภูมิใจว่าเค้าเป็นแมนที่แท้จริงได้หรือไม่? Jerk สามารถที่จะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคําว่าเค้าได้พบรักแท้หรือเปล่า? ไม่มีทางอย่างแน่นอน ถ้าคุณลองมาคิดดูจริงๆแล้ว คุณจะรู้ว่าคุณไม่ใช่ผู้ชายที่จะหาได้ทั่วๆไป คุณมีความรู้ที่ผู้ชาย 99% ในโลกนี้ไม่เคยรู้ ความรู้ที่จะปฎิบัติตัวต่อผู้หญิงและความรู้ที่จะทําให้คุณเป็นแมนที่แท้ จริง เป็นดอนฮวน เป็นรางวัลที่ผู้หญิงต้องการ ตัวอย่าง cocky+funny เอาละครับ เรารู้กันว่าเทคนิค cocky+funny นั้นมันได้ผล คําถามก็คือจะต้องทํายังไง สาวๆถึงจะมองว่าเรา cocky+funny อย่างแรกที่สําคัญก็คือ คิดว่าเราจะต้องสนุกไปกับมันแน่นอน เวลาเราอยู่กับสาวๆ ลืมความเครียด ออกไปให้หมด สนใจอยู่แค่ความสนุกในการจีบสาวเท่านั้น แค่พูดล้อเลียนเธอบ้าง ประชดบ้าง แซวบ้าง ยั่วอารมณ์เธอบ้าง เธอจะรู้ว่าคุณไม่ซีเรียสและจะรู้สึกสนุกไปกับคุณ เธอจะคอยสนใจว่าคุณจะพูดอะไร ต่อไปอีกอีก จะแซวเธออีกรึเปล่า ครับ ความสนุกต้องมาเป็นอันดับแรกในความคิดคุณ และ concept ของมันก็คือการแสดงว่า คุณมั่นใจในตัวเองและจะล้อเธอเมื่อมีโอกาส (ไม่ใช่ยั่วโมโห) คุณคิดว่าคุณนี่แม่_ เจ๋งสุดๆ แต่คุณก็เป็นคนตลกเพื่อที่เธอจะได้หัวเราะ ตัวอย่าง cocky+funny คุณ: วันนี้ตาลโชคดีมากรู้มั้ย? เธอ: จริงเหรอ ? ทําไมอ่ะคะ คุณ: ก็ตาลได้ออกมาเที่ยวกับ (ชื่อคุณ) ไง ------ ตามด้วยยิ้มแบบโคตรมั่นใจในตัวเอง เธอ: ยิ้มกลับ และหัวเราะคิกๆ ส่วนอันนี้เวลาที่คุณกําลังชวนสาวออกเดท คุณ: วันเสาร์นี้เราควรจะไปหาที่ทานข้าวแล้วนั่งคุยกันดีกว่า (ชื่อคุณ)จะขับรถไปรับละกัน เพราะถ้า(ชื่อคุณ)เกิดไม่ชอบฝนขึ้นมา (ชื่อคุณ)จะได้ขับรถหนีฝนไปได้เลย ----ตามด้วยยิ้ม เธอ: อึ้งเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมา พอจะเข้าใจใช่มั้ยครับ การพูดแบบนี้จะได้ผลมากถ้าคุณกับเธอรู้จักกันบ้างแล้ว เพราะถ้าพูดกับสาว ที่เรายังไม่รู้จักมากบางครั้ง อาจจะทําให้เธอโมโหได้ แต่จริงๆแล้วถ้าพูดได้อย่างถูกวิธีก็สามารถทําได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม อย่ารอที่จะใช้ cocky+funny ถ้าไม่ทําตัวให้ cocky+funny ตั้งแต่ แรกคุณจะกลายเป็นคนน่าเบื่อและโอกาสที่เธอจะพูดประโยคยอดฮิต "เราเป็นเพื่อนกันเถอะ" จะมาเร็วกว่าที่คิด การพูดนั้นควรจะสบายๆ ตลก และเบาสมอง มุ่งความสนใจไปที่เธอแล้วทําให้เธอหัวเราะ เธอจะไม่สามารถต่อต้านคุณได้ และถ้าคุณทําให้เธอหัวเราะตัวเธอเองได้ คุณก็สําเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง ========================================================== ตัวอย่างcocky +funny2 เธอ- นี่ (ชื่อคุณ) มีปากกาให้ยืมมั้ย? คุณ- สําหรับเธอไม่มี (ยิ้ม) อันนี้ใช้สําหรับเวลาคุณบังเอิญเจอเธอหลายครั้งในวันเดียวกัน คุณ-คือ ผมรู้ว่านะว่าผมหน้าตาดีแต่คุณก็ไม่ควรเดินตามผม มาแบบนี้ ควรจะใช้วิธีอื่นจีบผมจะดีกว่านะ (ยิ้มมั่นใจ) เธอ- หัวเราะ อันนี้ผมใช้ตอนไปเที่ยวที่คลับแห่งหนึ่ง ระหว่างที่ผมกับเพื่อนกําลังเข้าแถว ตรวจบัตรประชาชนอยู่นั้น มีสาวสองคนมาขอแซงคิว ผมก็บอกโอเคๆ พวกเธอเอาบัตรออกมา "เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนพวกคุณดูเด็กเกินไปที่จะเข้าได้ ไหนเอาบัตรมาให้ผมดูซิ" พูดทีเล่นทีจริง สาวคนนึงยิ้มๆก่อนที่จะเล่นด้วยแล้วยื่นบัตรให้ผม "อืมม อันนี้บัตรปลอมแน่ๆ แล้วของคุณล่ะ" เธอเขิน ลังเลเหมือนจะไม่ให้แต่เพื่อนเธอก็หยิบบัตรจากมือเธอมาให้ผม เธอไปทําผมมาสีออกม่วงๆแดง ผมเลยพูดว่า "โห! อันนี้ยิ่งปลอมเข้าไปใหญ่ คุณไม่ใช่คนผมดําที่อยู่ในรูปนี่ อย่ามาหลอกกันดีกว่า" พูดอย่างจริงจังแต่ก็ยิ้มให้เธอรู้ว่าผมล้อเล่น สาวสองคนนั้นก็ขํา ผมเลยได้รู้จักเธอทั้งคู่ แล้วคืนนั้นเราก็เลยนั่งโต๊ะเดียวกัน เวลาชวนสาวออกเดท คุณ-วันพรุ่งนี้จะมารับไปดูหนัง แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าจะไม่มีการจับมือกันในโรงนะ คิอพี่เบื่อมากเลยเวลาสาวๆไปดูหนังกับพี่แล้วชอบมาแอบจับมือพี่ในโรง เธอ-(ขํา) โห ถ้างั้น(ชื่อเธอ)ก็ต้องระงับใจตัวเองแย่เลยละสิ คุณ-ถูกต้อง และไม่มีการกอดหรือจูบกันด้วย เข้าใจมั้ย เธอ-หัวเราะไม่หยุด =============================================================== กฎ 3 วินาทีและความสําคัญของการสบตา โอเค นี่คือสิ่งที่ผู้ชายหลายคนกําลังทําผิดพลาดอย่างมาก ในการที่จะเข้าไปขอเบอร์หญิง พวกเค้าเห็นสาวคนที่หมายปองแล้ว แต่ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปคุย เธอหยุดแวะคุยกับเพื่อนของเธอ เค้าเริ่มคิดที่จะหาวิธีเข้าไปจีบ "อืม ทําไงดีวะ จะพูดยังงัยดี ถ้าเริ่มด้วยเธอน่ารักจัง ขอเบอหน่อยสิ ไม่ได้ๆ ไม่เวิรค์วะ แถมตอนนี้ยังไม่กล้าด้วย เดี๋ยวรออีกหน่อยดีกว่าเผื่อจะมีโอกาส" เค้าแอบมองเธออยู่ห่างๆ รอโอกาสที่ดีและความกล้าให้มาถึง เธอบายบายเพื่อนที่คุยด้วย แล้วไปหยุดแวะซื้อนํ้า เค้ายังคงมองเธออยู่ เธออยู่คนเดียว เธอเริ่มสังเกตุแล้วว่ามีใครบางคนมองมาที่เธอ แต่เธอก็กินนํ้าต่อไป อืม เธอกินนํ้าหมดแล้ว ความกล้าเค้าก็ยังไม่มา ซักพักเธอก็เจอเพื่อนกลุ่มหนึ่งแล้วก็เดินไปกับกลุ่มนั้น ห่างไปเรื่อยๆ ห่างออกไป ห่างออกไป ห่างออกไป ไม่ได้ๆๆ เธอกําลังจะไปแล้ว เค้ารีบวิ่งไปหาเธอแล้วตัดสินใจคุยกับเธอ เธอปฎิเสธแล้วเดินจากไป โอกาสที่ดีไม่เคยมาถึง กฎ 3 วินาทีนั้นถือว่าเป็นสิ่งสําคัญมากในการเป็น dj เมื่อคุณพบสาวที่หมายปองและเธอว่างที่คุณสามารถเข้าไปคุยได้ คุณต้องเข้าไปคุยกับเธอภายใน 3 วินาที หรือเมื่อเธอสังเกตุเห็นคุณและเธอว่าง คุณต้องเข้าไปภายใน 3 วินาที ทําไมต้องเป็น 3 วินาที ! ก็เพราะว่าภายใน 3 วินาทีนั้นสมองคุณไม่สามารถที่จะมาคิดเรื่องอะไรได้ทัน คุณจะไม่ คิดเรื่องกลัวการเข้าไปคุยกับเธอ ถ้ามัวแต่รอโอกาสที่ดีที่จะมาถึง คุณก็จะพาลคิดไปถึงเรื่องต่างๆนาๆ เธอจะคุยดีกับเรามั้ย เราหล่อพอเปล่าวะ ถ้าเธอมีแฟนแล้วล่ะ สมองคุณก็จะสรรหาเรื่องต่างๆมาเพื่อ ปฎิเสธตัวคุณเอง ความกลัวจะเริ่มมากขึ้นๆ เรื่อยๆ และในที่สุดคุณก็จะยอมแพ้ใจตัวเอง และถ้าในระหว่างที่คุณลังเลอยู่นั้นเธอรู้สึกได้ว่า คุณกําลังแอบมองเธออยู่แต่ไม่กล้าเข้าไปหาเธอ เกมก็โอเวอร์! ผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายที่ขาดความมั่นใจ จบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม! หรือหนักกว่านั้นเธออาจะคิดว่าคุณ เป็นพวกโรคจิต ชอบตามตื้อ! และถึงแม้ว่าในที่สุดคุณจะรวบรวมความกล้าเข้าไปคุยกับเธอจริงๆ แต่เธอรู้ว่าคุณมองมาตั้งนานแล้ว คุณก็ยัง จะมีโอกาสล้มเหลวสูงมาก เพราะอะไรหรือครับ เพราะมันไม่เป็นธรรมชาติ! คุณไปฝืนมัน คุณไปรอให้ความกล้ามาถึง ไปรอให้มีโอกาสที่ดี ในเวลาที่คุณเข้าไปคุยนั้น ความกลัวได้ครอบงําคุณหมดแล้ว กลัวเธอไม่ชอบ กลัวพูดไม่ดี กลัวพูดผิด กลัวผิดหวัง กลัวไปหมด! คุณไม่ได้ทําตัวเป็นธรรมชาติ ที่ผมยกตัวอย่างข้างบนมาให้ดูนี้ ก็เพราะมันคือตัวผมเองเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้รู้ความสําคัญของ กฎ 3 วินาที แต่แล้วผมก็เข้าใจความสําคัญของมัน หลังเลิกเรียนของเย็นวันหนึ่ง ผมโทรศัพท์หาเพื่อนซี้เพื่อที่จะกลับบ้านกับมัน แล้วผมกับเพื่อนมาเจอกัน ที่ประจํา เราเดินไปที่ทางออกเพื่อที่จะไปที่จอดรถ ข้างๆเราสองคนนั้นมีคนเดินรายล้อมไปหมด ซึ่ง เป็นเรื่องปกติธรรมดาของทุกเย็นอยู่แล้ว ผมกับเพื่อนก็ไม่ได้สนใจอะไร เรายังคุยกันเรื่อยเปื่อย เราเดินกันมา จนจวนจะถึงทางออก จังหวะที่ผมหันไปด้านซ้ายเพื่อจะคุยกับเพื่อนนั่นเอง ผมได้หันไปเห็นสาวสวยคนนึง เดินอยู่คนเดียว "อ้าว! น้อง...นี่หว่า" ผมคิดในใจ และจังหวะเดียวกันนั้นเองเธอก็เผอิญหันมาสบตากับบผมพอดี เราสบตากันไม่ถึงครึ่งวินาที เธอไม่ยิ้ม ทําหน้าเฉยๆ หันไปมองทางอื่น แล้วเธอก็เดินแซงผมกับเพื่อนไป "เฮ้ย! นั่นมันน้อง...เว้ย แม่_ น่ารักโคตร ขนาดข้างหลังยังสุดยอดเลย" เพื่อนผมพูดออกมา "อืมมม ดูดีๆ รอแปปนะ" ผมบอกกับเพื่อนอย่างนั้ ผมเร่งเดินเพื่อที่จะให้ทันเธอ ในหัวก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ แต่นั่นก็ไม่ได้ทําให้ผมลังเล เพราะผมรู้แล้วว่าเธอเห็นผมแล้ว เธอรู้ว่าวินาทีนั้นผมอยู่ตรงนั้น "คุณๆ ขอโทษครับ" ผมพูดอย่างสุภาพแต่ด้วยนํ้าเสียงที่หนักแน่น เธอไม่ได้หยุดเดินแต่หันมาแล้วก็ทําหน้าประมาณว่า "อ๋อ ที่สบตากันเมื่อกี้" "คุณชื่ออะไรครับ" ผมถามทั้งๆที่รู้ชื่อเธออยู่แล้ว เธอเริ่มยิ้มเขินๆแบบรู้ตัวว่าผมกําลังจะเข้าไปจีบ แล้วก็พูดออกมา "ชื่อ...คะ" "แล้ว...เบอร์โทรศัพท์เบอร์อะไรครับ" เธอทําหน้าลังเลเหมือนไม่แน่ใจว่าจะให้ดีไม่ให้ดี ผมจึงพูดต่อไป"อืม ผมคิดว่าถ้า...ให้เบอร์ผมมาเราคงมีโอกาสทําความรู้จักกันมากกว่าแค่สบตานะ ครับ" ตามด้วยยิ้มแบบมั่นใจ เจอชอตนี้เข้าไป เธอไม่สามารถต้านได้อีกต่อไป ให้เบอร์ผมมาโดยไม่ลังเล ผมเดินกลับออกมาราวกับว่าตัวเองหล่อที่สุดในประเทศไทยและมีธุรกิจพัน ล้านอยู่ในทวีปยุโรป "คุณนี่เล่นตัว top เลยนะ คุณพูดอะไรวะ ทําไมน้อง...ถึงให้เบอมา" เพื่อนผมพูดเมื่อผมเดินกลับมา "ก็บอกไปธรรมดาว่าอยากรู้จัก" "ทําไมมันง่ายหยั่งงั้นวะ ปกติน้อง..ไม่ค่อยให้เบอใครง่ายๆนะเว้ย" "เหรอ ไม่รู้ดิผมก็แค่ทําตัวให้เป็นธรรมชาติ อิอิ"ผมตอบมันไป นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมสบตาจนถึงวินาทีที่ผมตัดสินใจเข้าไปคุยกับเธอ ทั้งหมดอยู่ภายใน 3 วินาที ถามว่าเทคนิค3วินาทีนี้ใช้ได้ผลทุกครั้งเลยหรือ? ไม่ครับเทคนิคนี้ไม่ได้ผลทุกครั้งหรอก และถ้าจะพูดกันอย่างตรงๆแล้ว ไม่มีเทคนิคไหนในโลกที่ได้ผล 100% หรอก ไม่เคยมีมาเลยและจะไม่มีต่อไป แต่เทคนิคนี้ก็ใช้ได้ผลกับคนส่วนใหญ่ คุณลองคิดดูให้ดี!!! ใน 3 วินาทีคุณไม่สามารถคิดเรื่องความกลัวได้ สมองคุณยังไม่พร้อมที่จะคิดเรื่องกลัว คุณจึงไม่แสดงความเครียดออกมา ให้เธอเห็นใน 3 วินาทีเธอไม่สามารถจะมาคิดเรื่องปฎิเสธคุณได้ทัน สมองเธอยังไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน เธอไร้เกราะป้องกัน คุณกับเธอสบตากันโดยบังเอิญ ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติของมัน มนุษย์ไม่อาจฝืนธรรมชาติได้ นี่แหละพลังของกฎ 3 วินาทีและการสบตา ============================================================= Social proof: ไม้ตาย dj social proof นั้นเป็นอาวุธสุดยอดที่ dj จะมีได้ เป็นท่าไม้ตาย อันดับหนึ่งที่ไม่มีเทคนิคใดจะมาเทียบ เป็นแม่เหล็กที่จะคอยดูดสาวๆรอบตัว ให้มาสนใจคุณ พลังของ social proof นั้นมากมายมหาศาล มันทําให้ donjuan เหนือกว่า donjuan หรือแม้กระทั่ง nice guy ก็สามารถทําสกอร์ได้ถ้าเค้ามี social proof Social proof นั้นไม่ใช่ว่าจะทําให้สาวมาชอบคุณเฉยๆ เท่านั้น แต่มันยังทําให้สาวมาชอบทีละหลายๆคนอีกด้วย มีอยู่ครั้งนึงผมได้ไปเที่ยวผับกับสาวที่ผมเคยขอเบอร์มา สมมุติว่าชื่อเก๋ ผมไปรับเธอที่บ้าน เธอก็บอกว่าเพื่อนเธอไปรออยู่ที่ร้านแล้ว4-5 คน หญิงล้วน และผมก็ยังไม่เคยเจอเพื่อนเธอเลย เมื่อไปถึงผมก็ทักทายพวกเธอ และคุยสนุกเฮอา ตามประสา ผมบังเอิญไปสะดุดตากับสาวคนนึง ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่าเธอคนนั้น สวยที่สุดในกลุ่ม 55 แต่ผมสังเกตได้เลยว่าสาวคนที่สวยที่สุดนั้นไม่มีท่าว่าจะมองมาทางผมเลย ผมพยายามสบตาแต่เธอก็ไม่เคยมาสบตากับผมเลย สาวคนอื่นๆ ก็คุยสนุกสนานกับผม ขําไปกับมุขของผม แต่คนนี้แม้แต่มองยังไม่มอง อืมมม ไม่เป็นไร เป็นเรื่องธรรมดามากที่สาวสวยจะเล่นตัว ผมคิด ผมก็สนุกสนานของผมต่อไป เมื่อผับปิด ผมก็ไปส่งสาวๆทีละคนๆ จนกระทั่งเหลือแค่เก๋ และคนที่สวยที่สุด ทางที่ผมขับไปนั้นมันผ่านบ้านของเก๋ก่อน ผมจึงส่งเธอลงที่บ้าน พร้อมกับบอกว่าวันหลังจะพาไปเที่ยวใหม่ ในใจก็คิดว่าเพื่อนเธอน่ารักดี ขอจีบหน่อยละกัน หึหึ ตอนนี้ผมก็อยู่กับสาวสวยคนนั้น สองต่อสอง เธอกับผมจึงต้องพูดกันโดยปริยาย ผมถามชื่อเธอ ถามนู่นถามนี่ และผมก็ถามเธอว่าเธอมีแฟนยัง เธอบอกว่ามีแล้ว และถามผมกลับแบบเสียงแข็งๆ "แล้วพี่มีแฟนยัง มาจีบเก๋เหรอเนี่ย" "เปล่า มีแล้ว นั่นไง"ผมชี้ไปข้างหน้าเธอซึ่งมีรูปสติกเกอร์ที่แฟนกับผมไปถ่ายด้วยกันมาติด อยู่ "ไหนๆ .....อันนี้เหรอ" เธอโน้มตัวไปดูข้างหน้า "โห!สวยจัง ทําไมแฟนพี่ถึงสวยอย่างนี้ล่ะ อย่างกับดารา"เธอเริ่มงง "ก็เป็น pretty ไม่สวยได้งัยล่ะ"แล้วผมก็หันไปยิ้มแบบโคตรมั่นใจให้เธอ "จริงเหรอ!! (ชื่อเธอ)ก็เป็น pretty เหมือนกันนะ ทําอยู่(โทรศัพท์ค่ายนึง) แล้วแฟนพี่ทําอยู่ที่ไหน?" ผมก็ตอบเธอไป ตอนนี้ bitchshield เธอโดนทําลายไปหมดแล้วด้วยรูปถ่ายใบเดียว "มีแฟนสวยแล้วยังมาจีบเก๋อีกนะ เจ้าชู้จริงๆ ผู้หญิงไม่ชอบคนเจ้าชู้นะ" เธอพูดแล้วก็ยิ้มให้ผม ผู้หญิงปากกับใจไม่เคยตรงกัน จากนั้นเธอก็คุยกับผมอย่างเป็นกันเองมาก แล้วผมก็ใช้เทคนิค dj ต่างๆจนเธอเริ่มเปิดใจให้ผม จนกระทั่งถึงบ้านเธอ เราแลกเบอร์โทรศัพท์ กัน อีกสองวันเธอโทรมาหาบอกว่าอยากให้ผมไปงานวันเกิดเพื่อนเธอกับเธอหน่อย เธอแนะนําให้ผมรู้จักกับเพื่อนเธอ งานก็ดําเนินไปเธอก็นั่งคุยกับผม บอกว่าจริงๆ เธอกับแฟนก็ยังไม่ได้จริงจังอะไรมาก แค่ดูๆกันอยู่ เธอบอกว่าเธอไม่อยากแย่งใครแต่ แต่เธอห้ามใจไม่ได้ เธอบอกไม่รู้ว่าทําไมเธอชอบผม เธอแค่รู้สึกเท่านั้นเอง เธอไม่รู้แต่ผมรู้ social proof ไง ไม่เห็นยาก แล้วผมก็มีแฟนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนในคืนนั้น Social proof....มันคือเวทย์มนต์หรืออะไรกัน!!! =========================================================== ความน่าจะเป็น: หัวใจในการจีบสาว เคยเรียนวิชาเลขเรื่องความน่าจะเป็นกันไหมครับ ผมว่าทุกคนคงเคยผ่านมาบ้าง เช่นมีลูกบอลอยู่ 4 ลูก สีแดง ฟ้า ขาว เขียว ถ้าเอาบอลทั้งหมดมาใส่ในกล่อง แล้วลองหยิบมั่วๆออกมา 1 ลูก โอกาสที่จะได้ลูกบอลสีขาวเป็นเท่าไหร่ คําตอบก็คือ 1 ใน 4 0.25 หรือ 25% การจีบสาวนั้นมันก็เป็นแบบเดียวกัน ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยทุกๆคนมีความน่าจะเป็น ในการที่จะจีบสาวติดเป็นของตัวเองจะมากหรือน้อยไม่เท่ากัน แต่สิ่งนึงที่รับประกันได้ก็คือ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หน้าตาดูไม่ได้ขนาดไหน ความน่าจะเป็นของคุณมากกว่า 0 แน่นนอน นั่นหมายความว่าอะไรครับ มันก็หมายความว่าถ้าคุณจีบสาวไปเรื่อยๆๆ อย่างน้อยคุณก็ต้อง จีบติดจนได้ ไม่มีใครมีความน่าจะเป็นเท่ากับ 0 ในโลกนี้ โอเคๆๆ คุณอาจจะคิดว่า "แล้วถ้าความน่าจะเป็นผมมันเท่ากับ 0.0000001 ล่ะ หยั่งงี้ไม่ต้อง จีบเป็นล้านๆคนเลยเหรอ" ใช่ครับถ้ามันเป็นอย่างนั้นคุณก็ต้องจีบซักล้านคน แต่ผมจะบอกอะไรให้ครับ ถ้าคุณได้อ่านบทความที่ผมเขียนทุกๆบทในเวปนี้ คุณเข้าใจ และนําไปใช้ในชีวิตจริงอย่างสมํ่าเสมอ แล้วล่ะก้อ ความน่าจะเป็นของคุณจะมากขึ้นจนคุณอาจจะตกใจได้ มันจะเพิ่มขึ้นโดยคุณแทบไม่รู้ตัว เลยทีเดียว ผมเคยลองมานั่งคิดความน่าจะเป็นของผมครับ ปีนี้ผมได้เบอร์สาวๆที่ผมคิดจะจีบมาทั้งหมด..... ......................ให้ทายครับว่าเท่าไหร่ 79 เบอร์ครับ! ครับใช่ครับ 79 เบอร์ (ไม่ได้นับคนที่ผมขอแล้วเค้าไม่ให้ แต่ถ้าจะนับรวมๆแล้วปีนี้เข้าไป ขอเบอร์มาราวๆ 120-140 คนได้ ) ในสิบเดือนที่ผ่านมานี้แหละ โดยเฉลี่ยแล้วผมจะได้เบอร์ทุกๆ 4 วัน ผมขอเบอร์มาแทบจะทุกที่แล้วครับ ร้านอาหาร ในมหาลัย ผับ ร้านหนังสือ ในห้าง ร้านเกม สะพานลอยก็เอา เค้ายืนขายของอยู่ดีๆผมเสือกเข้าไปขอเบอร์ดื้อๆก็เคย เคยแม้กระทั่งขับรถอยู่แล้วเห็นสาวคนนึง ยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ผมเหยียบเบรกจอดรถชิดซ้าย แล้วลงไปขอเบอร์ก็มี จะว่าผมบ้าก็ได้ครับ หึๆๆๆ เพราะผมรู้ครับ ผมรู้ว่าการจีบสาวนั้นมันขึ้นอยู่กับความน่าจะเป็น ง่ายๆ แค่นั้นเอง และจาก 79 คนที่ผมได้เบอร์มา รู้มั้ยครับว่าผมจีบติดกี่คน 8 คนเท่านั้นเอง! นั่นก็หมายความว่าโอกาสที่ผมจะจีบสาวติด = 8 ใน 79 ประมาณ 10% กว่าๆนิดๆ หมายความว่าถ้าผมขอเบอร์ได้มา 10เบอร์ผมจีบติดชัวร์ๆ 1 คน คุณอาจจะคิดว่า "โอ้ย!! มันยากนะกว่าจะขอได้ซักเบอร์ นี่เล่นให้ขอตั้งสิบ ยี่สิบเบอร์" ลองไปอ่านเรื่องอื่นๆ ที่ผมเขียนครับ แล้วคุณจะรู้เลยว่า การขอเบอร์สาวๆ จริงๆแล้วแม่_โคตรง่าย ผมใช้เทคนิค เดียวกันกับที่ผมเขียนในเวปนี้แหละครับเวลาเข้าไปจีบสาว บอกได้เลยว่าช่วงหลังๆมานี่ โอกาสที่จะขอเบอร์ได้มากกว่า 70% แน่นอน และผมก็ไม่ได้หล่อ 7/10 อย่างมากในวันที่ดูดี ถามว่าเวลาเข้าไปขอแล้วเค้าไม่ให้ผมจ๋อยเลยป่าว ไม่ครับผมดีใจซะด้วยซั้า ผมรู้ว่าผมเขยิบ เข้าใกล้แฟนคนต่อไปอีกนิดนึงแล้ว ถามว่าผมแคร์มั้ยเวลาที่จีบสาวไม่ติด ไม่ครับ ผมไม่แคร์เพราะผมมีอีกหลายเบอร์เหลือเกิน ที่จะให้โทร ถามว่าไม่ผิดหวังเหรอจีบติดแค่ 10 % บอกได้เลยว่าไม่ครับ เพราะ 8 คน ที่ผมจีบติดนั้นก็ ทําให้ผมลืมเรื่องความล้มเหลวอย่างอื่นออกไปได้หมดเลย มันออกจะมากเกินไปด้วยซํ้า ลองคิดดูว่าความน่าจะเป็นของคุณเป็นเท่าไหร่ ตอนแรกมันจะยังไม่ใช่ 10% หรอกครับ มันอาจจะเริ่มที่ 1%,2%,5% แต่พอคุณเอาเทคนิคต่างในเวปนี้ไปใช้ เอาทัศนคติต่างๆ ที่ผมบอกไปใส่ในตัวคุณ ความน่าจะเป็นของคุณจะเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆๆๆๆๆ ลองคิดกันดู แล้วมันจะสนุก ถ้ามันเป็น 5% ก็ไปขอเบอร์มา 20 เบอร์แล้วคุณก้อจะมีแฟน 1 คน ก็แค่นั้น เวลาคุณนําไปใช้แล้วจีบติดซักจํานวนนึงคุณจะรู้ว่าปัญหาจริงๆแล้วมันมีอยู่ แค่ 2 อย่างเท่านั้นเอง หนึ่งแม่_เปลืองค่าโทรศัพท์เหลือเกิน สองคุณจะตัดสินใจไม่ถูกว่าวันพรุ่งนี้คุณจะไปกับใครดีวะ ตัวเลือกเยอะโคตร ซึ่งข้อหลังเนี่ยเราทุกคนคงยินดีที่จะให้มันเกิดขึ้นอยู่แล้ว ใช่มั้ยครับ! Nice guy story : วันที่ผมตื่นจากฝันร้าย ทุกๆครั้งที่ผมย้อนกลับไปดูตัวเอง เมื่อซัก 3-4 ปี ที่ผ่านมา ผมนั้น แทบจะไม่เชื่อเลยว่าเวลาที่ผมจีบสาวซักคนนั้นทําไมผมต้องทําตัว nice guy ตลอดเวลา มาถึงตอนนี้ผมหัวเราะทุกครั้งที่คิดถึงมัน ตอนนั้นผมเป็น nice guy แบบสุดๆเลยก็ว่าได้ เป็นโคตรพ่อ nice guy เรียกว่าถ้ามีการประกวด Mr. nice guy universe เนี่ยผมคงได้ตําแหน่งกลับ มาให้คนไทยได้เชยชม 555 ตอนนั้นนะครับผมเชื่อว่าเวลาจะจีบหญิงสักคน เราต้องแสดงออกให้เธอเห็นเลยว่าเราเนี่ยรักเธอมากขนาดไหน เรานี่แหละรักเธอ ที่สุดในโลก จะจีบเธอเหรอ โอ้ย!! ให้ดอกไม้เธอสิ เธอต้องประทับใจ ซื้อของ ให้เธอสิ แต่อย่าไปขัดใจเธอนะเดี๋ยวเธอจะคิดว่าเราไม่ได้รักเธอแล้ว เราต้อง โทรหาเธอทุกวันนะเพราะว่าเธอจะได้รู้ว่าเราคิดถึงเธอแค่ไหน คุณคิดดูสิครับ ผมเคยแม้กระทั่งไปขอเบอร์ผู้ชายที่เธอชอบมาให้เธอเพราะหวัง ว่าเธอคงประทับใจที่ผมทํา โอว มายกอด! ผมเป็นอะไรไปครับเนี่ยในตอนนั้น!!! ทําทุกอย่างที่เธอชอบ เธออยากได้อะไรก็ประเคนมันเข้าไป แล้วพอเธอมีปัญหา อะไรขึ้นมาซักอย่าง ผมนี่แหละจะเป็นคนรองรับอารมณ์เธอเอง มาเลย ชั้นรับเธอ ได้ทุกอย่างไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง โอ้โห สุดๆครับ จบ ม6 มาโดยที่จีบไม่ติดซักกะคน เพื่อนๆผมชมผมทุกคนครับ ชมว่า นายเนี่ย เป็นสุภาพบุรุษดีจังเลยนะ ให้เกียรติผู้หญิงดีจัง ผมลองเอาสมุด friendship มาดู นายสมุดเวลาที่ให้เพื่อนๆเซ็นต์ตอนใกล้ๆจะจบ ม6 อ่ะ ทุกคนคงรู้จักดี เค้าเขียนชมว่าผม เป็นคนดีจริงๆ น่าอิจฉา ชมกันเข้าไปอย่างนู้นอย่างนี้ ในใจผมก็คิด "ถ้าผมเป็นคนดีขนาดนั้นจริง ทําไมไม่มีใครเป็นแฟนกับผมวะ" จริงๆ ไม่ต้องเอาเรื่องผมมาเป็นตัวอย่างก็ได้ คุณลองคิดถึงเพื่อนๆของคุณดู ลองคิดถึงเพื่อน คุณที่เป็น nice guy กับเพื่อนคุณที่เป็น jerk ใครมีแฟนสวยกว่ากันครับ กลุ่มไหนครับ ที่มีแฟนมากกว่า กลุ่มไหนครับที่ผู้หญิงให้ความสนใจจะเป็นแฟนด้วย (เขียนอย่างนี้ ไม่ได้บอกว่าให้คุณเป็น jerk นะครับ อยากจะให้เห็นข้อแตกต่างเท่านั้นเอง คุณก็รู้นี่ครับ ว่าเป็น dj มันแจ๋วกว่ากันเยอะ) แต่แล้วในที่สุดผมก็มีแฟนคนแรกจนได้ แฟนคนแรกของผมนะครับผมคบกับเธอในสมัยช่วง nice guy ตอนปลายของผม ตอนนั้นผมพอจะรู้นิดๆ แล้วว่าการเป็น nice guy เนี่ยจะใช้ไม่ค่อยได้ผลในการจีบสาว แต่ผมไม่รู้ว่าทําไมครับ ซึ่งผมก็ยังทําตัวเป็น nice guy อยู่อย่างสมํ่าเสมอ ที่เธอมาคบกับผมนั้นเป็นเพราะว่าเธอเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที และเธอก็เพิ่งเลิก กับแฟนมา ประกอบกับเธอเองก็ไม่ได้สวยเลิศเลอมากมาย ผมก็เลยจีบง่ายหน่อย จีบแบบ nice guy นี่แหละ แล้วก็บวกกับที่ผมกับเธอว่างเจอกันทุกวัน มันก็เลย เป็นไฟท์บังคับว่าเธอกับผมต้องเป็นแฟนกัน สรุปง่ายๆคือ ดวงดี แต่รู้มั้ยครับว่าถึงแม้จะใช้ความเป็น nice guy จีบเธอมาได้แต่ก็ไม่สามารถควบคุม อะไรเธอได้นะครับ เธอยังคงเป็นคนกําหนดทุกอย่างในความสัมพันธ์ของเราเสมอ เธอเป็นคนบอกเองว่าจะเจอวันไหน เมื่อไหร่ จะไปทําอะไร ส่วนผมเหรอครับโอเค ตลอดเวลา แค่เธอบอกว่าเราจะไปเที่ยวข้างนอกกันเนี่ยผมก็ดีใจจะตายห่_ อยู่แล้ว รู้มั้ยครับ วันแรกที่ผมคบกับเธอ เธอบอกเลยว่า นี่ มีอะไรอย่าโกหกกันนะ ไม่อยากให้เหมือนคู่อื่นๆ ที่ชอบปิดบังกัน ผมตอบเธอไปเลย "ไม่หรอก เรารักเธอมากนะ เราจะไม่โกหกเธอเด็ดขาด เราไม่อยากให้เธอเสียใจ และเราก็จะรักเธอคนเดียวตลอดไป" ประมาณนี้เลย ผมคิดว่าพูดอย่างนี้ แล้วเธอจะต้องชอบแน่ๆ พูดไปก็ยิ้มไปครับ (ดีใจไง เกิดมาแม่_เพิ่งจะเคยมีแฟนกับเค้าซะที) แล้วเราก็คบกัน ไปเดินห้างจับมือกัน เธอจูงมือนําผมตลอด ผมนี่ก็ชอบไง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเล้ย ว่ามันจะทําให้เธอเบื่อ เธอถาม "ไปไหนต่อดี" ผมบอก "ไม่รู้สิ แล้วแต่เธอ อยากไปที่ไหนล่ะ " อืมมม โคตร nice guy จริงๆ เราคบกันไปได้ประมาณ 3 เดือน เธอชี้นกผมบอกนก เธอชี้ไม้ผมบอกไม้ เป็นอย่างนี้ตลอด นายสิ่งที่คิดว่าทําแล้วมันจะทําให้เธอชอบมากขึ้น จริงๆ แล้วมันมีผลตรงกันข้ามหมดเลย ผมไม่ได้รู้เลยครับว่าผมได้ทําให้เธอ เบื่อผมมากขึ้นๆๆๆๆ จนในที่สุด เธอก็ไปเจอคนใหม่ครับ เธอให้เพื่อนเธอมาบอกว่าเธอมีคนใหม่แล้ว ผมแม่_ โคตรโมโหเลยครับ กลับมาบ้าน นั่งคิด "ทําไมวะ เราไม่ดี ตรงไหน ตามใจทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ให้ ผิดตรงไหนวะ" ผมกลุ้มแบบสุดๆ วันๆไม่ทําอะไรมัวแต่คิดว่า ทําไมๆๆๆๆๆๆๆๆ จะบ้าตายเอา เพลงเศร้ากี่เพลงก็มาเหอะ อินทุกเพลงนั่นแหละ หลังจากนั้นผมก็ยังคงเป็น nice guy พยายามจีบหญิงคนต่อมาก็ยังเป็น nice guy ผมแห้วอีกเช่นเคย จีบไม่มีติดหรอก คนแล้วคนเล่าๆๆ จนวันนึงผมก็สังเกตได้ว่า ยิ่งผมพยายามทําดีกับพวกเธอมากเท่าไหร่ พวกเธอก็ จะยิ่งหนีออกไปไกลเท่านั้น ผมมองไปรอบๆตัว เห็นคนอื่นที่มีแฟนกัน มี แต่พวก jerk ที่ได้แต่สาวสวยๆ ผมแปลกใจ คิดว่า เฮ้ย!! มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ผมเริ่มสังเกตพฤติกรรมของพวก jerk ผมเริ่มดูว่าพวกเค้าทําตัวอย่างไร ทําไมผู้หญิงถึงชอบ ผมบอกกับตัวเองเลยว่าต่อไปนี้จะทําตัวเหมือน jerk ทุกอย่างเพื่อที่จะได้จีบสาวติด วันนั้นเป็นวันแรกที่ผมรู้กฎข้อที่ 1 ในการจีบสาวคืออย่าไปแคร์ ใช่ครับ พวก jerk ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น ตอนนั้นผมรู้แค่นั้นเอง ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่เข้าใจมันทั้งหมด ถึงแม้ผมคิดว่าควรจะทําตัวให้เหมือน jerk ทุกอย่าง ถึงจะได้หญิง ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่รู้ถึงคอนเซ็ปต์ของdonjuan แต่วันนั้นมันเป็นวันที่เปลี่ยน ชีวิตผม เป็นวันที่ผมหลุดออกมาเจอเส้นทางสายใหม่ เป็นวันที่ทําให้ผมตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย ผมยังจํามันได้ดี จีบจากความเป็นเพื่อน: ทําไมถึงไม่ควรทํา: เมื่อก่อนผมมักที่จะใช้วิธีจีบสาวจากความเป็นเพื่อนเสมอๆ เพราะว่าไม่กล้าที่ จะไปขอเบอร์คนที่ไม่รู้จัก เลยคิดว่าจีบคนใกล้ๆตัวนี่แหละ กะว่าจะใช้การ คลุกวงในไปเรื่อยๆ เธอคงจะชอบเราสักวัน ง่ายกว่าไปจีบคนอื่นๆเยอะเลย โฮะๆๆๆ ผมคิดผิดถนัด!!! ผมมีประสบการณ์ตรงหลายครั้งหลายหนเหลือเกินในการที่เริ่มเป็นเพื่อนก่อน หวังว่าจะได้อยู่ใกล้ๆ เธอ แล้วค่อยๆเปลี่ยนความสัมพันธ์จากเพื่อนไปสู่คนรัก รู้มั้ยครับว่าผมใช้วิธีนี้จีบสําเร็จได้แค่ครั้งเดียวตลอดชีวิตที่ผ่านมา แค่ครั้งเดียวจริงๆ นอกนั้นไม่เคยสําเร็จ!!! จะเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ผมเคยมีเพื่อนผู้หญิงคนนึงสนิทกันพอสมควร รู้จักกันตั้งแต่ เข้ามหาลัยใหม่ๆ เธอเป็นคนที่สวยมากครับ แต่ว่าบังเอิญผมกับเธอเรียนด้วยกันแทบจะทุกวิชา ผมเลยได้เจอเธอบ่อยกว่าคนอื่นๆ ผมเลยคิดว่า " ค่อยๆเริ่มจากความเป็นเพื่อนดีกว่า แล้วค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ไปทีละนิดๆ" ทําไมผมถึงคิดอย่างนั้นหรือครับ ก็เพราะว่าผมไม่อยากที่จะเสี่ยงไง การเริ่มจากความเป็นเพื่อนมันเสี่ยงน้อยกว่า เราทุกคนรู้ๆกันอยู่ 1 เดือนผ่าน 2เดือนผ่าน 3 เดือนผ่าน เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น ผมยังคงทําตัวเป็นเพื่อนที่ดีเสมอ nice friend ผมไม่เคยที่จะแสดงออกให้เธอรู้สึกเลยว่าผมชอบเธอ ผมคุยกับเธอเหมือนกับว่ากําลังคุยอยู่กับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็เริ่มที่จะมีคนมาจีบมากมาย เธอเล่าให้ผมฟังเสมอๆๆ ในใจผมก็คิดว่า "55 อย่าฝัน ไปเลยว่าจะจีบติด ผมนี่อยู่กับเธอทุกวันโว้ยยย มีโอกาสมากกว่า เดี๋ยวจะค่อยๆแปรเปลี่ยนความสัมพันธ์ จากเพื่อนไปเป็นแฟน ให้มันรู้ซะมั่ง" แต่ว่าในที่สุด ก็มีคนจีบเธอติดครับ ผมแทบไม่เชื่อเป็นไปได้ยังไง!!! ทําไมเธอยอมไปคบกับ คนอื่น ทั้งๆที่ผมนั้นเป็นคนที่สนิทกับเธอที่สุด ต่อมาเธอก้อมาเล่าเรื่องแฟนของเธอ ให้ผมฟังบ่อยๆ เวลาเธอมีปัญหากับแฟน เธอจะโทรมาเล่าให้ผมฟังเสมอๆ เธอร้องไห้ บอกว่าทําไมเค้าต้องทําอย่างนู้น ทําไมต้องทําอย่างนี้ ผมพยายามที่จะปลอบใจเธอ เป็นห่วงเป็นใยกะว่าเธอจะต้องคิดว่าผมนั้นเป็นคนที่เข้าใจเธอ และเธอก็ต้องเลิกคบ กับแฟนแล้วมาหาผมแน่ๆ มันไม่ใช่อย่างนั้น!!! ทุกครั้งที่เธอโทรมาหา ทุกครั้งที่เธอได้ระบายความความเสียใจ ทุกครั้งที่ผมปลอบเธอ เธอก็กลับไปหาแฟนเธอทุกครั้ง ความเป็นเพื่อนของเราไม่เคยมี โอกาสได้พัฒนาไปเป็นอย่างอื่น รู้มั้ยครับว่าในครั้งแรกที่คุณเจอกับสาวๆ สาวๆเค้าจะจัดให้คุณอยู่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสาม กลุ่มนี้ "ไม่เอาไม่ยุ่ง" "เพื่อน" "มีโอกาสที่จะเป็นแฟน" และพวกเธอจะจัดคุณให้อยู่กลุ่มใดกล่มหนึ่งภายในนาทีแรกที่คุณคุยกับเธอ!!! และเวลาพวกเธอจัดคุณเข้าไปในกลุ่มไหนแล้ว แม่_ยากที่คุณจะเปลี่ยนไป อยู่กลุ่มอื่น เพราะฉะนั้นเลือกให้ดีว่าคุณจะอยู่กลุ่มไหน โอกาสที่จะเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนไม่ใช่ว่าไม่มี มันมีโอกาสอยู่แต่ว่ามันไม่ใช่ เทคนิคที่ดีที่ควรใช้ มีหลายสาเหตุด้วยกัน 1.มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพื่อนก็คือเพื่อน หมายความว่าเป็นคนที่เข้ากันได้ รู้สึกสบายๆเมื่ออยู่ด้วยกัน เป็นคนที่แชร์ความรู้สึกกันได้แทบทุกอย่าง แต่ว่าไม่ไช่ในด้านโรแมนติก คุณไม่เล่นหูเล่นตากับเพื่อนคุณใช่มั้ยครับ คุณไม่จูบเพื่อนคุณ คุณอาจจะไม่มองเพื่อนก็ได้เวลาคุย แต่สําหรับคู่รักมันไม่ใช่ เธอไม่สามารถเอาเพื่อนมาเป็นแฟนได้เพราะว่าถ้าทําไปเธอจะรู้สึกว่าตัวเอง เป็นผู้หญิงที่ไม่ดี พวกเอาผู้ชายไปทั่วไม่เว้นแต่เพื่อนของตัวเองเธอนั้นจะต้องคิดหนักว่าเมื่อ คุณกับเธอเป็นแฟนกันแล้ว มันอาจจะไปทําลายความเป็นเพื่อนที่ดีกันภายหลังได้ note--ครั้งเดียวที่ผมใช้วิธีนี้จีบติดได้ก็เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้มองผมเป็น เพื่อนตั้งแต่แรก เธอนั้นบอกผมว่าเธอรู้สึกบางอย่างกับผมตั้งแต่ตอนแรกแล้ว พูดง่ายๆคือถ้าคุณจะใช้ วิธีนี้ได้สําเร็จเธอจะต้องเริ่มชอบคุณตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่คุณเริ่มจากศูนย์ ไม่อย่างนั้น โอกาสจะน้อยมาก 2. มันเสียเวลา การที่คุณพยายามเป็นเพื่อนกับเธอก่อน แล้วค ครั้งเดียวที่ผมใช้วิธีนี้จีบติดได้ก็เป็นเพราะว่า เธอไม่ได้มองผมเป็นเพื่อนตั้งแต่แรก เธอนั้นบอกผมว่าเธอรู้สึกบางอย่างกับผมตั้งแต่ตอนแรกแล้ว พูดง่ายๆคือถ้าคุณจะใช้ วิธีนี้ได้สําเร็จเธอจะต้องเริ่มชอบคุณตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่คุณเริ่มจากศูนย์ ไม่อย่างนั้น โอกาสจะน้อยมาก 2. มันเสียเวลา การที่คุณพยายามเป็นเพื่อนกับเธอก่อน แล้วค่อยมาจีบทีหลังเป็นเรื่อง ที่เสียเวลาโคตรๆ และมันก็ไม่ได้มีหลักประกันว่าคุณจะสามารถจีบเธอติดได้ คุณอาจจะต้อง เสียเวลาหลายๆเดือนเพื่อที่จะรู้เพียงแค่ว่าเธอกับคุณเป็นได้แค่เพื่อนกัน ทําไมคุณต้องไปใช้ วิธีที่เสียเวลาและยุ่งยากกว่าเดิม 3. มันไม่จําเป็น เพราะว่าถ้าคุณแสดงให้เธอรู้ได้ว่าคุณเป็น dj ตั้งแต่แรก มันไม่มี เหตุผลอะไรที่จะเริ่มจากการเป็นเพื่อน ผู้หญิงทุกคน ยํ้าว่าทุกคน!!! ไม่สามารถ ต้าน dj ได้ไม่ว่าจะสวยแค่ไหนก็ตามแต่ ถ้าเธอรู้สึกได้ว่าคุณเป็น dj เธอจะเปิดใจ ให้คุณเอง ไม่ต้องมาเริ่มเป็นเพื่อนให้ยุ่งยาก เคล็ดลับที่สําคัญที่สุดก็คือถ้าจะจีบสาวนั้นเราจะต้องให้เธอรู้สึก ปลอดภัย สบายๆ เมื่ออยู่กับเราเหมือนอยู่กับเพื่อนเธอแต่ในขณะเดียวกันแสดงความสนใจทาง เพศออกมา เหมือนแฟนเธอ เช่น มองตากับเธอนานกว่าปกติเล็กน้อย สัมผัสเธอบ้าง เวลาคุย โน้มตัวไปหาเธอ การทําเช่นนี้จะทําให้เธอไม่สามารถจัดคุณเข้าไปในกลุ่มเพื่อนได้เนื่องจาก คุณ ไม่ได้ทําตัวแบบเพื่อน แต่เธอก็รู้สึกสบายๆเหมือนอยู่กับเพื่อน ไม่ใช่เหมือนอยู่กับคนแปลกหน้า เพราะฉะนั้นมันก็เหลืออยู่แค่กลุ่มเดียวที่เธอจะจัดให้คุณไปอยู่ นั่นคือกลุ่มที่เธอสนใจจะเป็นแฟนด้วย และโอกาสที่คุณจะจีบติดจะมากกว่าเดิม!!! ======================================= ให้สิ่งที่เธอต้องการคือการให้สิ่งที่เธอไม่รู้ว่าเธอต้องการ: ผู้ชายทั่วไปแทบจะทุกคนโตขึ้นมาโดยมีความคิดที่ว่าเวลาจีบสาวนั้น เราต้องเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนดี คอยห่วงใยเธอ ซึ่งความคิดเหล่านั้นได้ถูกใส่ไว้ในหัวพวกเราตั้งแต่เด็กๆจนถึง ปัจจุบัน มองไปทางไหนก็มีแต่คนบอกว่าผู้หญิงต้องการ Nice guy ต้องการคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใย ต้องการคนที่เทคแคร์เธอเแป็นอย่างดี มันใช่สําหรับผู้หญิงที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พวกเธอผ่านอะไรมามากพอ ที่จะรู้ว่าจริงๆแล้วผู้ชายที่เป็น jerk นั้น ไม่ใช่คนที่พวกเธอต้องการอย่างแท้จริง มีผู้หญิงมากมายที่พยายาม เปลี่ยน jerk ของพวกเธอให้กลายเป็น nice guy เมื่อแต่งงานไปแล้วเพราะพวกเธออยากที่จะได้ ความจริงใจ ความแน่นอนในชีวิตคู่ ซึ่งสําหรับผู้หญิงแบบนี้ nice guy นั้นจะเป็นที่ต้องการอย่างมาก ในทางกลับกัน Jerk จะเป็นที่ชื่นชอบสําหรับสาวๆที่ยังอยู่ในช่วงของวัยรุ่น เนื่องจากผู้หญิงที่อยู่ในวัยนี้ ยังชอบที่จะรู้สึกสนุก ตื่นเต้นในชีวิต เพราะฉะนั้นหากจะจีบสาวๆวัยรุ่นแล้ว ลักษณะะของ jerk จึงเป็น สิ่งที่จะขาดไม่ได้ แต่อย่างที่เรารู้กันว่าเราไม่ควรที่จะทําตัวเป็น jerk ทั้งหมด เราไม่ต้องการที่จะให้ผู้หญิง คนหนึ่งมาชอบแต่ในขณะเดียวกันก็ทําให้เธอรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมากเวลาที่เรา ทําร้ายจิตใจเธอ เราต้องการที่จะ ให้เธอได้มีความสุขอย่างแท้จริงเมื่ออยู่กับเรา Nice guy อาจจะทําให้ผู้หญิงมีความสุขบ้างแต่ไม่สนุกตื่นเต้น jerk ทําให้ผู้หญิงสนุกตื่นเต้นแต่ก็ทําให้เธอไม่มีความสุขเช่นกัน การเป็นดอนฮวนนั้นจะต้องสามารถที่จะนําข้อดีของทั้ง jerk และ nice guy มารวมกันให้ได้ แต่สิ่งนี้จะไม่มีผู้หญิง คนไหนมาบอกคุณตรงๆหรอกครับ เพราะบางครั้งพวกเธอก็ยังไม่รู้เลยว่าพวกเธอต้องการอะไรกันแน่ ดังนั้นเราต้องรู้เองว่า สิ่งที่พวกเธอต้องการนั้นจริงๆแล้วมันคืออะไร เวลาที่ผมอยู่กับแฟนนั้นผมจะคอยสังเกตุอยู่ตลอดเวลาว่าอะไรที่ทําให้เธอมา ชอบผม ผมอยากจะรู้ว่าทําไมเธอถึงเลิอกผมทั้งๆที่ เธอสามารถเลือกผู้ชายได้อีกมากมาย ผมอยากจะรู้ความลับที่จะทําให้ผมกลายเป็นดอนฮวนที่สมบูรณ์แบบมากกว่าเดิม ผมจึงชอบที่จะคุยกับเธอในเรื่องของความรู้สึกเสมอๆ มีอยู่วันนึงที่เราสองคนอยู่ด้วยกันที่หอเธอ เป็นวันที่สบายๆเพราะเราทั้งคู่ไม่ต้องออกไปทําธุระที่ไหน เราจึงเลือกที่จะอยู่ ด้วยกัน และเราก็ได้คุยกันถึงเรื่องต่างๆเยอะแยะ ซึ่งผมพอจะจําได้คร่าวๆประมาณนี้ ขอสมมุติว่าเธอชื่อยุ้ยละกัน เธอ:" พี่รู้ตัวมั้ยว่า พี่เป็นคนยังไง?" ผม:"พี่คิดว่าพี่เป็นคนหน้าตาดีนะ แล้วเธอคิดว่าพี่เป็นคนยังไงล่ะ?" พูดด้วยสีหน้ากวนๆนิดหน่อย เธอ:"นี่ ชอบหลงตัวเองอยู่เรื่อยเลยนะ" เธอพูดแล้วก็ขําออกมา "พี่เป็นคนที่แบบว่าไม่เคยยอมใครเลย ยุ้ยปกติก็ไม่ค่อยยอมใครเหมือนกัน แต่พี่เนี่ย ยิ่งกว่า ยุ้ยเยอะเลย น่าหมั่นไส้" ผม:"แล้วตกลงดีหรือไม่ดี" เธอ:"ก้อไม่รู้ดิ จําได้มั้ยที่วันก่อนยุ้ยจะฟังเพลงนึงแล้วพี่ไม่ยอมให้ฟัง บอกว่าพี่จะฟังอีกเพลง แล้วก้อยังมีตอนที่ยุ้ยอยากไปกินข้าวที่ร้านนั้น แล้วพี่ไม่ยอมบอกจะไปกินอีกร้าน มันแปลกๆ แฟนเก่ายุ้ยไม่เคยทําอย่างนี้เลย" *****เธอรู้สึกว่าผมเป็นคนที่มีจุดยืนของตัวเอง ผม: "แล้วแฟนเก่ายุ้ยเป็นยังไง" เธอ: "ก็ถ้ายุ้ยจะทําอะไร เค้าก้อให้ทํา อย่างถ้ายุ้ยจะฟังเพลงนี้เค้าก้อต้องยอมยุ้ยแน่ๆ แต่พี่ไม่เคยยอมเลย แต่ก่อนเวลาคบกับคนอื่นๆเค้าต้องรอยุ้ยตลอดเพราะยุ้ยมาสายประจํา กับพี่นี่ ยุ้ยต้องรอทุกครั้ง มันกลับกันหมดเลย ยุ้ยไม่สามารถจะคุมพี่ได้เลยอ่ะ" ผม: "อ้าว แล้วยอมพี่ทําไมล่ะ เธอไม่ยอมก็ได้นี่" เธอ: "อืม ก็ได้นะ แต่มันเหมือนกับว่าถ้ายุ้ยไม่ยอมนี่ พี่ก็อาจจะเลิกคบกับยุ้ยเลยก็ได้ ใช่มะ พี่ไม่แคร์เลยเหรอ" *****เธอรู้สึกว่าผมเดินจากไปได้ตลอดเวลา ผม: "แคร์" เธอ: "ไม่จริงอ่ะ อย่ามาโกหก" ผม: "แล้วแต่จะคิดละกัน ตกลงชอบยังไง ผู้หญิงชอบคนดีๆ เป็นสุภาพบุรุษไม่ใช่เหรอ" เธอ: "ชอบสิ ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบคนที่เป็นสุภาพบุรุษทั้งนั้นแหละ" ผม: "ถ้าอย่างนั้นก้อไปหา ตอนที่ยุ้ยทํางานสิ มีคนมาขอเบอร์ทุกวันไม่ใช่เหรอ" เธอ: " ก็ทุกวัน แต่มันไม่เหมือนกับตอนที่พี่มาขอเลย คนที่มาขอส่วนใหญ่เค้าแบบ ว่าจะคอยมาตื้อแบบน่ารําคาญ หรือไม่ก็พยายามมาพูดหวานๆดีๆ แต่พี่นี่เข้ามาแบบ ว่ามั่นใจมากว่ายุ้ยจะต้องให้เบอร์พี่ ทําอย่างกับว่าตัวเองนี่เท่สุดๆ" *****เธอรู้สึกว่าผมแตกต่าง ผม: " ตกลงเวลาที่คนมาพูดดีๆ ด้วยไม่ชอบ แต่มาให้เบอร์คนที่เท่แต่เลวอย่างพี่แทน 555 " เธอ: "ไม่ใช่อย่างนั้น เข้าใจป่ะว่าพี่ก็เป็นสุภาพบรุษ อย่างเวลาไปเที่ยวพี่ก็ออกตังค์ ให้ยุ้ยหมด แต่พี่ก็มีส่วนที่ทําให้ยุ้ยโมโหเหมือนกัน เวลาที่พี่ชอบขัดใจ อย่างคนอื่นๆนี่ ยุ้ยรู้เลยว่าเค้าจะทําอะไร คิดอะไร แต่กับพี่มันไม่ใช่ ยุ้ยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วพี่เป็นคนยังไงกันแน่" *****เธอคิดว่าผมเป็นคนที่ไม่น่าเบื่อเพราะเธอเดาไม่ออก ผม: "อืม ตกลงเธอชอบหรือไม่ชอบกันแน่ รู้สึกยังไง" เธอ: " ก็รู้สึกดีนะ ชีวิตสดใส ซ่าบซ่าขึ้นเยอะ เพราะพี่เป็นคนอารมณ์ดีด้วยแหละ " *****เธอรู้สึกว่าผมตลก " แต่มันก้อแปลกๆไม่รู้ว่าทําไมถึงชอบพี่ทั้งๆที่พี่ก็ไม่ได้ทําดีเหมือนกับ ที่คนอื่นทําเลย สงสัยพี่เลวได้อย่างถูกใจมั้ง " เธอหัวเราะ ผู้หญิงส่วนมากไม่รู้หรอกว่าพวกเธอต้องการอะไร พวกเธอคิดว่าถ้าใช่มันก็จะรู้สึกเอง ไม่เคยคิดว่าจริงๆแล้วผู้ชายที่เธอชอบจะต้องมีลักษณะยังไง บุคลิกยังไงบ้าง ผู้หญิงมักจะบอกว่าชอบผู้ชายที่เป็นคนดี เข้าใจเธอ เอาใจใส่ และมักจะบอกว่า ไม่ชอบ jerk ผมจะเชื่อถ้าผมเห็นมันเกิดขึ้นจริง!!! ให้สิ่งที่เธอต้องการ = ให้สิ่งที่เธอไม่รู้ว่าเธอต้องการ เธอถอยหนึ่งก้าวเราถอยสองก้าว: ผมได้ไปขอเบอร์สาวมาคนหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ผมเจอเธอที่มหาลัยเพราะว่าเรา มีวิชานึงที่เรียนห้องเดียวกัน ผมก็เข้าไปพูดคุยกับเธอเหมือนที่เคยทํามา และสุดท้ายก็บอกว่าเราสองคนน่าจะทําความรู้จักกันไว้และผมก็ขอเบอร์เธอมา เหมือนเช่นเคย หลังจากนั้นผมก็รอประมาณ 3--4 วันถึงโทรไปหาเธอ การคุยครั้งแรกนั้น ก็เป็นไปอย่างสนุกสนาน จบลงด้วยดี ซึ่งผมก็บอกเธอว่าวันต่อมาผมจะ ไปรับเธอไปเรียนที่มหาลัยด้วยกัน (บังเอิญว่าบ้านเธอกับบ้านผมนั้นอยู่ไม่ ห่างกันมาก) เธอก็ตอบตกลงด้วยนํ้าเสียงที่ค่อนข้างดีใจ ต่อมาผมก็ไปรับเธอที่บ้านอย่างสมํ่าเสมอ สัปดาห์หนึ่งก็ประมาณ 3 วัน เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น ผมเองก็ใช้เทคนิคจีบสาวต่างๆ ที่ผมเขียนในเวบนี้ กับเธอ จนเธอเริ่มที่จะเปิดใจกับผมระดับนึง ผมสามารถที่จะกอดคอ เล่นหัว เธอได้อย่างสนุกสนาน ผมสามารถสัมผัสเธอได้ และเธอก้อไม่ได้แสดงอาการว่า ต่อต้านแต่อย่างใด ทุกอย่างกําลังไปได้ด้วยดี ผมรู้สึกว่าผมกําลังเดินมาถูกทางแล้ว แต่มีสิ่งนึงที่ผมทําผิดพลาดในช่วงเวลาที่ผ่านมา!!! นั่นคือผมไม่ได้ทําตัวให้ท้าทายสําหรับเธอเลย ถึงแม้ว่าผมจะสามารถพูดคุยตลก ทําให้เธอหัวเราะได้ ถึงแม้ว่าผมจะ Neg hit เธอ ถึงแม้ว่า ผมจะแสดงให้เห็นว่าผมเป็นแมน สุขุม มั่นคง แต่ว่าเธอก็ยังเห็นว่าผมเป็น nice guy เนื่องจาก ว่าผมไมได้ท้าทายเธอ ผมไม่เคยปฏิเสธที่จะไปรับเธอที่บ้าน ผมไปรับเธออย่างสมํ่าเสมอ และผมก็แทบจะไม่ขัดใจเธอเมื่ออยู่กับเธอ เธอได้ผมมาอย่างง่ายดายเกินไป ซึ่งมันก็ทําให้ เธอเริ่มที่จะเอาแต่ใจ เพราะเธอรู้ว่าผมจะไม่ขัดใจเธอ หลังจากนั้นความสนใจของเธอในตัวผมก็เริ่มที่จะลดน้อยลงเรื่อยๆ เธอเริ่มที่จะไม่โทรมาหา และเริ่มที่จะแคร์ความรู้สึกผมน้อยลงกว่าเดิม ผมรู้ว่าเธอกําลังพยายามคุมเกม และเมื่อใดที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายคุมเกม เมื่อนั้นเกมของเราก็โอเวอร์ เราก็จะกลายเป็น nice guy ที่รอวันจะโดนเธอทิ้ง ผมรู้ดีครับว่าผมต้องพยายามกลับมาเป็นคนที่กําหนดความสัมพันธ์ให้ได้ ผมต้องคุมเกมและสร้างความท้าทายให้กับเธอ ผมได้ให้ความสนใจเธอมากเกินพอดีแล้ว และนั่นทําให้เธอเริ่มที่จะถอยจากผมไปทีละก้าวๆ วันต่อมาผมก็คุยโทรศัพท์กับเธอและบอกเธอว่าผมจะไม่ไปรับเธอที่บ้านเหมือน เช่นเคย เนื่องจากผมมีธุระต้องทํา เธอพยายามตื้อให้ผมไปรับเธอให้ได้ แต่ผมปฎิเสธไป และผมก็เริ่มไปรับเธอน้อยลงหลังจากนั้น และในวิชาที่เราเรียนด้วยกันนั้น โดยปกติผมจะนั่งกับเธอทุกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้มันเปลี่ยนไป ผมเข้าห้องสาย ประมาณ 5 นาที เมื่อเธอเห็นผมเข้ามาเธอพยายามโบกมือให้ผมเห็นว่าเธอนั่งอยู่ตรงนั้น แต่ผมไม่สนใจ ผมแกล้งทําเป็นไม่เห็นและไปนั่งกับเพื่อนผู้หญิงของผมที่นั่งห่างออกไป เมื่อเรียนเสร็จ เธอพยายามสบตากับผมเพื่อให้ผมเข้าไปคุยด้วย แต่ผมก็ยังไม่สนใจเธออยู่ดี ผมแกล้งเดินออกไปกับเพื่อนผม และทําเป็นว่าไม่เห็นว่าเธออยู่ตรงนั้น เธอเริ่มที่จะงง อย่างมากในตอนนี้ ผมไม่เคยทําตัวแบบนี้เลย โดยปกติแล้วผมจะคุยกับเธอเสมอเวลาอยู่ในห้อง ผมจะให้ความสนใจเธอเป็นประจํา คืนวันนั้นเองเธอโทรมาหาและถามผมว่าทําไมไม่ยอมคุยกับเธอในห้อง ผมก็แกล้งพูดว่าไม่เห็นนี่ ไปเรียนด้วยเหรอ อะไรทํานองนั้น เธอไม่เชื่อว่าผมไม่เห็นเธอ คุยได้ไม่นานผมก็บอกว่าผมต้องวางสายและ ไปทําธุระ 55 ต่อมาผมก็ให้ความสนใจเธอน้อยลงอย่างมาก เรียกว่าแทบจะไม่ให้ความสนใจเลย ทําเหมือนผมไม่ได้แคร์เลยว่าจะต้องอยู่กับเธอ จนมาอีกวันนึงที่เธอ โทรมาหาผมและถามว่าเป็นอะไร ทําไมผมถึงได้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เธอทําอะไรผิดเหรอ ผมรู้แล้วว่าตอนนั้นผมเริ่มที่จะกลับมาคุมเกมอย่างที่ผมต้องการ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของเราก็เริ่มพัฒนาไปมากกว่าเดิม โดยที่เธอเริ่มเอาแต่ใจน้อยลง ใส่ใจผมมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการจะให้เป็น ผู้หญิงนั้นถ้าไม่ได้ชอบเราหรือสนใจเรา ต่อให้คุณพยายามทําดีกับเธอแค่ไหนมันก็ไร้ค่า ต่อให้ซื้อของขวัญที่เธอชอบให้ ต่อให้ส่ง messege ไปบอกรักทุกวัน ต่อให้โทรคุย ทุกวัน ต่อให้พยายามแค่ไหนมันก็ไม่มีความหมาย เพราะว่าการที่เธอจะชอบใครสักคนมันไม่ได้เกิดจากความถูกต้อง ไม่ได้เกิดจากเหตุผล ถ้าเธอไม่ได้รู้สึกว่าชอบคุณเธอยังไงๆเธอก็จะถอยห่างจากคุณไปเรื่อยๆอยู่ดี แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณรู้สึกได้ว่าเธอพอที่จะสนใจคุณอยู่บ้าง แล้วคุณถอยออกมา มันจะทําให้เธอต้องการในตัวคุณ มากยิ่งขึ้น คุณจะสามารถกําหนดความสัมพันธ์ให้เป็นไปในแบบที่คุณอยากจะให้เป็น คุณจะเป็นฝ่ายคุมเกม ในช่วงแรกๆของความสัมพันธ์นั้นผู้หญิงชอบที่จะทดสอบผู้ชายว่าผู้ชายคนนั้น เหมาะสมกับเธอหรือไม่ ผู้หญิงจะทดสอบโดยการสร้างอุปสรรคขึ้นมาเพื่อให้เราแก้ไขมันให้ได้ ซึ่งอย่างกรณีของผมเธอสนใจผมอยู่บ้าง แต่เธอต้องการทดสอบผมโดยการพยายามถอยห่างออกมาหนึ่งก้าวแล้วดูว่าผมจะทํายัง ไงต่อไป ซึ่งถ้าผมพยายามตื้อเธอไปเรื่อยๆแบบ nice guy คุณคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะสนใจผมต่อไปมั้ยครับ? ถ้าผมทําอย่างนั้นป่านนี้เธอไปหาคนอื่นแล้วแน่นอน จําไว้นะครับว่าเมื่อเธอถอยหนึ่งก้าวเราถอยออกมาสองก้าวเสมอ ขอเบอร์สไตล์ดอนฮวน: การขอเบอร์สาวๆ จะว่าไปแล้วเป็นสิ่งที่ง่ายมากสําหรับ dj เค้าอาจจะได้เบอร์ถึง 10 เบอร์ในวันเดียวก็ได้ ถ้าเค้าต้องการ แต่สําหรับ nice guy ปีนึงถ้าเค้าได้สัก 10 เบอร์ พวกเค้าก็ถือว่ายอดทะลุเป้าแล้ว แทบจะเลี้ยงฉลอง 7 วัน 7 คืน เลยทีเดียว หรือแม้กระทั่ง jerk ที่พวกเรารู้อยู่ว่ากล้าขนาดไหน บางครั้งก็ยังลังเลที่จะขอเบอร์ผู้หญิงเหมือนกัน ทําไมการขอเบอร์ของ dj จึงดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ง่ายๆ ธรรมดาๆ เหลือเกิน? ครับ นอกจากดอนฮวนจะไม่กลัวความผิดพลาด การปฏิเสธของผู้หญิงแล้ว ดอนฮวนยังมีเทคนิคสุดยอดที่ผู้ชายทั่วไปไม่สามารถทําได้เวลาเข้าไปขอเบอร์ สาวๆ เทคนิคนี้เป็นเทคนิคเฉพาะตัวของดอนฮวนเท่านั้น และนี่คือการขอเบอร์แบบดอนฮวน สบตา+ไม่ลังเล+แสดงความสนใจ+มั่นใจ+สีหน้า แววตาสุขุม+ความดิ้นรนเป็นศูนย์+แฝงรอยยิ้ม เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ผมได้ไปเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งกับเพื่อนๆ เวลาที่ผมไปมันประมาณ 4 ทุ่มแล้ว ที่จอดรถภายในร้านเต็มหมด ผมเลยต้องขับไปจอดริมถนนห่างออกไปอีกประมาณ 200 เมตร หลังจากที่ผมจอดรถเสร็จแล้ว ผมกับเพื่อนก็เดินย้อนมาด้วยกันเพื่อที่จะเข้าไปด้านหน้าร้าน ระหว่างที่กําลังเดินคุยกันมาอยู่นั้น ผมก็สังเกตเห็นสาว 3 คนกําลังเดินสวนมา อยู่ห่างไปประมาณ 30 เมตร "เฮ้ย! ท่าทางดูดีว่ะ คุณลองเข้าไปขอเบอร์ดูสิ" เพื่อนผมพูดขึ้นมา " ถ้าน่ารัก ผมขอแน่ๆ ไม่ต้องกลัว" ผมตอบมัน พวกเธอก็เดินใกล้เข้ามาๆๆๆๆๆๆๆ จนเหลือประมาณ 10 เมตร ผมสังเกตได้ว่ามีสาวคนนึงหน้าตาน่ารักดี ผมจึงพยายามหันไปสบตากับเธอ จนเหลือระยะแค่ 5 เมตรเธอก็หันมาสบตาผมเช่นเดียวกัน เธอทําหน้าแปลกใจเล็กน้อยจากนั้น เราก็เดินสวนกันไป และวินาทีที่เราเดินสวนกันนั่นเอง ผมหันหลังกลับไป เธอยังคงหันมามองผมอยู่ "อ่าห้าาาาา น่าสนใจๆๆ" ผมคิดกับตัวเอง ผมกลับหลังหันเดินเข้าไปหาเธอทันที "คุณชื่ออะไรครับ" ผมพูดด้วยความสุขุม มั่นใจ "เอ่อ...... ชื่อแป้งค่ะ เราเคยรู้จักกันไหมคะ" "ไม่หรอก แต่ก็เกือบรู้จักกันแล้วครับ ผมชื่อ....ครับ" พร้อมยิ้มให้เธอ "แหม นึกว่ารู้จักกันซะอีก" เธออมยิ้มนิดๆ "แป้ง เบอร์โทรศัพท์เบอร์อะไรครับ?" พูดและก็ยื่นโทรศัพท์ผมให้เธอ เธอรับโทรศัพท์ผมไปกดเบอร์ให้ "เรียนอยู่ที่ไหน?" ผมถามเธอ "อ๋อ เรียนอยู่... แล้วเธอล่ะ?" "เรียนอยู่..... ตอนแรกนึกว่าแป้งทํางานแล้ว" ยิ้มกวนๆนิดๆ "บ้า หาว่าแป้งแก่เหรอ" เธอหัวเราะ "แล้วทําไมจะกลับแล้วเหรอ เห็นเดินออกมาข้างนอก" ผมถาม "ยังหรอกค่ะ แต่จะไปที่อื่น เพราะข้างในคนเยอะมากเลย" "จริงๆ ไปนั่งโต๊ะเดียวกันก็ได้ เพราะผมมีเพื่อนรออยู่แล้วข้างใน" "เอ่ออ... เดี๋ยวแป้งขอถามเพื่อนก่อนดีกว่านะ" เธอลังเลนิดหน่อยและหันไปมองเพื่อน 2คน ที่ยืนรอห่างออกไป "เอางี้ ละกันเอาเบอร์ผมไป ถ้าแป้งจะมาก็โทรมาก่อน" แล้วเธอก็กดเบอร์ผม mem ใส่มือถือ เสร็จแล้ว ผมก็ยิ้มให้เธอพร้อมกับเดินจากไป เวลาผ่านไปจนถึงตีสอง นิดๆ ผมกําลังเดินออกจากร้านกลับไปที่รถ เสียงโทรศัพท์ดัง แป้งโทรมาบอกว่าให้มารับเธอ ผมไปส่งเธอที่หอ เรานั่งคุยกัน ทําความรู้จักกันมากขึ้น ผมพยายามคุยให้เธอเปิดเผยความรู้สึกของเธอออกมา เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น จนกระทั่งเกือบๆเช้าแล้ว ผมก็กลับบ้าน หลังจากคืนนั้นเธอก็โทรมาหาผมทุกวันเลย!!! ถามว่าทําไมเธอถึงมีความสนใจผมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว? มันขึ้นอยู่กับครั้งแรกที่ผมเข้าไปขอเบอร์เธอ ผมแสดงลักษณะ dj ออกมา และเธอก็รู้สึกได้ นั่นทําให้โอกาสของผมมีมากกว่าผู้ชายคนอื่นๆ 1.ผมสบตาเธอก่อนที่จะเข้าไปขอเบอร์ 2.ผมไม่ลังเล ผมเข้าไปหลังจากที่เธอสบตากับผมแค่ 2-3 วินาที 3.ผมแสดงว่าผมสนใจเธอโดยการถามเบอร์โทรศัพท์เธอ 4. ผมพูดด้วยความมั่นใจ 5.สีหน้า แววตา นํ้าเสียง ผมสุขุม 6.ผมไม่ได้แสดงออกว่าดิ้นรนที่จะให้เธอไปเที่ยวกับผม ผมสบายๆ ไม่ได้ตื้อ ความดิ้นรนผมเท่ากับศูนย์ 7.ผมแฝงรอยยิ้มไว้ในสีหน้าเสมอ และนี่คือเทคนิคขอเบอร์ของดอนฮวน คุณไม่จําเป็นต้องพูดเหมือนกับผมทุกคําพูด มันไม่จําเป็นครับ คําพูดไม่สําคัญเท่ากับ 7 สิ่งที่ผมแสดงออกให้เธอได้เห็น ถ้าคุณแสดงออกมาให้เธอเห็นได้ทั้ง 7 อย่าง รับรองว่าคุณจะได้เบอร์สาวๆ มามากมาย จนโทรไม่หมด!!! สบตา+ไม่ลังเล+แสดงความสนใจ+มั่นใจ+สีหน้า แววตาสุขุม+ความดิ้นรนเป็นศูนย์+แฝงรอยยิ้ม = เบอร์สาวๆ Infatuation: ศัตรูอันดับหนึ่งของดอนฮวน: เคยรู้สึกกันใช่มั้ย เวลาที่เราขอเบอร์สาวมาเป็นจํานวนหนึ่ง ได้คุย ทําความรู้จักมักคุ้นกับพวกเธอมากขึ้น ไม่นานนัก เราก็จะมานั่งคิดถึงพวกเธอ มาคิดถึงข้อดี ข้อเสียต่างๆ ของแต่ละคน และเราก็มีแนวโน้มที่จะจัดอันดับความสวย ความน่ารักของพวกเธอโดยอัตโนมัติ "น้องแอนหุ่นดีกว่าน้องฝน" "น้องเจยิ้มหวาน น่ารักกว่าคนอื่นๆเลย" "น้องจูน sexy สู้น้องพันช์ไม่ได้" "เสียงน้องแซนด์หวาน น่ารัก คิกขุที่สุดเลย" "ชอบนิสัยน้องตาลมากกว่าน้องเปิ้ล" เราจัดอันดับสาวๆที่เราจีบอยู่ในใจแล้วว่า ใครเป็นเบอร์หนึ่ง ใครเบอร์สอง เบอร์สาม ใครที่เราชอบมากที่สุด ใครที่เราชอบน้อยที่สุด และในหลายๆครั้งมันเป็นเรื่องที่เรา แทบจะควบคุมไม่ได้จริงๆ เป็นเรื่องของจิตใต้สํานึก อยู่ดีๆก็รู้สึกขึ้นมา และทุกครั้งที่เกิดการจัดอันดับเช่นนี้ พนันกันได้เลยว่าเราจะจีบเบอร์หนึ่งไม่ติด ใช่ ที่เราอาจจะทําให้เบอร์สอง สาม หรือสี่มาชอบเราได้ แต่สําหรับเบอร์หนึ่งมันเหมือนกับว่า จะพลาดทุกครั้ง เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้ ทําไมจึงเป็นเช่นนี้? ตอบได้ไม่ยาก ที่เราจีบไม่ติดเพราะว่าเวลาที่เราจัดอันดับความน่ารักของพวกเธอแล้ว เราจะเกิดความรู้สึกขึ้นมาอย่างนึงกับเธอคนนั้นที่เป็นเบอร์หนึ่งในใจ เป็นความรู้สึกที่ต่างไปจากสาวคนอื่นๆ และโดยมากแล้วความรู้สึกที่ว่านั้นก็คือ Infatuation (การหลงใหล พรําเพ้อ ลุ่มหลง) แปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆก็คือ หลงสาวเบอร์หนึ่งคนนั้นมากเกินไป เกินกว่าสาวคนอื่นๆ คิดว่าเธอจุติมาจากดาวเคราะห์ดวงอื่นเป็นนางฟ้าที่ไม่ใช่มนุษย์ปกติ ธรรมดา ผมอยากจะเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับ infatuation ที่ผมเคยประสบมาให้ฟัง มีอยู่ครั้งนึงผมเคยจีบสาวพร้อมกันทีเดียว 4 คน ผมเริ่มทําความรู้จักกับพวกเธอมากขึ้นเรื่อยๆ โทรไปคุย ชวนพวกเธอออกไปเที่ยวด้วยกัน (เอ่อ..ไม่ได้ชวนไปพร้อมกันทีดียว 4 คนนะครับ อย่าเข้าใจผิด หึหึ) ถ้าพูดถึงเรื่องนิสัยใจคอกันแล้ว แต่ละคนนั้นก็มีข้อดี ข้อเสียต่างๆกันไป แต่ว่ามีสาวอยู่คนนึง ที่รูปร่างหน้าตาออกจะ X โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ขอสมมุติว่าเธอชื่อน้องกิ้ฟละกัน น้องกิ้ฟนี่ X กว่าใครทั้งหมดใจผมเลยให้เธอเป็นมือวางอันดับหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนั่นก็เป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดที่ผู้ชายจะทําได้ในการจีบสาว เพราะผมเริ่มที่จะมี infatuation กับเธอขึ้นมาแล้ว ผมเริ่มวาดฝันว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าผมกับกิ้ฟได้เป็นแฟนกันจริงๆ โอววววว มันจะดีแค่ไหนนะ ถ้าได้เดินไปกับเธอตามชายหาด สองคน จูงมือกัน เธอหัวเราะอย่างสดใสในขณะที่เรากําลัง เล่นนําด้วยกัน เหมือนในมิวสิควิดีโอที่ชอบสอนให้ผู้ชายเป็น AFC กันทั่วประเทศ ผมวาดฝันไปเองทั้งหมดคนเดียว!!! มันไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่ตอนนั้นเองผมก็ได้เรียนรู้เทคนิค dj มาพอสมควร (ประมาณ 1ปีครึ่ง) แต่ก็ยังไม่อาจห้ามใจตัวเองได้ ในสมองผมนั้นมันมีเสียง infatuation กระซิบบอกผมอยู่ตลอดเวลา "Nice guy เป็นสิ่งที่ถูกต้องในการจีบเธอ" "เธอเป็นคนน่ารักมาก อย่าทําให้เธอโกรธ" "พลาดไม่ได้ๆๆๆๆ คงไม่มีใครดีกว่าเธออีกแล้ว" อีกร้อยแปดพันเก้า ในขณะที่เวลาผมจีบสาวอีก 3 คนที่เหลือผมไม่ได้รู้สึกถึงขั้นนี้เลย ใช่ พวกเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก สดใส ผมชอบพวกเธอแต่ใจผมไม่ได้รู้สึก หลงละเมอ คลั่งไคล้แม้แต่นิดเดียว นั่นเป็นเพราะว่าพวกเธอไม่ใช่เบอร์หนึ่งของผมนี่ และแล้วผมก็เข้าสู่ระยะสุดท้ายของ nice guy ซินโดรม ผมเริ่มที่จะให้ความสนใจน้องกิ้ฟมากกว่าคนอื่นๆอย่างมาก ผมปฎิเสธที่จะไปเที่ยวกับสาวคนอื่นๆ ถ้าน้องกิ้ฟโทรมาหาให้ไปรับเธอ ผมไปรับน้องกิ้ฟทุกคืนหลังจากเธอเลิกงาน ผมเคยไปนั่งรอน้องกิ้ฟใต้หอเธอในตอนเช้า 2 ชั่วโมงเพื่อที่จะไปส่งเธอ ผมไปเดทกับน้องกิ้ฟพยายามจะทําให้ตัวเองเป็น dj ผมทําได้แค่เป็น dj ที่เสแสร้งสุดๆ ไม่เป็นธรรมชาติแม้แต่นิดเดียว ตอนจบของเรื่องนี้ไม่ต้องบอกว่าเป็นยังไง เราทุกคนรู้ๆกันอยู่ แต่ทราบมั้ยคับ? สาวคนที่ผมชอบเป็นอันดับสองที่จีบอยู่กลับมาชอบผม และในที่สุดเราก็เป็นแฟนกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง นั่นเป็นประสบการณ์ที่ทําให้ ผมได้รู้ซึ้งถึงนายเจ้าตัว infatuation ว่ามันทําลายการเป็น dj แค่ไหน หลังจากนั้นมาเวลาผมจีบสาวคนที่ผมชอบมากที่สุดไม่ติด ผมก็จะมามองย้อนดูข้อผิดพลาดเสมอๆ และสิ่งที่เหมือนกันหมดทุกครั้งก็คือ ผมเกิดอาการ infatuation!!! Infatuation ของเราเองคือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดที่หยุดยั้งไม่ให้เราเป็น dj กับสาวที่เราหมายปอง Our biggest enemy is our own infatuation. โอเคๆ ผมเข้าใจๆ ว่าเธอมีหลายสิ่งหลายอย่างที่พิเศษ เธอสวย น่ารัก หุ่นดี แต่ยังไงเราก็ไม่สามารถที่จะให้นายเจ้า infatuation มันมาครอบงําเราได้เพราะ Infatuation เป็นที่มาของพฤติกรรม nice guy และผู้ชายที่ไม่ได้ตาบอดทั่วโลกต่างก็ประจักษ์แก่สายตามานักต่อนักแล้วว่า ผู้หญิงสวยมีแนวโน้มที่จะวิ่งหนี Nice Guy เร็วยิ่งกว่านักวิ่งแชมป์โอลิมปิกวิ่ง 100 เมตรเสียอีก จะหยุดการกระทํา nice guy ต้องหยุด Infatuation ให้ได้!!! "เวบมาสเตอร์ ถ้างั้นเราควรจะกําจัด infatuation ออกไปให้หมดเลยถึงจะดีที่สุดใช่มั้ยครับ?" ใช่ครับ เราต้องการขจัด infatuatin ออกไปแต่ว่าการที่ผมบอกให้ขจัด infatuation ออกไปให้หมดนี้ ไม่ได้หมายความว่าให้คุณเป็นมนุษย์ที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก เฉยชาโดยสิ้นเชิง เห็นสาวๆสวยๆแล้วไม่รู้สึก อะไรเลย ผมไม่ต้องการให้คุณเป็นแบบนั้นครับ เพราะการเป็นมนุษย์ที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก มันช่างเป็นเรื่องที่เลวร้ายสิ้นดี เอาแค่ infatuation อารมณ์หลงใหล อารมณ์เพ้อฝัน อารมณ์หน้ามืดตามัวในการจีบสาวออกไปเท่านั้น อย่าเอาอารมณ์ ความรู้สึกออกไปทั้งหมด อารมณ์สนุก อารมณ์ตื่นเต้นเวลาจีบสาวสวยผมยังต้องการให้มันคงอยู่ พยายามโฟกัสให้ infatuation มันลดน้อยเรื่อยๆในทุกๆครั้งที่คุณจีบสาวสวย วิธีแก้ Infatuation 1. อยู่กับปัจจุบัน อย่าเพิ่งไปจินตนาการสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เวลาคุยกับเธอให้สนใจในการคุยกับเธอเท่านั้น อย่าเพิ่งไปวาดฝัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต เวลาเดทกับเธอ อย่าเพิ่งไปจินตนาการ ถึงอีก 5 ปีข้างหน้าที่คุณจะได้แต่งงานกับเธอ ไม่เอา!!! สนใจอยู่แค่การเดท ทําการเดทให้สนุกที่สุดแค่นั้นพอ 2. เมื่อเกิด infatuation ขึ้นเมื่อไหร่ ให้จินตนาการถึงภาพ เธอในอีก 50 ปี ข้างหน้า ในวันที่เธอเป็นคุณยายแก่ๆ ถือไม้เท้า เดินไปเดินมาอย่างช้าๆ หน้าตาเ!่ยวย่นไม่เหลือเค้าโครงเดิมในสมัยสาวๆ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณไม่จําเป็นต้องเกิด infatuation แม้แต่น้อย 3. ให้รู้เอาไว้เสมอว่า ไม่ว่าเธอจะเป็นสาวที่สวยเลิศเลอ นางฟ้าแค่ไหน ไม่ว่าหุ่นเธอจะบาดใจ คุณมากเท่าไหร่ ต่อให้สวยแบบดารา AV ญี่ปุ่น 10 คนมารวมกัน เธอก็ไม่มีทางที่จะมาเติมเต็มชีวิตคุณได้ เธอไม่ใช่ผู้วิเศษที่อยู่ดีๆ จะมาเสกให้ชีวิตคุณมีความสุขตลอดกาล ไม่มีทาง!!! 4. เธอผิวขาวเนียนเหรอ? นั่นไม่ใช่ปัญหา หุ่นเธอเอ็กซ์โคตรๆเหรอ? นั่นไม่ใช่ปัญหา เธอนิสัยดีอีกด้วย? นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาก็คือคุณดันเอาความสุขทั้งหมดไปขึ้นอยู่กับเธอ และเมื่อคุณเอาความสุขไปขึ้นอยู่กับเธอเมื่อไหร่ infatuation จะตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย Game over ทันที อย่าลืมว่าความสุขที่สุดของดอนฮวนมาจากภายในตัวเองเสมอ ออกไปหาสิ่งที่คุณทําแล้วมีความสุข ออกไปทําสิ่งที่เป็นเป้าหมายของชีวิตของคุณ คุณชอบร้องเพลงใช่มั้ย? ดี ไปเรียนร้องเพลง ฝึกร้องมันทุกวัน ให้มันเก่งกว่านักร้องอาชีพไปเลย คุณชอบเล่นฟุตบอลเหรอ? ดีครับ เล่นให้มันสุดๆไปเลย ทําให้เหมือนกับว่าฟุตบอลเป็นแฟนที่คุณรักมากที่สุด ทําตาม passion ของคุณสร้างความสุขให้กับตัวเองขึ้นมา ขจัด infatuation ให้สิ้นซากและคราวนี้ออกไปทําให้สาวเบอร์หนึ่งคนนั้นตะลึง ให้เธอเซอร์ไพร์ส โชว์ให้เธอเห็นว่า dj ที่แท้จริงมันเป็นยังไง!!! เปลี่ยนทัศนคติ: การที่เราจะจีบสาวสักคน สิ่งสําคัญมันไม่ได้อยู่ที่ว่าสาวคนนั้นคิดยังไงกับเรา แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราคิดยังไงกับตัวเองต่างหาก ชีวิตของเราทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ทัศนคติของเรา สิ่งไหนเราคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มันก็จะเป็นเรื่องใหญ่ สิ่งไหน เราคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กมันก็จะเป็นเรื่องเล็ก เรื่องทุกเรื่องสามารถมองได้หลาย แง่หลายมุมขึ้นอยู่กับว่าจะมองมุมไหนแค่นั้นเอง แล้วคุณคิดว่ามันมีประโยชน์ตรงไหนครับ มันจะช่วยให้เราจีบสาวได้ยังไง โฮะๆๆ มีประโยชน์มากครับ ถ้าคุณคิดว่าการเข้าไปจีบสาวเป็นเรื่องน่ากลัว คุณก็แค่บอกตัวเองว่า เราสนุกที่จะทํามัน ง่ายๆ แค่นั้นเอง เราชอบเวลาที่เห็นสาวสวย สุดบาดใจเดินผ่าน เราชอบที่จะรู้สึกตื่นเต้นเวลาคุยกับพวกเธอ เราชอบที่จะให้ เลือดมันสูบฉีด เราชอบที่หัวใจมันเต้นอย่างกับจังหวะกลองเพลงร๊อก ลองทําดู บอกกับตัวเองทุกวันๆๆๆๆ จนกระทั่งมันกลายเป็นธรรมชาติของคุณ แล้วคุณก็จะสนุกกับมันไปจริงๆ มันจะได้ผล ถ้าคุณทําอย่างต่อเนื่อง แล้วเมื่อถึงตอนนั้น คุณก็จะได้รับรางวัลตอบแทน เป็นรางวัลที่คุ้มค่าแห่งการรอคอยจริงๆ ==================================================== ความเคารพ: การที่ผู้หญิงจะรักใครสักคนนั้น สิ่งนึงที่จะต้องมีแน่นอนก็คือ กาารที่เธอเคารพในตัวผู้ชายคนนนั้น ถ้าเธอไม่มีความเคารพแล้วละก้อ เธอก็จะไม่มีทางจะมองคุณเป็นคนรักของเธอได้ เพราะฉะนั้น ความเคารพเป็นสิ่งที่คุณจะต้องได้จากเธอเสียก่อน เอาล่ะ ทํายังไง อย่างแรก คุณจะต้องเริ่มต้นที่จะเคารพตัวคุณเองเสียก่อน ถ้าคุณไม่เคารพตัวเอง แล้วละก้อ คนอื่นจะไม่มีทางเคารพคุณเช่นเดียวกัน เป็นสิ่งสําคัญมากครับเพราะว่าคุณมีเหตุผลที่จะ เคารพตัวเองยังไง คนอื่นก้อจะเคารพคุณในเหตุผลอันเดียวกันนั้น ผมเคารพตัวเองอยู่เสมอเพราะผมรู้ว่า ผมเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ผมสามารถทําให้คนอื่นหัวเราะได้ ผมเป็นคนสนุกสนาน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเชื่ออย่างจริงๆ คนอื่นๆก็เหมือนจะรู้สึกตรงนี้ได้(โดยเฉพาะสาวๆ ) และเค้าก้อ ตอบแทนโดยการให้ความเคารพกับผมมา แต่มันจะมีบางครั้งที่คุณยังไม่ได้ทําอะไรเลย แต่คนบางคนก็ดูเหมือนว่าจะไม่ให้ความเคารพคุณซะแล้ว ผมจะยกตัวอย่างให้ดู เช่นถ้าคุณไปจีบสาวคนนึง แต่เธอทําตัวแบบหยิ่งๆ ประมาณว่าแบบเธอไม่คู่ควรกับชั้นหรอก ไปไกลๆ หรือเวลาที่แฟนคุณไปเล่นหูเล่นตากับชายอื่น ไปมีคนอื่น หลอกคุณ อย่างนี้แสดงว่าพวกเธอไม่ให้ความเคารพคุณ คุณก้อไม่ควรจะให้ความเคารพพวกเธอเหมือนกัน คุณจะต้องแสดงออกให้เห็นว่า คุณจะไม่ทนกับเรื่องแบบนี้ เพราะว่าถ้าคุณไปยอม พวกเธอก็จะไม่ให้ความเคารพคุณต่อไป คุณเป็นคนที่มีสิทธิจะได้ความเคารพจากผู้อื่น จําไว้นะครับ คุณต้องเคารพตัวเองก่อน แล้วคนอื่นจะเคารพคุณ จากนั้นคุณก็ตอบแทนความเคารพพวกเค้าด้วย ความเคารพของคุณเอง ดอนฮวนสมบูรณ์แบบ: -ไม่เคยลังเลที่จะเข้าไปคุยกับสาวๆ เค้ารู้ดีว่าเวลาที่เค้าสนุก สาวก้อจะสนุกไปด้วย -เค้าขอเบอร์ตั้งแต่เจอครั้งแรก ไม่ใช่รอไปครั้งหน้า -ไม่เคยกังวลว่าใครจะมาชอบเค้าหรือไม่ เพราะว่าความสุขของเค้า ขึ้นอยู่กับตัวเค้าเอง ไม่ใช่อยู่ที่คนอื่น -โทรไปนัดสาวออกเดทเท่านั้น ไม่ใช่โทรไปสนทนาปัญหาบ้านเมือง -ไม่เคยบอกรักผู้หญิงที่เค้าชอบก่อน เค้ารอให้พวกเธอเอ่ยมันก่อนเสมอ -ไม่เคยขอผู้หญิงเป็นแฟน เค้าปล่อยให้ความรู้สึกมันพาไปเอง -เค้ารู้ดีว่าทุกๆอย่างจะเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาของมัน เค้าไม่เคยเร่งรีบ ที่จะให้บางสิ่งมันเกิดขึ้น เค้ารู้ว่าต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ -เค้าคุยกับสาวๆโดยที่ให้พวกเธอป็นฝ่ายพูดมากกว่า ให้พวกเธอเผยตัวตน ที่แท้จริงออกมา ถ้าสาวๆถามเรื่องเกี่ยวกับตัวเค้า เค้าบอกแค่นิดๆหน่อยๆเท่านั้น -เค้าไม่ได้มองผู้หญิงเป็นรางวัลอันมีค่า แต่ตรงกันข้ามเค้าเป็นรางวัลของผู้หญิง ===================================================== ทําตัวให้เหมือนเดิม การจีบสาวนั้นคุณจะต้องใช้เทคนิคแทคติกเดิมเสมอเวลาคุณจีบ มันไม่สําคัญว่าเธอจะสวยเลิศเลอหรือดูไม่ได้ มันไม่สําคัญหรอกว่าเธอจะมาจากไหนเป็นคนชาติอะไร คุณจะปฏิบัติต่อพวกเธอเหมือนเดิมทุกอย่าง คุณยังคงต้องใช้ความมั่นใจ สนุก ตลก และควบคุมตัวเอง คุณยังจะต้องทําตัวให้ท้าทาย คุณต้องไม่แคร์ในผลลัพธ์ คุณจะไม่ดีใจสุดๆเมื่อเจอคนหนึ่งแต่รู้สึกเซ็งมากกับอีกคน และคุณจะไม่เป็น jerk กับคนหนึ่งและไปเป็น nice guy กับอีกคนหนึ่ง คุณจะไม่ดีใจสุดๆเมื่อเดทคนนึงแต่รู้สึกเซ็งมากๆเมื่อเจออีกคน คุณเป็นดอนฮวนเสมอกับสาวทุกๆคน คุณทําตัวเหมือนเดิม นี่เป็นสิ่งที่จะต้องปฏิบัติตามทุกครั้งเมื่อคุณจีบสาว มันเป็นหลักประกันว่าคุณจะได้หญิงสาวตามที่คุณต้องการ เหมือนกับในกรมทหารที่ทุกคนจะต้องเข้ามาฝึกแบบเดียวกัน ทั้งหมด ต้องอยู่ในกฏระเบียบเดียวกัน ถ้าพวกเธอสามารถผ่านไปได้ พวกเธอก็จะกลายเป็นทหารที่ดี เป็นในแบบที่คุณอยากให้เป็น อย่าทําตัวแตกต่างกันเมื่ออยู่กับสาวๆ จําไว้คุณต้องทําตัวให้เหมือนเดิม ============================================== AFC: AFC (average frustrated chump) คือผู้ชายที่ไม่เคยคิดเลยว่าการจีบสาวที่แท้จริงนั้น มันขึ้นอยู่กับทัศนคติ และความคิดต่อผู้หญิง AFC ไม่เคยรู้หรอกว่าการกระทําต่างๆ มีผล สะท้อนจากความคิดของพวกเค้าทั้งนั้น AFC ไม่เข้าใจว่าทําไม สิ่งที่เค้าใช้ในการจีบสาวจึงไม่สําเร็จ ไม่ว่าเค้าจะลองทําตัวแบบไหน ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลไปซะทุกที มันราวกับว่าเค้าไม่สามารถจีบ สาวไหนได้เลยสักคน พวกเค้ากลับบ้าน นั่งซึมเศร้า โทษฟ้าดินและคิดว่า ถ้าเค้าเป็นอย่างโน้นเป็นอย่างนี้ สาวๆคงจะเหลียวมอง AFC มัวแต่คิดว่าทําอย่างไรสาวถึงจะชอบ พวกเค้ามุ่งอยู่แต่ด้านการกระทํา พวกเค้าถามเพื่อนว่าทํายังงัยหญิงถึงจะชอบ และเอาการกระทํานั้นมาบัง ทัศนคติ AFC ของตัวเอง พวกเค้ารู้ว่าต้องกล้าที่จะจีบหญิง แต่ก็ไม่สามารถ ทนต่อความล้มเหลวในระยะแรกๆได้ เมื่อถูกปฎิเสธหัวใจเค้าก็แตกเป็นเสี่ยงๆ พวกเค้ารู้ว่าต้องทําตัวไม่ให้เป็นของตาย แต่เมื่อออกเดทกับสาวเค้าก็เผยความในใจ ให้เธอรู้จนหมดสิ้น พวกเค้าหวังว่าการกระทําของพวกเค้าจะทําให้หญิงชอบ มันไม่มีทางจะ work!!! การเอาทัศนคติ AFC ของตัวเองมาซ่อนอยู่ภายใต้เทคนิคจีบสาวของ dj จะไม่มีวันสําเร็จ เพราะในท้ายที่สุดการกระทําก็จะสะท้อนถึงความคิดออกมา พวกเค้าจะปฎิบัติตัวเป็น dj ได้ยังงัย ในเมื่อเวลาที่เค้าอยู่กับสาวๆ พวกเค้ามีแต่ความกังวล ความกลัว กลัวว่าเธอจะไม่ชอบ กลัวว่าเธอจะปฎิเสธแล้วเค้าก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตลอดกาล AFC ไม่รู้เลยว่าปัญหาที่แท้จริงนั้นมันฝังลึกอยู่ในทัศนคติของพวกเค้า สิ่งเดียวที่เค้ารู้ ก็คือทิปและเทคนิคต่างๆในการจีบสาวที่เค้าไม่สามารถใช้ได้ พวกเค้าถือปืนที่ไม่มีกระสุน จะให้ยิง การที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็น dj นั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา คุณไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ชั่วข้ามคืน มันอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปี การถูกปฎิเสธคือสิ่งที่จะพาคุณไปถึงจุดหมายได้ถ้าคุณ รู้และเข้าใจสิ่งที่คุณทําผิดพลาดและไม่ทํามันอีกในครั้งต่อไป คุณจะกลัวการถูกปฎิเสธไปทําไมในเมื่อคุณรู้ ว่าคุณจะกลายเป็น dj ในอนาคตจากความผิดพลาดที่คุณทํา ความสําเร็จมันจะมาในที่สุดและมันจะมา เรื่อยๆ ผู้หญิงจะไม่สามารถต้านคุณได้อีกต่อไป ชีวิตนี้คุณเลือกได้ว่าจะเป็น dj ที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หรือเป็น AFC ที่มัวแต่ถามตัวเองว่า ทําไม! ทําไม! ทําไม! คุณคนเดียวเท่านั้นที่เป็นคนเลือก ====================================================== 3 ทัศนคติที่จะทําให้ผู้หญิงต้านคุณไม่ได้: 1. "คุณเป็นผู้ชาย คุณไม่ซ่อนความรู้สึกชอบผู้หญิงเอาไว้ข้างใน"---ใช่ คุณเป็นผู้ชาย ธรรมชาติได้กําหนดเอาไว้แล้วว่าคุณชอบผู้หญิง คุณจะไปซ่อนความรู้สึกไม่ให้พวกเธอ รู้ทําไม ผมเห็นผู้ชายหลายคนเอาแต่แอบมองสาวที่พวกเค้าชอบอยู่ห่างๆ ไม่กล้าบอก ไม่กล้าแสดงออกให้เธอรู้ พวกเค้าเอาแต่แอบมองอยู่อย่างนั้น พอสาวๆหันมา พวกเค้าแทบจะ วิ่งหนีจากตรงนั้นไปให้เร็วที่สุด มันไม่น่าเชื่อ! แต่มันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง คุณเป็น ผู้ชายคุณต้องแสดงออกให้เธอรู้ คุณต้องเข้าไปขอเบอร์เธอ 2."คุณทําในสิ่งที่คุณต้องการ"--- ชีวิตคนเราเริ่มที่การเกิด และสิ้นสุดลงเมื่อตาย สิ่งที่คุณ จะทําระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดมันขึ้นอยู่กับคุณอย่างแท้จริง ทําในสิ่งที่คุณต้องการ มันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทําในสิ่งที่คุณอยากทํา เพราะว่าชีวิตคุณมันก็เป็นของคุณ ถ้าคุณ อยากจะจีบสาวสักคน ทําไปเลยไม่จําเป็นต้องไปแคร์สายตาคนอื่น 3."คุณใช้ชีวิตอย่างสนุก"--ใช้ชีวิตให้คุ้ม สนุกกับมัน สนุกกับการที่ได้ทําสิ่งใหม่ๆ สนุกกับการที่ได้ทําในสิ่งที่ไม่กล้า สนุกกับการจีบสาว สนุกกับการถูกปฎิเสธ ยิ่งคุณสนุกกับมันเท่าไร สิ่งดีๆก็จะตามมามากขึ้นเท่านั้น ชีวิตที่ไม่มีความสนุก ก็เหมือนกับตายไปแล้วนั่นเอง ทําตัวให้มีชีวิต ทําตัวให้สนุก ====================================================== เธอปฎิเสธแต่ผมหัวเราะ: รู้มั้ยครับ เวลาที่ผมนึกกลับไปหาแฟนเก่าทุกๆคน ผมหัวเราะเสมอ เวลาที่ผมเข้าไปขอเบอร์แล้วถูกปฎิเสธผมก็ยังหัวเราะ ทําไมล่ะ! การที่ถูกปฎิเสธนั้นมันหมายความว่า เธอไม่สนใจเรา แล้วเราก็ จะไม่ได้อยู่กับเธอ เราจะต้องผิดหวังไม่ใช่เหรอ แล้วทําไม ทําไมผมถึงยังหัวเราะออกมาได้ 555 จริงๆแล้วมันมีเหตุผลหลายข้อครับ 1. เธอคิดว่าเธอทําสิ่งที่ถูกต้องแต่จริงๆแล้ว เธอพลาดโอกาสที่จะได้อยู่กับผู้ชายในฝัน ของเธอ ผู้ชายที่มีทัศนคติที่ถูกต้อง ผู้ชายที่จะพาเธอไปพบความสุข ความตื่นเต้น 2. ถ้าคุณมาที่เวปไซท์นี้เป็นประจําแล้วละก้อ คุณรู้มั้ยครับว่าคุณรู้สิ่งที่ผู้ชาย 90% ไม่รู้ในการที่จะปฎิบัติตัวกับผู้หญิง คุณเป็นผู้ชายที่หายากมากในสังคมปัจจุบัน ลองมองไปรอบๆตัวคุณดู ผู้ชายส่วนมาก ถ้าไม่เป็น nice guy ก็เป็น jerk มีอยู่สองอย่าง มีน้อยมากที่จะมีลักษณะของ donjuan ที่แท้จริง 3. คุณกําลังพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ในอนาคตนั้นคุณรู้เลยว่าคุณจะเป็นคนที่น่าสนใจขนาดไหน เป็น donjuan ที่มีแต่คนสนใจมากมาย มันน่าตลกที่ว่า การปฎิเสธของเธอทําให้เรากลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม มันเป็นแรงจูงใจให้เราพัฒนาไปสู่คนที่เราอยากจะเป็น ถ้าเธอไม่ได้ปฎิเสธเรานั้น เราก็คงมัวแต่มานั่งดีใจ และปล่อยให้ เวลาผ่านไปวันๆ โดยไม่พยายามพัฒนาตัวเองขึ้นมา เธอนั้นพลาดโอกาสที่ดีที่จะได้อยู่กับคุณที่ยอดเยี่ยมในปัจจุบันและพลาดที่ จะได้อยู่กับคุณที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม ในอนาคต คุณกําลังพัฒนาไปสู่ คนที่ดีกว่าเดิม เพราะฉะนั้นคุณก็จะได้โอกาสเจอผู้หญิงที่ดีกว่าเดิม คนที่ดีกว่าเธอ เธอพลาดที่ปล่อยให้คุณหลุดมือไปโดยที่ไม่รู้ตัว แล้วอย่างนี้คุณจะไม่หัวเราะได้ยังไง! ========================================= เจาะลึกความคิด Dj และ AFC: การที่จะเป็น dj นั้นมันเริ่มต้นจากทัศนคติ เริ่มจากความคิด นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องและดีที่สุดเพราะว่าเมื่อเราควบคุมความคิด ของเราได้ความสําเร็จมันก็จะตามมา พวกผู้ชายที่เป็น AFC นั้นไม่ได้เริ่มจากจุดนี้ นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทําไมพวกเค้าจึงไม่ ประสบความสําเร็จ พวกเค้าสนใจอยู่แต่ว่าทํายังไงสาวๆถึงจะ ชอบ ทํายังไงถึงจะดี มันไม่มีทางจะเวิร์คได้เพราะแค่เริ่มต้น พวกเค้าก็ผิดแล้ว จะเป็น dj ต้องเริ่มเปลี่ยนความคิดก่อน มันเป็นความจริงที่มีคนพูดกันว่า "เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง" สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง dj กับ AFC นั้นก็คือทัศนคติ นั่นเอง เพราะฉะนั้นคุณต้องเริ่มคิดอย่าง dj เปลี่ยน ทัศนคติให้เป็น dj ต่อไปนี้คือตัวอย่างสถานการณ์ต่างๆที่ dj และ AFC เจอเวลาจีบสาวๆ และตัวอย่างความคิดที่ แตกต่างกันระหว่างทั้งสองฝ่าย รวมถึงผลลัพธ์ที่ตามมาด้วย สถานการณ์ : เห็นสาวสวยเดินผ่านมา AFC คิด--"โอ้โห!!!! แม่เจ้าโว้ยยยย น่ารักสุดๆเลย เป็นนางฟ้าหรือไงวะ แย่แล้วๆๆๆ ดูหุ่นสิ โคตรบาดตาบาดใจทําไงดีวะเนี่ย ตื่นเต้นไม่กล้าว่ะ อืมมม แล้วเธอก็คงมีแฟนแล้วแน่ๆ ผู้หญิงสวยๆอย่างนี้ ไม่มีใครปล่อยให้หลุดมือหรอก " Dj คิด--" อะห้าาา เธอดูดีจริงๆ ดีๆ ทําให้เราตื่นเต้นได้แสดง ว่าเธอเป็นคนที่น่าเข้าไปคุยด้วย อยากรู้จริงๆว่าเธอเป็นคนยังไง จะเป็นคนที่สวยเหมือนหน้าตาหรือเปล่า? แหม ช่างเป็นโอกาสที่ดีจริงๆ" ผลลัพธ์-- AFC ได้แต่ยืนนิ่ง มองสาวสวยโดยที่ไม่ได้ทําอะไรในขณะที่ Dj ไม่ลังเลที่จะเข้าไปคุยกับเธอ สถานการณ์ : ตอนเข้าไปขอเบอร์สาว AFC คิด--"โอยยยย ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะเดินเข้ามาคุยกับเธอได้ โอวววว เธอหันมาสบตากับเรา ไม่ได้ๆต้องพูดอะไรเท่ๆสักอย่าง พูดอะไรดีวะ ไม่ๆๆๆๆๆ แย่แล้วไม่รู้จะพูดอะไรดีโว้ยยย" Dj คิด--"การคุยกับสาวสวยนี่ มันช่างสนุกจริงๆ ทําให้ชีวิตมันมีรสชาติขึ้นมาหน่อย 555 ถ้าได้เบอร์ถือว่าดี แต่ถ้าเธอไม่ให้มันก็จะยังทําให้เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นอีกแน่ๆ " ผลลัพธ์-- AFC ไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นได้ เค้าพูดผิดๆถูกๆ ไม่เป็นธรรมชาติ จนเธอสังเกตได้ Dj คุยอย่างมั่นใจสนุกสนาน ไม่ได้แคร์กับผลลัพธ์ สาวสวย ก็รู้สึกดีไปด้วย ให้เบอร์มาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สถานการณ์ : อยู่ในช่วงขาดแคลน จีบสาวไม่ติดเลย AFC คิด--"ทําไมๆๆๆๆ ทําไมผมจีบสาวไม่ติดเลยยเนี่ย โลกแม่_ ไม่ยุติธรรม ถ้าผมหล่อกว่านี้หน่อย รวยกว่านี้อีกหน่อย ป่านนี้คงมีสาวๆสวยๆมาสนใจ แน่ๆ กลุ้มโว้ยยยยยยยย" Dj คิด--" อืมมม ได้รู้สิ่งที่ทําผิดพลาดเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว มันเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะยิ่งรู้ข้อผิดพลาดมากๆ ความสําเร็จก็จะมาเร็วมากขึ้น เราเขยิบใกล้ความสําเร็จเข้าไปอีกนิดนึงแล้ว" ผลลัพธ์--AFC มัวแต่นั่งกลุ้มใจจนไม่ได้ทําอะไร ไม่ได้ออกไปจีบสาวคนไหน อีกเลยเพราะกลัวความผิดหวัง Dj ยังคงจีบสาวและมองหาข้อผิดพลาดต่อไป เค้าสั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆๆ จนในที่สุดเค้าก็ได้สาวที่ต้องการ สถานการณ์ : สาวที่เคยคุยดีทําตัวออกห่าง AFC คิด--"ทําไงดีเนี่ย เธอไม่เหมือนเดิม ถ้าเธอไปหาคนอื่นจะทํายังไงวะ คงแย่แน่ๆๆ ไม่ได้ๆๆ จะปล่อยให้เธอหลุดมือไม่ได้ ไม่งั้นคงเสียใจตายแน่ๆๆ " Dj คิด--"เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น เธอเริ่มจะทําให้สถานการณ์มัน แย่ลง ต้องหาทางใหม่ที่ดีกว่าเดิม ถ้าเธอยังไม่ เหมือนเดิมอีก ก็เป็นเรื่องของเธอ เธอเป็นคนที่ เสียประโยชน์เองช่วยไม่ได้" ผลลัพธ์--AFC จมปลักอยู่กับคนที่ไม่ได้สนใจในตัวเค้าเลย เค้ายังโทรหาเธอทุกวัน จนกระทั่งเธอบอกว่าเธอ ไม่ได้ชอบเค้าแล้ว Dj ไม่ได้ใส่ใจที่เธอห่างเหิน เค้าทําตัวสบายๆ และได้ไปขอเบอร์สาวๆ มาอีกเยอะแยะ สถานการณ์ : จีบสาวติด AFC คิด--"ไชโยยยยยยยยย เย้!!! ผมนี่สุดยอดจริงๆ จีบติดจนได้ พรุ่งนี้จะไปบอกให้เพื่อนทุกคนรู้เลย555 โอ้ะ! แต่เดี๋ยวไปซื้อของขวัญให้เธอก่อนดีกว่า เธอ จะได้ดีใจ " Dj คิด--" อืมมม รู้สึกดีๆๆๆ ที่เธอชอบเรา แต่ว่าเราก็ยังคงต้อง พัฒนาตัวเองต่อไป" ผลลัพธ์-- AFC มัวแต่ดีใจจนไม่ได้ปรับปรุงตัวเอง และยังคงเอาใจเธออยู่ตลอดเวลา จนสุดท้ายเธอก็เบื่อ และทิ้งเค้าไป ส่วน Dj นั้นยังคงพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เค้า กลายเป้น Dj ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่า AFC นั้นเป็นคนที่เอาการกระทําของสาวๆมาเป็นตัวกําหนด อารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ความสุขของเค้าทั้งหมดขึ้นอยู่กับการกระทําของเธอ เค้าไม่สามารถควบคุมมันให้เป็นไปอย่างที่ต้องการได้ ในขณะที่ Dj นั้นสามารถควบคุมอารมณ์ ของตัวเองได้อย่างเหมาะสมทุกสถานการณ์ไม่มีหวั่นไหวไปกับปัจจัยใดๆทั้งสิ้น อย่าลืม! ถ้าจะเป็น Dj ต้องเริ่มคิดแบบ Dj ========================================================= เกมมันเพิ่งจะเริ่ม : รักษาเธอเอาไว้: โอเค คุณได้ลองใช้เทคนิคต่างๆในเวปนี้มาสักพักนึงและทัศนคติต่อผู้หญิงเริ่ม เปลี่ยนไป คุณมีความมั่นใจในการจีบสาวมากขึ้นๆๆๆๆ ๆ คุณเริ่มที่จะเปลี่ยนตัวเอง เป็น dj แล้วในที่สุดคุณก็ได้รับรางวัลตอบแทนกับความพยายาม คุณจีบสาวได้สําเร็จ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ!!! แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งตายใจ คุณคิดว่าเธอจะสนใจคุณคนเดียว ตลอดไปอย่างนั้นหรือ? คิดว่าเธอจะไม่มองคนอื่นเลยเหรอ? ผู้ชายหลายคนได้ทําผิดพลาดอย่างมาก พอพวกเค้าจีบสาวได้สําเร็จ พวกเค้าก้อหยุดอยู่แค่นั้น แล้วกลับกลายไปเป็นnice guy ตามเดิม ให้ความสนใจเธอเต็มที่ มีเวลาว่างให้เธอทุกวัน ตามใจเธอ ทําไมล่ะ!!! ทําไมต้องเปลี่ยนตัวเองไป คุณจีบเธอมาได้แบบ dj ทําไมคุณต้องเปลี่ยนเป็น nice guy อย่างเดิมเมื่อจีบติดทั้งๆที่คุณรู้อยู่แล้ว ว่าเทคนิค Nice guy เป็นเทคนิคที่ได้ผลน้อยมากถึงน้อยมากที่สุด รู้อยู่แล้ว ว่าเธอจะต้องเบื่อ ปัญหามันอยู่ที่ว่าคุณยังไม่ได้เป็น dj อย่างเต็มรูปแบบ เวลาคุณเข้าไปจีบสาว คุณคิดแบบ dj ได้ คุณไม่แคร์ คุณตลก สนุกสนาน แต่พอเวลาคุณจีบเธอมาได้สําเร็จ คุณเริ่มที่จะหวั่นๆ เริ่มกังวล ถึงแม้ว่าในหัวคุณจะคิดว่า "ดอนฮวนๆๆๆ ต้องใช้วิธีดอนฮวน" แต่ลึกๆจริงแล้วมองลงไปให้ดีคุณจะพบว่าคุณยังกลัวที่จะเสียเธอไป คุณยังแคร์เธออยู่มากเหลือเกิน ลองมองเข้าไปในตัวของคุณ ถามตัวคุณเองดูว่าถ้าแฟนคุณไปคบกับผู้ชายคนใหม่ ในตอนนี้คุณจะรู้สึกยังไง แล้วตอบตัวคุณเองด้วยความสัตย์จริงอย่างที่สุด.... คุณได้คําตอบว่าอะไรครับ ถ้าคุณตอบว่า คุณไม่แคร์เพราะความสุขของคุณขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง คุณคือดอนฮวนสําหรับเธอ!!! คําตอบอื่นนอกเหนือไปจากนี้แสดงว่าคุณไม่ใช่ดอนฮวนสําหรับเธอและคุณกําลัง เสี่ยงต่อการที่จะเสีย เธอไปอย่างมาก!!! กฏข้อที่ 1 สําหรับดอนฮวนและการจีบสาวคือ คุณไม่แคร์ ผมไม่สนว่าเธอจะ ขาว หมวย สวย เซ็กส์ แค่ไหน ผมไม่สนว่าเธอจะเป็นสาวที่คุณฝันถึงมานานทั้งชีวิต ผมไม่สนว่าคุณจะใช้ความพยายามแค่ไหนกว่าจะจีบเธอมาได้ เมื่อคุณจีบติดคุณไม่แคร์ที่จะเสียเธอไป การที่บอกอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ชอบเธอ ไม่รักเธอ คุณนั้นจริงๆแล้วชอบเธอและรู้สึกดีกับเธอแต่คุณไม่แคร์ที่จะเสียเธอไป ยังไงๆคุณก็ไม่แคร์ คุณยังจะต้องเป็น dj หลังจากที่คุณจีบมาได้ คุณยังจะต้องทําตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง เทคนิคทุกอย่างที่ใช้มาระหว่างตอนจีบเธอคุณยังใช้มันต่อไป ผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่ใช้ความรู้สึก อารมณ์เป็นตัวกําหนดการกระทําของพวกเธอเป็นสําคัญ คุณจะต้องกระตุ้นอารมณ์เธออยู่อย่างต่อเนื่อง สมํ่าเสมอ มิฉะนั้นแล้วเธอก้อจะเบื่อและหันไปหา ผู้ชายที่สามารถจะกระตุ้นอารมณ์เธอได้ดีกว่า และนี่ก็เป็นบางตัวอย่างที่คุณสามารถนําไปใช้ได้เมื่อจีบติดแล้ว --ทําให้เธอคิดว่าคุณอาจจะไปหาสาวอื่นเหมือนกับว่ามีผู้หญิงอื่นอยู่ในชีวิต คุณด้วย เธอจะรู้สึกได้ว่าเธอต้องทําอะไรสักอย่างเพื่อที่จะให้คุณอยู่กับเธอ เธอชอบที่คุณยัง เป็นคนท้าทายสําหรับเธอ --คุณอาจจะไม่ได้เจอเธอทุกวัน แต่ทุกครั้งที่อยู่กับเธอ คุณใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันอย่างคุ้มค่า อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปๆ อย่างน่าเบื่อหน่าย คุณจะต้องใช้เวลาอย่างคุ้มค่า หากิจกรรมทํา --ใช้การกระทําแทนคําพูด ถ้าคุณจะบอกเธอว่ารัก คุณไม่บอกเธอ โดยตรง คุณใช้การกระทําสื่อ จูบเธอเบาๆที่หน้าผาก กอดเธอ ไว้อย่างอบอุ่นในอ้อมแขน ใช้สายตาสื่อออกไป --มันโอเคที่จะมีความคิดต่างจากเธอ ไม่เป็นไร คุณจะต้องเถียงกับเธอบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อที่จะให้ชีวิตมันออกรสชาติ ไม่จืดชืดจนเกินไป ให้มันมีสีสัน ผู้ชายชอบคิดว่าเมื่อจีบเธอมาได้ เธอเป็นแฟนแล้วจะทําตัวยังไงก็ได้ มันไม่จริง!!!! คุณยังจะต้องท้าทายเธอ และกระตุ้นอารมณ์เธออย่างสมํ่าเสมอ การที่จีบติดไม่ได้หมายความว่าเกมมันจบลงแล้ว ตรงกันข้าม เกมที่แท้จริงมันเพิ่งจะเริ่มขึ้นต่างหาก!!! ========================================= 33 ทฤษฎีดอนฮวน: 1. ความสําเร็จเริ่มที่ความคิดแล้วต่อด้วยการกระทํา 2.เมื่อคุณคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์คุณก็จะเสน่ห์ 3. "1.สบตา 2.ยิ้ม 3.พูดคุย 4.ขอเบอร์" 4. ดอนฮวนขึ้นอยู่กับทัศนคติไม่ใช่คําพูดเท่ๆในการจีบสาว 5. ทําให้เธอเป็นทุกสิ่งในชีวิตคุณ = nice guy ซินโดรม = ฆ่าตัวตาย 6. การเปลี่ยนตัวเองให้เป็นดอนฮวนในช่วงแรกนั้น จะพบกับความผิดหวัง การถูกปฎิเสธมากมาย จริงๆแล้วนี่ไม่ใช่ความล้มเหลวแต่เป็นบันไดให้เราก้าว ไปสู่ความสําเร็จ 7. ความกล้าเป็นสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติของดอนฮวน เค้าไม่ต้องคิดว่าเค้ากล้า เค้าไม่ต้องบอกตัวเอง เค้ารู้ดีว่ามันอยู่ในตัวเสมอ 8. ไม่มีใครควบคุมผู้หญิงได้อย่างแท้จริง ผู้หญิงจะทําในสิ่งที่พวกเธอต้องการ ในเวลาที่พวกเธอต้องการ แต่สิ่งที่เราทําได้อย่างแท้จริงคือการควบคุมตนเอง 9. Nice guy บอกผู้หญิงว่าเธอเป็นนางฟ้าของเขา นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมสาวๆ จึงทิ้ง Nice guy ไปหาเทพบุตรของพวกเธอ 10. สาวๆจะจัดคุณอยู่ใน 3 กลุ่มนี้ "แฟน" "เพื่อน" "คนแปลกหน้า" 11. cocky +funny จะทําให้สาวๆมากมายหลงใหลคุณ 12. "มีวิธีง่ายๆที่จะทําให้คุณพบกับความสําเร็จ -- เพิ่มจํานวนความล้มเหลว เป็นสองเท่า" 13. คุณไม่สามารถไปรักใครได้หากคุณยังไม่รักตัวเอง 14. ยิ้มแล้วสบตาเสมอ 15"อย่ามองพื้นหลังจากสบตากับเธอ นี่เป็นสัญญาณการยอมแพ้" 16. เมื่อคุณสนุก โลกทั้งใบจะเป็นของคุณ 17. ผู้หญิงส่วนมากจะไม่ชอบคนที่รักเธอ แต่จะรักคนที่ทําให้เธอตื่นเต้น ทําให้เธอกลัว ทําให้อะดรีนาลินมันสูบฉีดและกระตุ้นอารมณ์เธอด้วยการแสดงออก ว่าเป็นแมนที่แท้จริง" 18. ดอนฮวนไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่ก้อไม่ได้เสแสร้งเป็นคนอื่น พวกเขาเป็นคนที่เขาต้องการจะเป็น 19. ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง จงทําในสิ่งที่ต้องการ ในขณะที่ยังมีโอกาส 20. Nice guy คือพวกที่คอยแต่พรํ่าเพ้อถึงเธอ ในขณะที่พวกเธอไปกับดอนฮวนและ jerk 21. ถ้าเธอหัวเราะได้อย่างจริงใจเมื่ออยู่กับคุณ คุณสําเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง 22. ผู้หญิงไม่ใช่ส่วนที่สําคัญที่สุดของชีวิต พวกเธอเป็นส่วนที่ดีส่วนหนึ่งเท่านั้น 23. สิ่งที่มีค่าคือสิ่งที่มีอยู่น้อย ถ้าคุณทําตัวแตกต่างจากผู้ชายคนอื่นๆ เธอจะเลือกคุณ 24. เมื่อคุณรู้ชื่อเธอ จงพูดชื่อเธออย่างสมํ่าเสมอ พวกเธอคิดว่าชื่อเธอเป็นสิ่งสําคัญมาก 25. Dj รู้ว่าเขาสามารถเดินจากเธอไปได้ตลอดเวลา เขาชอบเธอแต่เขาไม่แคร์ที่จะเดินจากเธอไป 26. ความสุขของ Dj ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองเท่านั้น ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับการกระทําของสาวๆ 27. สิ่งที่เสี่ยงที่สุดในชีวิตคือการที่ไม่เสี่ยงอะไรเลย 28. Nice guy ไม่กล้าแสดงความรู้สึกสนใจทางเพศให้เธอรู้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมเธอถึงบอกเขาว่า "เราเป็นเพื่อนกันเถอะ" 29. ทําไมเราต้องกลัวการเข้าไปคุยกับสาวสวย ทั้งๆที่เราเคยทําสิ่งที่เสี่ยงกว่านี้มาแล้วมากมาย 30. ผู้หญิงสวยไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง พวกเธอสามารถจะเอาอะไรก็ได้จากพวก nice guy ที่มาจีบ คุณต้องแสดงออกว่าคุณควบคุมเธอได้ ดึงเธอลงมาให้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง 31.อารมณ์ของสาวๆจะขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้ชาย ผู้ชายสนุก สาวๆก็สนุก ผู้ชายเครียด สาวๆก็เครียดด้วย 32. ไขว่คว้าในสิ่งที่ต้องการ ตราบใดที่ไม่ทําให้คนอื่นเดือดร้อน อย่าให้ใครมาทําให้คุณหยุดทําในสิ่งที่ต้องการ เพราะชีวิตคุณมัน ก็เป็นของคุณ 33. ทุกๆอย่างในชีวิตขึ้นอยู่กับมุมมอง ทัศนคติ มันอยู่ที่ว่าจะเลือกมองมุมไหนเท่านั้นเอง ====================================================== ภูมิคุ้มกันความสวย: ผมคิดว่าผู้ชายทุกๆคน ก็คงเคยที่จะระ.ระ..รู้สึก ตะ...ตื่นเต้น เวลาที่เจอสาวสวยมากๆๆ จนพะ...พูด ไม่ค่อยออกเหมือนที่ผะ...ผะ.....ผมกําลังเป็นอยู่ใช่มั้ยครับ เวลาเราคุยกับเพื่อนผู้ชาย เราคุยเฮอา ปาจิงโกะ เราตลกได้ แต่พอให้สาวสวยมายืน อยู่ตรงหน้า หัวใจเราเต้นเเร็วยิ่งกว่าจังหวะเพลงร๊อค เลือดมันสูบฉีดไปทั่วร่างกาย มือมันสั่นๆ ร่างกายไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง พูดอะไรไม่ออกสักคํานึง ถ้าจะว่าไปแล้วนี่คือสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกเลยนะครับเนี่ย!!! ผู้ชายกลัวความสวย โอววววมายกอดดดดด ไม่เข้าใจ มันแปลกดีเหมือนนะครับที่เรากลัวความสวย ทั้งๆที่เราชอบมัน ทําไมเรากลัวในสิ่งที่ชอบเหลือเกินครับ? ไม่ใช่ว่าพอสาวสวยหันมาสบตากับเรา แล้วเธอจะกลายเป็นตัวมอนสเตอร์ขึ้นมาในทันทีนี่ ไม่ใช่ว่าถ้าเข้าไปคุยกับเธอแล้วเธอจะเอาปืนมาไล่ยิงเราซะหน่อย หรือว่าถ้าขอเบอร์แล้วเธอไม่ให้ โลกก็ยังไม่ได้แตกสักกะหน่อยนี่ครับ ยังอยู่กันอย่างปกติสุขดี สิ่งที่คุณกลัวทั้งหลายแหล่นั่นน่ะ มันอยู่แค่ในสมองคุณเท่านั้นแหละครับ คุณเองเป็นคนที่ทําให้ความกลัว มันมากเกินกว่าความเป็นจริง คุณเองเป็นคนที่ทําให้คุณกลัวมากขึ้น ไม่ใช่เธอที่เป็นคนทํา แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะว่ามันมีวิธีแก้ไขโรคกลัวความสวยนี่อยู่ ความสวยจะไม่มีอิทธิพลกับคุณอีกต่อไป 1.ไม่มีผู้หญิงที่สวยเต็ม 10 ในโลกใบนี้เพราะโลกใบนี้ไม่เคยมีอะไรสมบูรณ์แบบ สมมุติว่าคุณกําลังคุยกันอย่างสนุกสนานกับเพื่อนของคุณอยู่ บังเอิญมีสาวสวยคนนึงเดินผ่านหน้า สวยแบบไม่รู้สวยขนาดนี้ได้ไง โคตรๆสวย คุณคิดว่า "โอ้โห!! สวยสุดยอดperfect เต็มสิบไปเลยแบบนี้" คุณเริ่มจินตนาการเวลาคุยเข้าไปทักทาย คุยกับเธอ เอาอีกแล้ว มันมาอีกแล้ววว ความกลัว ความประหม่า ใจเต้นตึกตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ้โห ควบคุมร่างกายไม่ได้ อัมพาฒชั่วขณะ แต่เดี๋ยวก่อนครับ คุณคิดว่าเธอ perfect เลิศเลอขนาดนั้นจริงหรือ? มันไม่จริงครับ ถ้าคุณลองเอาเธอไปให้ผู้ชายอีกหลายๆคน ลองดูเธอ พวกเค้าจะให้คะแนนต่างจากคุณโดยสิ้นเชิง บางคนอาจจะให้ 8 บางคนให้ 9 บางคน7 ยกตัวอย่างง่ายๆเลย ผมกับเพื่อน 4-5 คน เดินกันอยู่ในมหาลัย เพื่อนผมคนนึงมัน เห็นหญิงแล้ว มันบอกผม "น่าร้ากกกกกจัง เอาไปเลย 8.5" เพื่อนผมอีกคนมันแย้งทันที "ไม่ว่ะ สะโพกใหญ่ไปหน่อย เอาไป 8" อีกคนยิ่งแล้วใหญ่" คุณดูกันยังไงวะ ธรรมดาว่ะ 7 ก็พอ" หรือว่าถ้าคุณจะให้ผมยกตัวอย่างดาราขึ้นมาก็ได้ อย่างแหม่ม แคทลียา คุณว่าสวยมั้ยครับ? บางคนอาจจะให้ 9 ให้ 10 9.5 อะไรต่างๆนานา ผมว่าเธอก็สวยดีนะครับแต่ผมเฉยๆ ให้แค่ 8 พอ หรือว่าแอน ทองประสม บางคนบอก 8 บางคน 8.5 ผมให้เธอแค่ 7 เท่านั้นแหละ หรืออย่างนํ้าฝน กุลณัฐ บางคนบอกว่าเธอสวยมาก ให้ 9.5 เลยแต่ผมดูยังไงๆ เธอก็เป็น 8 สําหรับผม แต่ถ้าเป็นอย่างตุ๊กตา อินทิรา หรือโอ๋ ญดาผมให้ 9 เลย แต่ก็มีเพื่อนผมบางคนที่ให้แค่ 8 เห็นมั้ยครับว่าการที่เธอเพอร์เฟกต์นั้นเป็นสิ่งที่เราอุปโลกขึ้นมาเองครับ เธอไม่ได้เพอร์เฟกต์ในความเป็นจริง สาวคนที่คุณคิดว่าเพอร์เฟกต์ แล้วมันทําให้คุณไม่กล้าเข้าไปคุยด้วยน่ะ จริงๆแล้วยังมีผู้ชายอีกมากมายที่ไม่ได้ มีปัญหาในการเข้าไปคุยกับเธอ มีผู้ชายอีกมากมายเหลือเกินที่คิดว่าเธอธรรมดาๆ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ผู้ชายทั้งโลก vote ให้คะแนนเต็มสิบทุกคน ไม่มีครับ 2. ผู้หญิงชอบดอนฮวน ความสุขของเธอขึ้นอยู่กับดอนฮวน คุณรู้มัยครับสิ่งที่เรากําลังเป็นกันอยู่นี่ เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนชอบมากนะครับ ดอนฮวนเป็นกลุ่มผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนเฝ้าหามานาน เพราะทั้งชีวิตเธอเจอแต่ ผู้ชายสองรูปแบบ ไม่ nice guy ก็ jerk เธอเบื่อเต็มทีแล้วครับ เธออยากจะเจอคน ที่เข้าใจว่าควรจะปฎิบัติตัวอย่างไรกับพวกเธอ คนที่เข้าใจธรรมชาติผู้หญิงและพร้อมที่จะ ให้ความสุขกับเธอ คนที่เป็นดอนฮวน เคยมีผู้หญิงที่ผมเข้าไปขอเบอร์คนนึงบอกกับผมว่า เธอประทับใจมากที่ผมกล้าเข้าไปขอเบอร์เธอ เธอเอาไปเล่าให้เพื่อนๆเธอฟังว่า มีผู้ชายคนนึงเข้าไปขอเบอร์เธอทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันเลย เพื่อนเธอก็รู้สึกแปลกใจมาก เพราะว่าไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่ไม่รู้จักแล้วกล้าเข้าไปขอเบอร์เธอมาก่อน เพราะโดยปกติ แล้วเธอเป็นคนที่ไม่ยิ้มให้กับใครเลย หน้าเธอจะดุๆ เธอบอกว่าผู้ชายทุกคนล้วนแต่กลัวความสวยของเธอทั้งนั้น ไม่มีใครกล้ามาขอตรงๆแบบนี้ เธอถามผมใหญ่เลยว่าทําไมไม่กลัวเธอเหรอ ทําไมกล้ามาขออะไร เธอประทับใจมากเลยนะประมาณนี้ โอ้โห ผมรู้สึกว่าผมอยากจะอยู่ต่อในโลกนี้อีกสัก 300 ปีเลยครับ! 3.ตื่นเต้นแสดงว่าดี ถ้าคุณเห็นเธอแล้วคุณตื่นเต้น มือไม้สั่น ใจเต้นระรัววววววว เหงื่อตก นั่นแสดงว่าคุณสมควรที่จะเข้าไปขอ เบอร์เธอเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าเธอทําให้คุณเป็นได้ขนาดนั้นแสดงว่าเธอต้องมีอะไรพิเศษอย่างแน่นอน เป็นคนที่คุณ เฝ้ารอคอยที่จะขอเบอร์ มันจะมีประโยชน์อะไรครับ กับการที่เราเห็นคนที่เราเฉยๆ แล้วเราก้อเข้าไปขอเบอร์ ชีวิตวันๆนึง ทําแต่เรื่องธรรมดาๆ น่าเบื่อ มันมีประโยชน์ยังไงครับ พวกเราทุกคนที่อยู่กันนี่ก็อยากจะพบกับ ความสุข ความตื่นเต้นกันทั้งนั้นไม่ใช่หรือครับ ความตื่นเต้น นี่แหละที่ทําให้ชีวิตเราน่าอยู่ ผมยินดีที่จะถูกปฎิเสธในขณะที่ผมรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้เบอร์มาแบบ ธรรมดาๆ เฉยๆ อ้าว! รออะไรอยู่ครับ ออกไปขอเบอร์สาวสวยสิ คุณมีภูมิคุ้มกันความสวยแล้วนี่!!! ============================================ ให้โอกาสตัวเองทําผิดพลาด: ผมทราบครับว่าเหตุผลที่ทําให้พวกเราเข้ามาในเวบนี้ก็เพราะว่า พวกเราทุกคนต่างก็ผิดหวัง อกหัก เสียใจ กับความรัก พวกเราไม่ได้สิ่งที่เราต้องการจากผู้หญิง พวกเรารู้สึกท้อแท้ ลองมองย้อนกลับไปดูตัวเองก่อนที่จะเข้ามาเจอเวบจีบสาวสิครับ "ทําไม ทําไม ทําไมไม่เคยจีบสาวติดเลย จีบสาวนี่แม่_โคตรยากเลย มันเป็นเพราะอะไรวะ นี่ถ้ารู้ว่าจะต้องทําตัวยังไง ถ้าเพียงแค่รู้เคล็ดลับเกียวกับการจีบสาว ชีวิตคงจะมีความสุขแน่ๆ" หลังจากนั้นคุณเข้ามาในเวบนี้ คุณได้พบกับวิธีจีบสาวแนวใหม่ คุณตื่นเต้น ดีใจ คุณอ่านตําราจีบสาวทุกบท ศึกษาอย่างถี่ถ้วน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มที่ทําให้คุณอยากจะพัฒนาตัวเองไปสู่จุดหมายที่ต้องการ ดอนฮวน donjuan 1เดือน 2เดือน 3เดือนผ่านไป คุณรู้สึกได้เลยว่าคุณเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี สาวๆเริ่มที่จะปฎิบัติตัวกับคุณ ต่างไปจากเดิม พวกเธอเริ่มหันมาสบตาให้คุณ ยิ้มให้ พวกเธอเริ่มให้ความสนใจคุณมากขึ้น ไม่นานหลังจากนั้น ความมั่นใจคุณพุ่งขึ้นสูงถึงขีดสุด คุณเข้าไปขอเบอร์สาวๆมามากมายอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะทําได้มาก่อน คุณโทรหาพวกเธอ ชวนออกเดท ไปเที่ยว กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง คุณมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมมากมายนัก ชีวิตเริ่มพลิกผัน แต่แล้วคุณก็ทําข้อผิดพลาด ทําให้พวกเธอเปลี่ยนใจจากคุณไปหาคนอื่น สาวๆที่เคยคุยด้วยก็หายไปทีละคนๆ จนกระทั่งคุณ ไม่เหลือสาวคนไหนให้เดทด้วยอีกแล้ว คุณเสียใจ ผิดหวังอย่างมาก คุณเริ่มลังเลในความสามารถของตัวเอง แล้วคุณก็กลับมาคิดแบบเดิม เหมือนตอนก่อนที่คุณจะเข้ามาเจอเวบจีบสาว " ทําไม ทําไม ทําไมจีบไม่ติดอีกแล้วววววววว ทั้งๆที่เรารู้เคล็ดลับจีบสาวมากมายขนาดนี้ก็ยังจีบไม่ติด เราไม่สามารถจีบสาวสวยได้จริงๆ หรือนี่ ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง" คุณลืมสิ่งที่สําคัญอีกสิ่งนึงไปหรือเปล่าครับ? ดอนฮวนไม่ได้ถูกสร้างมาจากความสําเร็จ คอนฮวนถูกสร้างมาจากความผิดพลาด!!! ไม่เคยมีดอนฮวนคนไหนไม่เคยทําผิดพลาด ดอนฮวนทุกคนล้วนแต่ทําผิดพลาด ซํ้าแล้วซํ้าอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาตลอดชีวิต และมันน่าขําว่าดอนฮวนที่ทําผิดพลาดมากที่สุด มักจะเป็นดอนฮวนที่ดีที่สุด เป็นคนที่เข้าใจวิธีปฎิบัติตัวต่อผู้หญิงมากที่สุด เพราะความผิดพลาดนั้นเป็นสิ่งที่ทําให้เราสามารถพัฒนาตัวเองได้ ถ้าคุณไม่ทําผิดพลาด คุณไม่มีการพัฒนา คุณต้องให้โอกาสตัวเองได้ทําผิดพลาด!!! "แต่ว่าถ้าผมทําพลาดแล้ว ผมก็ต้องเสียเธอไปนะครับ คุณเวบมาสเตอร์ ผมรักเธอมากครับ ผมไม่อยากเสียเธอไป" มีอะไรจีรังยั่งยืนบ้างครับในโลกใบนี้ มีอะไรที่เป็นตลอดกาลบ้างครับ รักได้ก็หมดรักได้เหมือนกัน และเมื่อความรักเก่าคุณจากไป ความรักใหม่ก็จะเข้ามา เมื่อเธอเดินไปจากคุณ สาวสวยอีกคนนึงก็จะเดินเข้ามาในชีวิตคุณ "แต่ที่ผมเข้ามาในเวบนี่ ก็เพราะว่าผมไม่อยากทําผิดพลาดนะครับ ผมอยากจะให้เทคนิคในเวบจีบสาวช่วยให้ผมประสบความสําเร็จ มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ ถ้าจะเปรียบเทียบไปแล้วหนทางสู่การเป็นดอนฮวนมันเหมือนกับการเล่นเวท วันแรกที่คุณเริ่มเล่นคุณยังไม่ได้แข็งแรงอย่างที่คุณต้องการ คุณเลยเริ่มเล่นเวทเบาๆ อาจจะเล่นกล้ามแขนโดยยกดัมเบลแค่ 10 ปอนด์ก่อน คุณยกไปได้ 2-3 เซท คุณเริ่มล้าแล้ว เริ่มปวดแขน คุณเลยหยุด ค่อยกลับมาเล่นวันหลัง คุณให้กล้ามเนื้อคุณพักอย่างเต็มที่ 2 วัน แล้วกลับมายกใหม่ คราวนี้คุณแข็งแรงขึ้น คุณยกได้มากกว่าเดิม จากนั้นคุณก็ทําแบบเดิมอย่างนี้ไปเรื่อยๆๆ เล่นเวท, กล้ามเนื้อล้า, พัก, กล้ามเนื้อฟื้นตัวแข็งแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม กลับมาเล่นใหม่อีกวัน, กล้ามเนื้อล้า, พัก, กล้ามเนื้อฟื้นตัวแข็งแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม กลับมาเล่นใหม่อีกวัน, กล้ามเนื้อล้า, พัก, กล้ามเนื้อฟื้นตัวแข็งแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม กลับมาเล่นใหม่อีกวัน, กล้ามเนื้อล้า, พัก, กล้ามเนื้อฟื้นตัวแข็งแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม กลับมาเล่นใหม่อีกวัน, กล้ามเนื้อล้า, พัก, กล้ามเนื้อฟื้นตัวแข็งแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม 6 เดือนผ่านไป คราวนี้ คุณแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมมาก กล้ามแขนคุณใหญ่สุดๆ คุณยกได้ถึง 70 ปอนด์!!! เหมือนกับการจีบสาวไม่มีผิด ตอนแรกคุณเข้าไปจีบพวกเธอ ชวนเธอออกเดท (คุณเริ่มเล่นเวท) หลังจากนั้นคุณทําผิดพลาด เธอไปจากคุณ (กล้ามเนื้อเริ่มล้า) คุณเริ่มคิดถึงสิ่งที่คุณทําผิดพลาด อ้าาา ห้าาา คุณรู้แล้วว่าคุณยังไม่ค่อยเป็นผู้นําเวลาอยู่กับเธอ (พัก) คุณไปจีบสาวคนต่อไปโดยที่รู้ว่า คราวนี้ต้องทําตัวเป็นผู้นําให้มากขึ้น (กล้ามเนื้อฟื้นตัวแข็งแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม) คุณกลับมาโดยคุณเก่งกว่าเดิม เป็นดอนฮวนมากกว่าเดิม ต่อมาคุณจีบสาวคนที่สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ.............ร้อยยยย (เล่นเวท) คุณยังทําผิดพลาดอยู่ (กล้ามเนื้อล้า) แต่ในความผิดพลาดเหล่านั้น มันช่วยสั่งสมประสบการณ์ให้คุณ มันช่วยทําให้คุณเข้าใจผู้หญิงได้ดีขึ้น คุณก็กลับมาโดยได้ประสบการณ์มากขึ้นเสมอๆ คุณเป็นดอนฮวนที่ดีขึ้น(กล้ามเนื้อฟื้นตัวแข็งแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม) และวันนึงก็จะมีสาวสวยสุดยอดมาตกหลุมรักคุณอย่างหัวปักหัวปํา!!! ความผิดพลาดเป็นปัจจัยสําคัญที่จะนําคุณไปสู่ความสําเร็จ พวก nice guy เคยให้โอกาสตัวเองได้ทําผิดพลาดบ้างมั้ยครับ? ไม่เลย พวกเค้ากลัวว่าจะทําผิดพลาด นั่นเป็นสาเหตุว่าทําไมพวกเค้าได้แต่ทําดีกับหญิงตลอดเวลา nice guy ถามผู้หญิงว่า "ผมขอจูบคุณได้มั้ยครับ?" พวกเค้ากลัวว่า ผู้หญิงจะอึดอัด จะโกรธ ถ้าพวกเค้าให้โอกาสกับตัวเองที่จะทําผิดพลาด พวกเค้าจะไม่ถามเธอก่อน เค้าแค่จูบเธอก็เท่านั้น แน่นอนว่าเค้าอาจจะโดนตบที่หน้าหรือไม่เธอก็อาจจะดีใจที่ได้รู้ว่า เค้าไม่ใช่กะเทย และเค้ากับเธอก็จะลงเอยกันด้วยดี nice guy ไม่กล้าที่จะทําผิดพลาด อยากจะให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบ แล้วเป็นยังไงครับ nice guy เคยได้อะไรกลับคืนมาบ้างมั้ยครับ? nice guy เวลาทําผิดพลาด พวกเค้าไม่เคยคิดว่าเป็นความสําเร็จ ไม่เอาประสบการณ์ความผิดพลาด มาสอนตัวเอง เวลาไปจีบสาวสวยคนต่อไปพวกเค้าหวังว่าคราวนี้คงจะสําเร็จ ผลลัพธ์คงจะต่างออกไป แต่ว่ายังทําตัวแบบเดิม มีทัศนคติแบบเดิม มันเป็นไปไม่ได้!!! แต่พวกเราไม่ใช่!!! พวกเราดอนฮวนทําผิดพลาดแต่รู้ว่าเพราะอะไรมันถึงพลาด พวกเราเรียนรู้จากความล้มเหลว ไม่เหมือน nice guy ที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองได้ทําอะไรพลาดไปบ้าง พวกเค้าเลยแก้ไขข้อบกพร่องนั้นไม่ได้ ไม่เข้าใจ ว่าทําไมถึงจีบหญิงไม่ติดไปตลอดชีวิต ดีใจหรือยังที่คุณไม่ใช่ nice guy ดีใจหรือยังที่เริ่มคิดแบบดอนฮวน =========================================== อย่าลืมว่าดอนฮวนทุกคนก้าวมาจากความผิดพลาด ความผิดพลาดอย่างแรกที่ผู้ชายส่วนใหญ่ทําคือไม่กล้าที่จะทําผิดพลาด ไม่เปิดโอกาสให้กับตัวเองได้เรียนรู้ ดอนฮวนไม่ได้มาจากการอ่านตําราจีบสาว 20 รอบ ไม่ได้มาจากการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ดอนฮวนมาจากประสบการณ์การเรียนรู้ในชีวิตจริง ตําราจีบสาวสามารถชี้ให้คุณเห็นถึงวิธีที่ถูกต้องในการจีบสาวได้ แนะนําถึงสิ่งที่คุณควรจะปฎิบัติได้ มันมีประโยชน์ ใช่! มันทําให้คุณได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากมาย แต่มันไม่สามารถที่จะให้ประสบการณ์คุณได้ ไม่สามารถเปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาด คุณคนเดียวเท่านั้นที่ให้โอกาสนั้นกับตัวเองได้!!! ออกไปหาประสบการณ์จากชีวิตจริง ให้โอกาสตัวเองได้ทําผิดพลาด ไม่ว่าสิ่งที่คุณทําพลาดมันจะร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม ไม่ต้องกังวล กลับมาที่เวบจีบสาวของเรา แล้วผมจะช่วยคุณเอง สิ่งที่สําคัญอย่างยิ่งไม่ใช่ว่าคุณทําผิดพลาดหรือเปล่า? แต่ว่าสิ่งที่สําคัญมากกว่านั้นหลายเท่าคือ คุณรู้ถึงสิ่งที่คุณทําผิดพลาดหรือเปล่า? คุณได้เรียนรู้อะไรจากข้อผิดพลาดที่คุณทํา? ผู้ชายบางคนเห็นสาวสวยมองมา พวกเค้าไม่กล้าแม้กระทั่งยิ้มกลับไป พวกเค้ากลัวทําผิดพลาด ผู้ชายบางคนไม่กล้าชวนสาวที่ชอบออกเดท กลัวเธอปฎิเสธ พวกเค้ากลัวที่จะทําผิดพลาด ผู้ชายบางคนไม่กล้าขัดใจหญิง กลัวเธอโกรธ พวกเค้ากลัวจะทําผิดพลาด ผู้ชายบางคนไม่กล้าพูดคุยกับสาวๆ กลัวพูดผิด พวกเค้ากลัวทําผิดพลาด วิธีลบข้อผิดพลาดที่ดีที่สุดคือการที่เราเผชิญหน้ากับมัน ไม่ใช่วิ่งหนีมัน!!! จินตนาการถึงความสําเร็จที่จะเกิดขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าจะทําผิดพลาด ให้โอกาสตัวเองได้ทําผิดพลาด = ให้โอกาสตัวเองประสบความสําเร็จ "To try and fail is at least to learn, to fail try is to suffer the inestimable loss of what might have been" Anonymous "พยายามแล้วล้มเหลว อย่างน้อยที่สุดคือการเรียนรู้ ล้มเหลวที่จะพยายามคือความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ จากสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจากการลองพยายามดู" นิรนาม =================================================== คุณต้องเริ่มก่อนเสมอ: ผมว่าเราคงเคยรู้สึกเหมือนกันนะครับว่า ทําไมผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสมอในเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง ทําไมผู้หญิงจะเริ่มก่อนบ้างไม่ได้หรือไง? (หญิงเริ่มก่อนมีบ้างแต่น้อยมาก) เคยคิดกันใช่มั้ยครับว่า มันคงจะดีนะถ้าผู้หญิงกับผู้ชายมาแลกเลี่ยนบทบาทกัน ให้ผู้หญิงมาเป็นฝ่ายรุกในทุกเรื่อง ลองให้พวกเธอมาคอยตามจีบเราบ้าง ให้ลองมาขอเบอร์พวกเราก่อนบ้าง คงจะสนุกดีนะครับ ว่ามั้ย? 555 แต่ความจริงบังเอิญว่ามันเป็นไปไม่ได้หนะสิครับ ซึ่งตรงจุดนี้ผู้ชายหลายคนยังไม่เข้าใจ และก็มาบ่นเสมอๆ ว่า ทําไมความสัมพันธ์ของเค้าและเธอไม่คืบหน้าเลย? ทําไมเค้าต้องเริ่มก่อนเสมอๆ? พอนานๆเข้า ผู้ชายพวกนี้ก็จะเริ่ม ขี้เกียจที่จะตามจีบหญิง ในที่สุดก็จะเลิกล้มความตั้งใจ และก็จะหาสาวคู่กายไม่ได้ พอเวลาผ่านไปอีกหน่อย ก็จะกลับมาคิดอีกว่า "เฮ้ย! ทําไงดีวะ ยังหาแฟนไม่ได้เลย ช้าไม่ได้แล้ว ต้องจีบหญิงแล้ว คราวนี้ต้องทําให้ได้" พอเริ่มกลับมาจีบหญิงได้อีกสักพัก ก็รอที่จะให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกเหมือนเดิม รอให้เธอพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น รอให้เธอเป็นคนเริ่ม และทุกอย่างก็จะไม่ดีขึ้นเพราะผู้หญิงจะไม่เป็นฝ่ายรุก ในเมื่อไม่มีใครเป็นฝ่ายรุก ความสัมพันธ์ก็หยุดชะงัก จากนั้นก็กลับมาคิดแบบเดิมอีก "ทําไมความสัมพันธ์ของเรากับเธอมันไม่คืบหน้าเลย?" ผมว่าถ้าขี้เกียจที่จะเป็นผ่ายรุกก็หยุดบ่นและก็เลิกจีบสาวไปเลยดีกว่า พวกที่มาบ่นแบบนี้แสดงว่ายังไม่เข้าใจพื้นฐานการจีบสาวที่สําคัญสุดๆๆๆๆๆ ไม่ได้หันมามองโลกความเป็นจริง ครับ เราต้องมาทําความเข้าใจก่อนว่าในการจีบสาว ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบในการสานความสัมพันธ์ ผู้ชายต้องเริ่มก่อนเสมอ คุณอาจจะคิดว่า "โอ้ย! ทําไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยนะ ไม่ยุติธรรมเลย มาผลักความรับผิดชอบให้ผู้ชายฝ่ายเดียว" ใช่ครับ มันไม่ยุติธรรมหรอก ผู้หญิงจะไม่ยอมเป็นฝ่ายรุกหรอก เพราะพวกเธอจะไม่ยอมเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับการโดนปฎิเสธเด็ดขาด พวกเธอจะให้ความเสี่ยงนี้ตกอยู่กับผู้ชายทั้งหมด ไม่เป็นไรผู้หญิงเป็นพวก sensitive ยอมพวกเธอหน่อยละกัน เอาล่ะ คราวนี้ ผมมีข้อดีและข้อเสียของการที่ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนจะบอก ข้อเสียก็คือ มันทําให้งานของเรามากขึ้นและยุ่งยาก ข้อดีก็คือ เราเป็นคนเลือกว่าเราอยากจะสร้างความสัมพันธ์ กับใครหรือไม่? เราเลือกว่าอยากจะมีความสัมพันธ์กับใครแค่ไหน? เราเป็นคนที่มีอํานาจในการเลือก สมมุติว่าคุณเป็นผู้หญิง 99.99% ในเวลาที่คุณเจอหนุ่มที่คุณอยากจะรู้จัก คุณไม่สามารถเข้าไปขอเบอร์ได้ เพราะคุณเป็นผู้หญิง คุณเริ่มก่อนไม่ได้ อย่างดีที่สุดที่คุณจะทําได้ก็คือพยายามส่งสายตาสิ่อให้รู้ว่า "ช่วยเข้ามาขอเบอร์ชั้นหน่อยนะได้โปรดดด นะนะนะนะนะ ขอร้อง" แล้วถ้าคุณเกิดมาเป็นผู้หญิงที่อาจจะบกพร่องทางหน้าตาหรือรูปร่าง คุณก็เสร็จ ไม่มีใครเข้ามาจีบแน่นอน คุณจะไปเริ่มจีบใครก็ยาก คุณไม่มีอํานาจในการเลือก หรืออย่างคุณกําลังคบกับชายหนุ่มอยู่คนนึง คุณปิ๊งแบบสุดๆๆๆๆ คุณอยากจูบเค้ามาก แต่คุณเริ่มก่อนไม่ได้ เพราะคุณเป็นผู้หญิง (อีกแล้ว) อย่างดีที่สุดที่คุณจะทําได้ก็คือส่งกระแสจิตไปบอกให้เค้ารู้ตัวว่า "ชั้นพร้อมที่จะจูบแล้วนะ ที่รัก" 555 ครับ แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายคุณจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาต่างๆเหล่านี้เลย เพราะคุณมีสิทธ์ที่จะทําหรือไม่ก็ได้ คุณมีอํานาจในการเลือก บวก ลบ คุณ หาร ข้อดี ข้อเสีย เรียบร้อยแล้ว จะรู้ว่า การที่เราต้องเป็นคนเริ่มสานความสัมพันธ์ในทุกๆเรื่องเป็นสิ่งที่ดี เมื่อเจอผู้หญิง ผู้ชายต้องเริ่มเข้าไปคุยกับเธอในครั้งแรก ผู้ชายต้องเป็นคนขอเบอร์โทรศัพท์เธอ จากนั้นผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเริ่มโทรไปคุย ผู้ชายต้องพยายามทําให้การคุยเป็นไปได้ด้วยดี คุยเรื่องที่เธอสนใจ เริ่มสร้างความสนิทสนม ผู้ชายต้องเป็นคนชวนเธอออกไปเดทในครั้งแรก บอกให้เธอรู้ว่าจะไปที่ไหน ไปทําอะไร เมือออกเดทผู้ชายต้องเป็นคนสร้างความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น ทําให้เธอหัวเราะ สนุกสนาน ทําให้เธอมีความสุข ผู้ชายต้องเป็นคนชวนเธอไปออกเดทครั้งที่สอง สาม สี่ ห้า.....และเมื่อความสัมพันธ์เป็นไปได้ด้วยดี ผู้ชายต้องเป็นคนเริ่มจับมือเธอ เป็นคนเริ่มโอบกอดเธอ จากนั้นผู้ชายต้องเป็นคนเริ่มจูบเธอ และเมื่อความสัมพันธ์ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผู้ชายต้องเป็นคนเริ่ม...เธอ(เอ่อ เซ็นเซอร์ครับ อิอิ) ทุกอย่าง!!! ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทุกอย่าง ผู้หญิงไม่ต้องทําอะไรทั้งสิ้น พวกเธอแค่คอยตอบสนองต่อสิ่งที่เราเริ่มเท่านั้นเอง จําไว้นะครับถ้าต้องการให้ความสัมพันธ์คืบหน้า เราต้องเป็นคนเริ่มก่อนทุกอย่าง!!! ============================================================ เปลี่ยนจากภายในและความเชื่อมั่น: อารมณ์ ความรู้สึกของคนเรามีผลกระทบมาจากคนอื่นๆรอบข้าง เคยเห็นเด็กตัวเล็กๆที่หกล้มมั้ยครับ? วินาทีที่ล้มลงไปกับพื้นเด็กจะทําหน้างงๆ ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เด็กหันกลับมามองพ่อแม่ตัวเอง ถ้าพ่อแม่มีสีหน้ากังวล แถมพูดด้วยความตกใจ "ว้าย! ลูกเจ็บมากมั้ย เป็นอะไรหรือเปล่า!" เด็กจะเริ่มร้องไห้โดยอัตโนมัติ แต่ว่าถ้าเด็กหันมาพ่อแม่ไม่ได้มีสีหน้าตกใจ ยิ้ม หัวเราะและพูดว่า "ไม่เป็นไรลูก นิดเดียว คนเก่ง ไม่เจ็บน้า ไม่เจ็บ" เด็กมักจะไม่ร้อง บางครั้งอาจจะหัวเราะตามพ่อแม่ด้วยซํา อีกตัวอย่างนึง มีการศึกษาทางจิตวิทยาครั้งนึงที่ต่างประเทศชื่อว่า The Asch's Conformity Study การวิจัยครั้งนี้นํากลุ่มคนมาประมาณ 20-30 คน โดยจะมีเส้นตรงตัวอย่างหนึ่งเส้น และเส้นตรงที่ใช้เปรียบเทียบอีก 3 เส้น จากนั้นจะให้แต่ละคนเลือกว่าเส้นไหนที่มีความยาว เท่ากับเส้นตัวอย่าง แต่ไม่ใช่แค่นั้น ผู้ที่จะต้องตอบเป็นคนแรกๆ ได้ถูกนัดแนะว่าให้เลือกตอบเส้นที่ผิด โดยไม่ให้กลุ่มคน ที่เหลือรู้ เมื่อการทดลองเริ่มขึ้น 4-5 คนแรกก็แกล้งตอบผิดตามที่ได้ตกลงไว้ และน่าแปลกใจมากครับ? คนที่เหลือส่วนใหญ่ ก็เลือกที่จะตอบเหมือนกับ 4-5 คนแรกที่ตอบผิดด้วย มีไม่กี่คนที่เลือกตอบต่างออกไป ที่คนส่วนใหญ่ตอบผิดเพราะถูกผลกระทบจากคําตอบของ 4-5 คนแรก พวกเค้าเริ่มสงสัยว่าอาจจะมองบางอย่างผิดพลาดไป เค้าสงสัยตัวเองเพราะทุกๆคนดูเหมือนว่า จะได้ข้อสรุปไม่เหมือนที่เค้าคิดไว้ จนในที่สุดแรงกดดันจากคําตอบที่ไม่เหมือนของคนอื่นๆนั้น ได้เข้ามามีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของเค้าเอง ทําให้เค้าต้องเปลี่ยนคําตอบ มนุษย์เป็น!สังคมที่การกระทํา ความรู้สึก ความคิดของคนอื่นมีผลกระทบต่อความรู้สึก ความคิดของเรา ในการจีบสาวนั้น แม้ว่าเราจะไม่สามารถควบคุมความรู้สึกความคิดของเธอได้ทั้งหมด แต่ความคิด ความรู้สึกเราก็ มีผลกระทบต่อความรู้สึกของเธอเช่นกัน ถ้าคุณพยายามจะจับมือเธอ แต่คุณทําด้วยความลุกลี้ลุกลน ประหม่า เธอจะรู้สึกอึดอัด หวาดระแวง เธอจะหนีห่างออกไป เพราะเธอรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณสบายๆ ค่อยๆเอื้อมไปจับมือเธออย่างช้าๆ นุ่มนวล เธอจะรู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้น ไม่ใช่สิ่งที่น่าอึดอัด น่ากลัว หรือว่าถ้าคุณเจอเธอครั้งแรก เดินเข้าไปพูดคุย ขอเบอร์อย่างมั่นใจ คุณเข้าไปด้วยความรู้สึกที่ว่าไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งคุณได้ โลกทั้งโลกเป็นของคุณ คุณรู้สึกว่าการจีบสาวนี่มันช่างเป็นเรื่องที่สนุกจริงๆๆๆๆๆ เมื่อนั้นแหละครับที่เธอจะรู้สึกดีกับคุณ เพราะเวลาคุณสนุกที่จะจีบเธอ รู้มั้ยครับว่ามันมีโอกาสสูงที่เธอจะรู้สึกสนุกตามไปด้วย เมื่อคุณแสดงออกถึงความมั่นใจในการขอเบอร์เธอ เมื่อนั้นแหละที่เธอจะให้เบอร์คุณได้อย่างมั่นใจ เพราะมันเหมือนกับคุณสื่อ ให้เธอรู้ว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล ผมกําลังแค่อยากจะแบ่งปันความสุขให้คุณเท่านั้น คุณจะดีใจถ้าเรารู้จักกัน" เธอเซนส์ได้จากความมั่นใจ ความเชื่อมั่นในตัวที่คุณส่งออกมาทําให้เธอรู้สึกมั่นใจตามไปด้วย เอาล่ะ ลองให้ nice guy ที่กําลังจะเป็น dj นําเทคนิคนี้ไปใช้ดูซิ สถานที่ : ร้านอาหารแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุง nice guy ที่กําลังจะเป็น dj นั่งทานอาหารอยู่กับเพื่อนๆ AFC ทันใดนั้นสายตาเหลือบไปเห็นสาวน่ารัก 2 คน เดินเข้ามาในร้าน พวกเธอเดินตรงมาทางโต๊ะที่พวกเค้านั่งอยู่ AFC สะกิดบอกเพื่อนๆ "โห ดูดิ โคตรน่ารักเลยว่ะ โดยเฉพาะน้องเสื้อชมพู สุดยอดดดด มานั่งข้างเราด้วย ใครก็ได้ไปเข้าไปคุยดิ๊" nice guy ที่กําลังจะเป็น dj พูด "ถ้าคุณชอบ คุณก็เข้าไปจีบดิ ถ้าคุณเอาแต่ดูอยู่อย่างนี้ คุณไม่ได้แอ้มว่ะ" AFC "ให้ผมเข้าไปจีบเนี่ยนะ!!! แค่สบตาผมยังจะปอดเลย นี่คุณเล่นให้ผมเข้าไปจีบ ไม่ไหวว่ะ ตื่นเต้น" เวลาผ่านไปสักพักนึงน้องเสื้อชมพูหันมาทางโต๊ะของเค้า nice guy ที่กําลังจะเป็น dj หันไปสบตากับเธอ เค้ารู้ว่าวินาทีนี้เค้าควรยิ้มให้เธอ เค้าพยายามฉีกยิ้มออกมา แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า!!! โอว โนววว เค้าไม่ได้ยิ้มให้เธอ เหมือนมีอะไรบางอย่างมาห้ามเค้าไว้ nice guy เริ่มหัวเสียนิดหน่อย แต่เค้าบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร ผิดพลาดนิดหน่อยเท่านั้น และเค้าก็รวบรวมความมั่นใจอีกครั้ง "โอเค ต้องมั่นใจ ใช่ๆ เพราะอารมณ์เรามีผลต่ออารมณ์ของเธอ ทําตัวให้สนุก เธอจะได้สนุกตามด้วย อย่าลืม ต้องมั่นใจๆๆๆ" ความกล้า ความมั่นใจเริ่มมากขึ้น เค้าเริ่มคิดถึงวิธีเปิดฉากคุยกับเธอ "เดินเข้าไปคุยกับเธอที่โต๊ะเลยดีมั้ย? เธอจะคิดว่าเราบ้ารึเปล่า?" "หรือจะรอให้เธอออกจากร้านก่อน ถึงค่อยเข้าไปคุยดี?" "หรือจะรอสบตา ยิ้มอีกครั้งก่อนเข้าไปคุย" "ถ้าเดินเข้าไปคุยแล้ว โต๊ะอื่นๆที่นั่งอยู่ จะคิดยังไงนะ" "จะพูดอะไรเป็นอย่างแรกดีถึงจะ work" nice guy คิดไปร้อยแปด พันเก้า ในที่สุด เพื่อนๆ AFC เริ่มลุกเดินออกจากร้าน nice guy ลุกขึ้นและมองมาทางโต๊ะสาวสวย เค้าพยายามยิ้มให้แต่ว่าเธอไม่ได้หันมา เค้าเริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อยๆ ว่าเธออาจจะไม่ได้สนใจเค้าก็เป็นได้ เค้ากับเพื่อนเดินห่างออกมาๆๆๆๆๆๆ จนเกือบจะถึงประตูทางออก "ไม่ได้การ โอกาสสุดท้ายแล้วต้องเข้าไปคุยกับเธอ เดี๋ยวนี้!!!" nice guy เดินกลับไปที่โต๊ะสาวสวย เค้าพยายามเข้าไปคุยอย่าง มั่นใจ แต่ทว่าผลลัพธ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคาดเอาไว้!!! nice guy ถูกปฎิเสธ เดินกลับออกมาอย่างผิดหวัง "ทําไมว่ะ! เข้าไปคุยอย่างมั่นใจ เธอไม่เห็นจะรู้สึกเลยว่าเรามั่นใจ เทคนิคนี้ไม่ได้ผลนี่หว่า " นั่นสิครับ เป็นเพราะอะไรกัน ทําไมไม่ได้ผล? ไหน ลองเรียก donjuan เข้ามาหน่อยสิ Mr. Donjuan เดินเข้ามาพร้อมกับพูดว่า "คุณ nice guy คุณมาถูกทางแล้วครับ คุณมีความกล้า เพียงแต่ว่ายังมีสิ่งที่ขาดหายไป" nice guy: "อะไรหรือครับที่หายไป ผมว่าผมก็ใช้เทคนิคจีบสาวของ dj แล้วนะครับ" dj: "คุณคิดว่าคุณใช้เทคนิค dj แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ คุณยังเป็น nice guy ที่ เอาหน้ากากของ dj มาสวมไว้เท่านั้นเอง!!! " nice guy "คือ..ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดมาครับ" dj "ไม่เข้าใจเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอถามคุณบางอย่างก็แล้วกัน" ทําไมตอนแรกที่เธอหันมาสบตากับคุณ คุณไม่ได้ยิ้มกลับไป? ทําไมก่อนที่คุณจะเข้าไปคุย คุณถึงต้องคิดให้มันวุ่นวายว่าจะเริ่มยังไงดี? ทําไมคุณถึงคิดขึ้นมาว่าเธออาจจะไม่ได้ชอบคุณก็ได้? "เอ่อ...ก็...ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ" nice guy เริ่มสับสน คุณทําอย่างนั้นเพราะว่าคุณใส่ใจกับความรู้สึกของเธอมากเกินไป คุณยังต้องการและหวังให้เธอมาชอบคุณ คุณไม่ได้สนใจตัวเอง คุณไปโฟกัสอยู่ที่เธอ!!! ใช่ครับ คุณพยายามทําตัวให้มั่นใจ สนุกสนานเพราะคุณรู้ว่าอารมณ์ของคุณมีผลกระทบต่ออารมณ์ของเธอ แต่นั่นก็เป็นการเสแสร้งเพราะลึกๆแล้วคุณก็ยังมีความวิตก คุณยังห่วงผลลัพธ์ว่าเธอจะตอบสนองกลับมาด้วยดีหรือเปล่า คุณกําลังเอาหน้ากาก dj มาสวมอยู่เพราะคุณสนุกสนาน มั่นใจแค่เปลือกนอก แต่ภายในคุณเต็มไปด้วยความสับสน กังวล ห่วงผลลัพธ์ ห่วงว่าเธอจะคิดยังไง เวลาจีบสาวสวย dj ไม่ได้คิดถึงผลลัพธ์ ไม่ได้กังวลว่าเธอจะคิดยังไงกับเค้า เค้าไม่ได้จีบสาวเพราะว่าเค้าต้องการจะจีบให้ติด แต่เค้าจีบสาวเพราะว่ามันทําให้เค้ารู้สึกดี สนุก เค้าชอบที่จะทํา พูดง่ายๆ ก็คือ dj เข้าไปจีบสาวก็จริงแต่ว่าจุดสนใจไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้หญิง dj สนใจอยู่กับตัวเค้าเอง dj โฟกัสอยู่ที่ตัวเอง ตัวอย่างเวลาเจอสาวสวย nice guy จะรู้สึกว่า "เธอจะชอบเรามั้ย?" (โฟกัสที่ผู้หญิง) donjuan จะรู้สึกว่า "เราควรจะชอบเธอดีหรือเปล่า?" (โฟกัสที่ตัวเอง) nice guy จะรู้สึกว่า "ถ้าได้ไปเที่ยวกับเธอคงจะมีความสุข" (โฟกัสที่ผู้หญิง) donjuan จะรู้สึกว่า "ถ้าเธอไปเที่ยวกับเราเธอจะต้องมีความสุขแน่ๆ" (โฟกัสที่ตัวเอง) nice guy จะรู้สึกว่า "เธอคือคนที่เฝ้ารอมานาน" (โฟกัสที่ผู้หญิง) donjuan จะรู้สึกว่า "เราเป็นคนที่เธอเฝ้ารอมานาน" (โฟกัสที่ตัวเอง) เมื่อคุณโฟกัสอยู่ที่ตัวเอง เทคนิคต่างๆ มันจะออกมาจากภายใน ไม่ใช่แค่เปลือกนอก และเมื่อนั้นแหละที่ความรู้สึกของเธอจะถูกกระทบโดยความรู้สึกของคุณ เพราะเวลาที่คุณมั่นใจ คุณมั่นใจจริงๆ ไม่ใช่การเสแสร้ง เธอจะรู้สึกได้เองว่าความมั่นใจคุณนั้นเป็นของจริงไม่ใช่ของปลอมทําเหมือน ลองคิดดูว่าถ้าคุณไปเจอคนสองคน คนนึงกําลังมีความสุขอย่างแท้จริง อีกคนกําลังมีความทุกข์แต่พยายามทําหน้าเหมือนว่าเค้ามีความสุข คุณคิดว่าคุณจะแยกออกมั้ยว่าใครที่กําลังเสแสร้งอยู่? ใครที่มีความสุขจริงๆ? ได้อยู่แล้ว!!! ถ้าคุณแคร์ผลลัพธ์ สนใจอยู่ที่เธอ คุณก็แค่กําลังเสแสร้งว่าคุณมั่นใจ คุณยังมีความกังวลอยู่ กลัวว่าเธอจะไม่ชอบ แต่ถ้าคุณไม่สนใจความรู้สึกเธอ สนใจอยู่ที่ตัวเอง คุณจะมีความมั่นใจอย่างแท้จริง เพราะคุณก็ไม่ได้กังวลอยู่แล้ว ว่าเธอจะชอบคุณหรือไม่ คุณแค่ทําสิ่งที่คุณรู้สึกว่ามันทําให้คุณมีความสุข ก็เท่านั้น คําถาม : จีบสาวสวยต้องทํายังไงบ้าง? ผู้คนมากมายตอบ "สนใจความรู้สึกเธอสิ เธอชอบอะไร เธอต้องการอะไร" ดอนฮวนตอบ "ไม่ใช่ครับ จีบสาวสวยต้องสนใจอยู่ที่ตัวเอง โฟกัสที่ตัวเอง" ดอนฮวนคือ?: ดอนฮวนคือความคิด ทัศนคติ "พี่ครับ ผมกำลังจะจีบสาวอยู่คนนึงพอดีเลย พี่ช่วยส่งเทคนิคที่เจ๋งๆมาให้หน่อยสิครับ ขอแบบด่วนเลยนะครับพี่" "เมื่อวันก่อนผมโทรไปหาเธอ เราคุยกันสนุกสนานมากครับ แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอยังไม่ยอมโทรหาผมซะที ผมต้องทำยังไงเธอถึงจะโทรมาครับ" "ถ้าผมจีบผู้หญิงที่ออกจะติดหรู ไฮโซ เธอจะมองที่คาแรกเตอร์อย่างเดียวหรือครับพี่ ส่วนใหญ่มักจะมองที่ฐานะ ความหล่อก่อนเลย แล้วอย่างนี้เทคนิคที่เรียนรู้มาจะได้ผลหรือครับ" "ผมได้ไปเที่ยวกับสาวคนนึง ผมกะจะเล่นมุขตลกแซวเธอ แต่พอพูดออกไปเธอไม่ขำเลยครับ ตกลงผมพลาดไปหรือยังครับ" "ผู้หญิงจะชอบมั้ยครับ ถ้าผมใช้เทคนิคอย่างนี้ แล้วต่อด้วยพูดอย่างโน้น และตามด้วยทำอย่างนั้น" "พี่ webmaster ผมสงสัยครับว่า เธอคิดยังไงกับผมกันแน่ สับดาห์ที่แล้วเธอทำการกระทำ A จากนั้นเธอก็ทำ B เมื่อ 3วันก่อน เธอพูด C กับผม แล้วเมื่อวานเธอแสดงท่าทาง D ออกมา พี่คิดว่าเธอชอบผมหรือป่าวครับ" โอววว หยุดก่อน ชายหนุ่มผู้สับสนทั้งหลาย!!! คุณกำลังเสียเวลาสนใจอยู่ในสิ่งที่ไม่มีความสำคัญ สิ่งที่ไม่ได้ช่วยให้คุณเป็นดอนฮวนเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่คุณต้องกังวลก็คือทำยังไงคุณถึงจะพัฒนาความคิด และความรู้สึกให้เหมือนดอนฮวนได้ต่างหาก แทนที่จะสนใจการกระทำของดอนฮวน คุณควรหันมาสนใจว่าการกระทำของดอนฮวนนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร? การกระทำนั้นมาจากที่ไหน? "ทำไมความมั่นใจผมน้อยเวลาเจอสาวๆ ทำยังไงถึงจะเพิ่มขึ้นมาได้" "ผมนำผู้หญิงไม่ค่อยเป็น ทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้นำที่ดีได้" "ผมยังสร้างความสุขจากภายในไม่ได้ ทำให้ผมเครียดเวลาจีบ ผมต้องแก้อย่างไร" "ทำไมเวลาออกเดท ผมรู้สึกอึดอัดเมื่อเธอนิ่งเงียบ ไม่ร่าเริง หรือเมื่อไม่รู้จะคุยอะไรกับเธอดี ทำยังไงถึงจะหาย" ใช่แล้ว พี่น้องดอนฮวน!!! นั่นคือประเภทของคำถามที่เราสนใจ ความกังวลว่าผู้หญิงทำอย่างโน้นพูดอย่างนี้มันหมายความว่าอย่างไร การที่ถามว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วทำอย่างนี้แล้วผู้หญิงจะชอบมั้ย มันไม่ได้ช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองเลยแม้แต่น้อย ดอนฮวนนั้นพยายามที่พัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอไม่ใช่เหรอ? แล้วคุณจะพัฒนาตัวเองได้ยังไงหากคุณไม่ได้สนใจอยู่ที่ตัวเอง!!! อยากจะเป็นแบบผู้ชายทั่วไปอย่างนั้นหรือ? ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากจะทำยังไงก็ได้ให้จีบผู้หญิงติดก็พออยากจะเป็น ผู้ชายที่มีค่าแค่จีบสาวได้เก่ง แล้วไปบอกใครต่อใครว่า "โอ้ว ผมนี่แหละดอนฮวนตัวจริง" อยากจะเป็นแค่นั้นจริงๆหรือ? Donjuan is a state of mind. ดอนฮวนคือความคิด ทัศนคติไม่ใช่การวางแผนในการจีบสาว ผู้ชายที่จีบสาวส่วนใหญ่ต้องการสิ่งมหัศจรรย์ (Magic Trick) ที่เมื่อทำออกไปแล้วจะมีผลดั่งปฎิหารย์ทำให้มีผู้หญิงวิ่งเข้ามาหาเค้าสาม ร้อยคนในทันใด ผู้ชายส่วนใหญ่ต้องการสิ่งที่ฝรั่งเค้าเรียกว่า quick fix เทคนิคที่ใช้แล้วได้ผลทันที เปิดปุ๊บติดปั๊บ สำหรับเค้าเหล่านั้นการจีบสาวคือการใช้เล่ห์กล แทคติก ยุทธวิธีที่จะทำให้ได้หญิงสาวมาครอบครอง เค้าจำประโยคCF คำพูดต่างๆไว้ป้อสาวๆได้มากมาย จำวิธีจีบสาวรูปแบบต่างๆ สาวคุณหนูต้องจีบแบบนี้ สาวเรียบร้อยจีบแบบนั้น สาวเอาแต่ใจจีบแบบโน้น จริงอยู่ที่การวางแผนต่างๆเหล่านั้นอาจจะทำให้เค้าได้สาวๆมาควงได้ ใช้แล้วประสบความสำเร็จ แต่มันน่าเศร้าตรงที่ว่ามันทำร้ายเค้าในระยะยาว มันไร้ประโยชน์ เพราะในท้ายที่สุดเค้าก็ยังไม่ได้เป็น dj ชีวิตยังไม่มีความสุขเหมือนเดิมถึงแม้ว่าจะจีบหญิงติดได้แล้วก็ตาม เอาล่ะ คำถามเด็ดประจำวัน ต้องจีบผู้หญิงให้ติดสักกี่คนถึงจะเป็นดอนฮวนได้ ผู้สับสน: เอ่อ ก็น่าจะเยอะๆหน่อยนะครับ ประมาณสัก 20 คนมั้งครับ DJ: ผิดอย่างมหันต์!!! คำตอบคือ 0 !!! ผู้สับสน: What? (ทำเสียงสูง) เป็นไปได้เหรอจีบไม่ติดสักคนก็เป็นดอนฮวนได้? DJ: .เป็นไปได้สิ มาผมจะบอกให้คุณรู้ว่าทำไม ผู้สับสน: ดีครับ ช่วยผมหน่อย ===================================================== DJ: หลายปีมาแล้ว มีชายคนนึงได้เข้าไปจีบสาวสวย ไม่น่าเชื่อว่าเค้าสามารถพาเธอไปนอนด้วยได้ในครั้งที่ 2 ที่เจอกับเธอ เค้ารู้สึกว่าตัวเองเก่งเหลือเกินและนึกว่าตัวเองเป็นสุดยอดดอนฮวน แต่มันน่าเศร้าหลังจากนั้นมาเธอก็หลอกใช้ให้เค้าทำทุกอย่างที่เธอต้องการ ทั้งซื้อของให้ ไปรับไปส่ง หลอกเอาเงิน จนกระทั่งเค้าไม่มีประโยชน์กับเธออีกแล้ว เธอก้อทิ้งเค้าไปหาชายคนใหม่ สาเหตุเดียวที่เธอมาคบกับเค้าเพราะว่าเธอใช้ประโยชน์จากเค้าได้ คุณคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็น dj หรือเปล่า? ผู้สับสน: โดนหลอกใช้แบบนี้ ไม่ใช่ dj แน่นอน DJ: เห็นมั้ยว่าการจีบสาวติด แม้กระทั่งได้นอนกับเธอไม่ได้การันตีว่าคุณจะเป็น dj มีชายอีกคนนึงอกหักเนื่องจากถูกผู้หญิงทิ้ง แต่เค้าไม่ยอมแพ้ เค้าบอกกับตัวเองว่าเค้าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เค้าจะต้องเป็นคนที่ดีกว่าเดิมให้ได้ เค้าเริ่มใสใจกับภายนอกของตัวเอง การแต่งตัว ทรงผม หน้าตา เค้าไม่ได้หล่อแต่เค้าดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก เค้าเริ่มรู้สึกดีกับตัวเอง แต่นั่นยังไม่พอสำหรับเค้า เค้าเริ่มพัฒนาการแสดงออกท่าทาง การเดิน การพูดจา เดินตัวตรง พูดจาด้วยความฉะฉาน มั่นใจ บุคลิกเค้าดีขึ้นอย่างมาก เค้าเข้าไปจีบสาวๆอีกครั้ง คนที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 แต่น่าเสียดาย ยังไม่มีใครเห็นคุณค่าของเค้า เค้ายังจีบใครไม่ติดเลยสักคน มิหนำซ้ำยังมีผู้หญิงคนนึงบอกกับเค้าว่า "นี่จะบอกอะไรให้นะ ผู้ชายอย่างเธอหนะ ผู้หญิงสวยๆเค้าไม่ชอบหรอก อย่าจีบเลย เสียเวลาเปล่า" โอ้วววววววว ไม่นะ พูดอย่างนี้เค้าก็คงหมดหวัง หดหู่ เค้าคงต้องกลับกลายมาเป็น nice guy อีกครั้งนึงอย่างแน่นอน ใช่ไหม? ไม่ใช่!!! เค้าไม่สนใจ!!!!!!! เค้าไม่สนใจ !!!!! และก็ไม่แคร์!!!!!! สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดไม่ได้ทำลายความมั่นใจของเค้า ตรงกันข้ามมันเป็นแรงผลักดัน ทำให้เค้าพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก เค้าเริ่มหัดมองโลกในแง่ดี ในไม่ช้าเค้าก็มีความสุขเพิ่มมากขึ้น เค้ายังจีบสาวไม่ติด แต่ตอนนี้ใครจะไปสนใจ ในเมื่อเค้ามีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆ เวลาจีบสาวเค้าไม่แคร์อีกแล้วว่าผู้หญิงพูดอย่างนี้หมายความว่าอะไร ผู้หญิงทำอย่างนั้นหมายความว่าชอบเค้าหรือไม่ เค้าจะสนใจทำไมในเมื่อตอนนี้ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้หญิงอีกต่อไป เค้าไม่มีเวลามากังวลกับเรื่องนั้น เพราะเค้ายุ่งอยู่กับการพัฒนาตัวเอง เค้าเริ่มที่จะพัฒนาด้านอื่นในชีวิตเริ่มทำงาน part-time เก็บเงิน เค้าหันไปออกกำลังกายเกือบทุกวัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงดูดีขึ้น 3 ปีผ่านไป ตอนนี้ มีสาวสวยมาชอบเค้า 5 คน (ฮ่าๆๆ จริงๆแล้วมีหญิงชอบเค้าเป็นสิบตั้งแต่เค้าเริ่มเปลี่ยนตัวเองแต่ 5 คนนี้คือคนที่เค้าให้ความสนใจ) 1ในนั้นโทรหาเค้าทุกวัน อีก 2 คนพยายามโทรมาชวนเค้าออกไปเที่ยวทุกสัปดาห์ ทว่าเค้าไม่สามารถให้เวลากับพวกเธอได้มากนัก เพราะตอนนี้งาน part-time ที่เค้าทำอยู่กลับกลายเป็นงานสำคัญที่สร้างรายได้ให้เค้ามากกว่าคนที่ทำงาน ประจำเสียอีก แถมเค้ายังต้องไปออกกำลังกายที่ fitness แทบทุกวันอีกด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมต้องการจะบอก สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือคุณสังเกตออกหรือไม่ว่า ช่วงเวลาที่เค้าจีบสาวไม่ติด ผู้ชายคนนี้เป็นดอนฮวนอยู่ตลอดเวลา ผู้ชายที่ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรค เชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำ และกล้าพอที่จะเผชิญกับความล้มเหลว และระหว่างนั้นเค้าก้อมีความสุขกับมันไปด้วย ผู้สับสน : พยักหน้าตอบรับ DJ: จำไว้พี่น้องดอนฮวนทั้งหลาย Dj is a state of mind. ดอนฮวนคือทัศนคติ จำไว้ให้ดี =-==================================================== Donjuan is the feeling about yourself ดอนฮวนคือความรู้สึกที่มีต่อตัวเอง เอ้า Mr. DJ มีอะไรในใจที่คุณอยากจะบอกพวกเราหรือไม่? "ขอบคุณมาก คุณ webmaster จีบสาวดอทคอม ผมต้องการบอกว่าการกระทำของพวกคุณ ความรู้สึกที่พวกคุณมีต่อผู้หญิง แท้จริงแล้วไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไหร่นักเวลาที่คุณจีบสาว แต่สิ่งที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งและมากกว่าสิ่งไหนทั้งหมดก็คือความรู้สึกที่ คุณมีต่อตัวเอง" "จริงๆแล้วไม่ต้องเรียกเต็มยศขนาดนั้นก้อได้ แต่สิ่งที่คุณเกริ่นมามันน่าสนใจ เชิญพูดต่อได้เลยครับ พวกเรารอฟังคุณอยู่" "ผู้ชายหลายๆคน ภายนอกดูเข้มแข็ง มาดแมน มั่นใจ เวลาอยู่ในกลุ่มผู้ชายพวกเค้าคือผู้นำ ผู้ที่คนอื่นให้ความเคารพและชื่นชม พวกเค้าเป็นในแบบที่ผู้ชายสมควรจะเป็น แต่ว่ารู้อะไรมั้ยผู้ชายกลุ่มเดียวกันนี้กลับอ่อนปวกเปียกเวลาอยู่ต่อหน้า สาวสวย นี่เป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่งของเพศชาย ผมกำลังพูดถึงคำที่เรียกว่า self-esteem แปลเป็นภาษาไทยคือ การที่คุณประเมินว่าตัวเองมีค่าแค่ไหน คุณมองตัวเองว่าเป็นอย่างไร" "คุณกำลังบอกว่าผู้ชายพวกนั้นประเมินตัวเองว่ามีค่ามากเวลาอยู่ในกลุ่ม ผู้ชาย แต่เวลาเจอสาวๆพวกเค้ากลับคิดไปอีกด้านนึงว่าตัวเองมีค่าน้อยหรือไม่มีค่า" "ใช่แล้ว webmaster คุณเริ่มเข้าใจในประเด็นของผม ดีมากๆๆๆ จะว่าไปแล้วผู้หญิงตัดสินว่าใครเป็นดอนฮวนหรือไม่ใช่นั้น พวกเธอดูจาก self-esteem เป็นหลัก self-esteemสูงหมายความว่ามีความเป็นดอนฮวนสูง" "คุณหมายความว่าเราต้องมองตัวเองว่ามีคุณค่ามาก แล้วอย่างนั้นมันจะไม่เป็นการโอ้อวด ทะนงตนเกินไปเหรอ?" "ไม่ใช่ การที่เรามี self-esteem สูงมันเหมือนกับการภูมิใจในตนเองมากกว่าการที่เรารู้สึกเย่อหยิ่ง อย่าสับสนระหว่างสองสิ่งนี้ เราสามารถภูมิใจในตัวเองได้โดยไม่ต้องอวดดี" "อ่าาาา ห้าาาาา กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ดอนฮวนอีกดอกหนึ่ง โอเคผมทราบแล้วว่าเราต้องมี self-esteem สูง แล้วคุณสามารถบอกได้มั้ยว่า คนที่มี self-esteem สูง จะรู้สึกยังไง ผมอยากจะได้ความรู้สึกนั้น" "ได้เลย คนๆนั้นจะมีความรู้สึกว่าเค้าเป็นสิ่งที่ถูกต้องของชีวิต เค้ายอมรับความท้าทายของชีวิตด้วยจิตใจที่เป็นแง่บวก ทุกๆคำพูดและการกระทำบ่งบอกได้อย่างดีว่าเค้ามีความสุขกับการมีชีวิตอยู่" "เยี่ยม!!! ผมรู้สึกดีขึ้นมาแล้ว เอาอีกๆๆๆๆๆๆ มีอะไรอีกบ้าง" "คุณนี่ขี้สงสัยจริงนะ webmaster!!! " "ผมทำเพื่อสมาชิกเวบจีบสาวด้วยอ่ะครับ อิอิ" "โอเค ก็ได้ เค้าสามารถพูดเกี่ยวกับความสำเร็จและล้มเหลวได้อย่างตรงไปตรงมา เค้าไม่จำเป็นต้องโกหก เค้ายอมรับในความผิดพลาดและความสำเร็จของตัวเอง เค้าตื่นเต้นกับโอกาสใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิต เค้าเดินอย่างมีจุดมุ่งหมาย แต่คุณจะเห็นได้ว่าทุกการกระทำอยู่บนพื้นฐานของความสบายๆ relax" "เป็นคนที่น่าชื่นชมมาก ^_^ ถ้าสามารถรู้สึกได้แบบนี้ ผมมองไม่ออกเลยว่าผู้หญิงจะไปหาผู้ชายคนอื่นทำไม ยกเว้นว่าเธอจะมีอะไรผิดปกติทางสมอง นี่เป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ แต่คุณ dj ผมได้รับคำถามจากผู้ชายมากมายว่า ทำไมพวกเค้าเข้าไปจีบสาวอย่างมั่นใจแล้ว ผู้หญิงก็ดูเหมือนจะไม่ตอบสนองอย่างที่เค้าต้องการ พวกเค้ารู้สึกว่าเค้ามี self-esteem สูงแล้วแต่ทำไมผู้หญิงยังไม่วิ่งเข้ามาหา" "คุณเป็น webmaster จีบสาวดอทคอมภาษาอะไรเนี่ย!!! เรื่องแค่นี้คุณมองไม่ออกเหรอ?" "เอ่ออ อ่า คุณอย่าทำให้ผมขายหน้าต่อหน้าสมาชิกสิครับ" " โอเคๆๆ พ่อคนขี้สงสัยในทุกเรื่องของสิ่งมีชีวิตน่ารักน่าชังที่เรียกว่าผู้หญิง คำตอบก็คือ พวกเค้ารู้สึกว่าพวกเค้ามี self-esteemในช่วงเวลาที่เค้ารู้สึกว่าเค้ามี self-esteem แต่สิ่งที่พวกเค้าไม่รู้ก็คือพวกเค้าได้ส่งสัญญาณบอก self-esteem อยู่ตลอดเวลาทุกวินาที" " 0_0!!! เอ่อออ ช่วยแปลไทยเป็นไทยด้วยครับ" webmaster จีบสาวดอทคอมทำหน้าเหรอหรา "สมมุติว่า คุณพาสาวออกเดทไปกินข้าวที่ร้านอาหาร คุณเดินไปนั่งที่โต๊ะสั่งอาหาร สั่งเสร็จคุณก็หันมาพูดกับเธอ โอเค ในหัวคุณคิดว่าคุณกำลังพูดอย่างมั่นใจ self-esteem โคตรสูง นั่นคือสิ่งที่คุณรู้สึกเพราะคุณกำลังรู้ตัวอยู่ แต่รู้อะไรมั้ยเธอตัดสิน self-esteem ของคุณตั้งแต่วิธีการเดิน การยืน วิธีการเลือกที่นั่ง วิธีการคุยกับพนักงานต้อนรับ การเสยผม จริงๆแล้วเธอตัดสินแม้กระทั่งการหัวเราะของคุณ!!! ซึ่งสิ่งเหล่านั้นหลายๆครั้ง คุณไม่ได้รู้ตัวว่าคุณกำลังส่งสัญญาณบอกระดับ self-esteem อยู่ เธอตัดสินคุณโดยที่คุณยังไม่ได้รู้ตัว!!!! และคุณก้อคงทราบดีว่าหาก self-esteem ของคุณนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่มาจากภายใน เวลาที่คุณไม่รู้ตัวคุณก็จะกลับมาส่งสัญญาณแบบเดิม ส่งสัญญาณตามที่เคยชินคือ self-esteem ต่ำ!!! นายที่คุณรู้สึกว่าคุณแสดงออกว่ามี self-esteem สูงอยู่นั่น มันกลับกลายเป็นสิ่งที่เสแสร้งสำหรับเธอ" "โอวว มายฟักกลิ้งก๊อด ทำไมผู้หญิงมองละเอียดไปถึงก้นบึ้งของหัวใจเลยเหรอ? ทำไมจะเลือกคู่ทั้งทีเรื่องมากขนาดนี้เนี่ย?" "ไม่งั้นผมจะเรียกผู้หญิงว่าสิ่งมีชีวิตที่น่ารักน่าชังเหรอคุณ webmaster!!! แต่ก็อย่างที่พวกเรารู้กันนั่นแหละ ธรรมชาติของผู้หญิงเป็นนักตกแต่งภายใน พวกเธอเก็บทุกรายละเอียด" "คุณหมายความว่าพวกเราไม่สามารถเสแสร้งว่าเรามี self-esteem สูงได้ เราต้องมีมาจากภายในจริงๆ" "ก็ไม่เชิง คุณสามารถเสแสร้งโดยใช้หลักนี้ได้ Fake it until you get it หมายความว่าให้แกล้งทำไปจนกว่าคุณจะรู้สึกว่ามันเป็นความจริง " "รู้สึกเหมือนเป็นการโกหกตัวเองเลยนะครับ มันจะดีเหรอ?" "มันไม่ใช่การโกหกตัวเอง สมมุติถ้าคุณเป็นคนที่ไม่มั่นใจ แต่คุณพยายามจะใช้หลักการนี้ คุณตื่นมาทุกเช้าส่องกระจก คุณตะโกนอยู่หน้ากระจก "ผมแม่_โคตร มั่นใจ ผมรู้สึกดีๆๆๆๆๆ" คุณออกไปนอกบ้าน เดินไปคุณท่องใส่ในหัวตัวเอง "555 ผมนี่เป็นคนมั่นใจจริงๆ ดูสิไม่รู้ทำไมเกิดมามั่นใจขนาดนี้ วู้ววววว" คุณกลับมาบ้านก่อนนอน คุณย้ำกับตัวเองอีกที "มั่นใจๆๆๆๆ ไม่มีอะไรที่ผมทำไม่ได้ สุดๆไปเล้ยยยย" คุณทำแบบนี้ติดต่อกันไม่เกิน 30 วัน สมองคุณจะเริ่มปรับสภาพและยอมรับว่าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง จากนั้นคุณจะมั่นใจขึ้นมากกว่าเดิมจริงๆ และมันก็ไม่ใช่การโกหกอีกต่อไป ใช่ วันแรกๆ มันจะรู้สึกว่าเสแสร้ง แต่พอคุณปล่อยให้สมองคุณ จิตใต้สำนึกของคุณปรับสภาพ รับการเปลี่ยนแปลงอันนี้เมื่อไหร่ มันก็คือความจริงดีๆนี่อง" "ไม่ยากๆๆๆ ,แต่สงสัยอีกแล้วครับ ผู้ชายหลายคนบอกว่าเวลาที่เค้าจะเข้าไปจีบสาวน่ารัก น่าชังอย่างที่คุณบอก นายพวกเพื่อนๆตัวดีของเค้ามันให้กำลังใจเค้ากันอย่างล้นหลามครับ มันชอบบอกเค้าว่า คุณจีบไม่มีทางติดหรอก นายห่_เอ้ย, ดอกฟ้ากับหมาวัดชัดๆ, คุณจะมองเครื่องบินทำซากอะไร ประมาณนี้อ่ะครับ จากที่เค้ามี self-esteem สูงปรี๊ดคราวนี้มันดิ่งลงเหว หนักกว่าเก่าอีกครับ" "555 นั่นเป็นสิ่งปกติที่คนเราชอบทำ โดยเฉพาะพวกที่ไม่ชอบทำอะไรเป็นประโยชน์ มือไม่พายแต่ชอบเอาเท้าราน้ำ รู้มั้ยว่าทำไมเค้าถึงพูดอย่างนั้น เพราะว่าเวลาที่คุณส่งสัญญาณ self-esteem สูงออกไป มันเป็นกระจกส่องกลับมาหาเค้าทำให้เค้ารู้ว่าเค้าไม่ได้มี self-esteem เลย เค้าไม่ชอบที่จะต้องถูกทำให้คิดถึงข้อด้อยอันนั้น นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเค้าพยายามดึง self-esteem ของคุณให้อยู่ในระดับต่ำเท่าเค้า เพราะเค้าจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเค้ามี self-esteem ต่ำ พูดง่ายๆเค้าอิจฉาที่คุณดูมี self-esteem สูง แต่รู้มั้ยนั่นเป็นวิธีที่ดีที่จะบอกว่าคุณกำลังพัฒนาตัวเองหรือไม่ ถ้าคุณเจอใครบางคนกำลังพยายามมาดึงให้ self-esteem คุณต่ำลงไปรู้ไว้ได้เลยว่านั่นเป็นเพราะคุณกำลังพัฒนา คุณกำลังจะเป็นดอนฮวน" "555 นั่นเป็นเหตุผลที่ดีที่เราจะไม่ลด self-esteem ของตัวเอง เจ๋งครับ" "คุณเห็นสาวสวย ที่อยู่ในเสื้อแขนกุดสีขาว กางเกนยีนส์เอวต่ำ ที่ยืนโพสท่าอย่างกับนางแบบทางโน้นมั้ย" Mr. DJ ชี้ไปที่สาวโคตร x ที่อยู่ข้างหน้าในระยะ 15 เมตร "โอ้ววว เห็นทั้งสองลูก เอ้ย!!! เต็มสองลูกตาเลยครับ ใสจริงๆ ใสปิ๊งเลยครับ" webmaster จีบสาวเริ่มคิดอกุศล "อ่ะ ลองคิดดู จินตนาการเลยถ้าตอนนี้คุณมี ferrari จอดอยู่ที่บ้าน 2 คัน แถมเพิ่งซื้อ Lamborghini รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ราคาไม่เท่าไหร่แค่ 30 ล้านเอง แถมคุณอยู่ในบ้านราคา 150 ล้าน อ่ะลองจินตนาการดู รู้สึกยัง?" "วู้ฮู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ โคตรรวยๆๆๆๆๆ" webmaster จีบสาวดอทคอม แปลงร่างกลายเป็นมหาเศรษฐี "เธอไม่รู้ว่าคุณรวยแต่ถ้าคุณเข้าไปจีบเธอ คราวนี้คุณคิดว่ามันจะเป็นยังไง" "ผมรู้สึกว่ายังไงเธอกับผมคืนนี้เราได้ชมวิวกรุงเทพด้วยกันแน่นอนครับ โนพลอมแบลม เบบี๊" "ยินดีต้อนรับสู่ดอนฮวน Mr. Self-esteem สูง 55555 เห็นมั้ยขนาดเธอไม่รู้ว่าคุณรวย แต่คุณก็ยังมั่นใจว่างานนี้คุณโยนลูกสไตร๊คแน่นอน ที่ self-esteem คุณเพิ่มอย่างฉับพลัน ก็เพราะว่าคุณรู้สึกว่าคุณมีคุณค่า คุณมีสิ่งที่เธอต้องการ ในที่นี้คือคุณรวย" "แต่ความเป็นจริงผมยังไม่ได้รวยขนาดนั้นนี่ครับ แล้วถ้าสถานการณ์จริงมันจะได้ผลยังไง?" "โฮะๆๆๆ นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักก็คือที่ self-esteem คุณสูงเพราะคุณรู้ว่าคุณมีสิ่งที่เธอต้องการ ถามจริงๆ คุณคิดว่าที่สาวน้อยคนนี้แต่งหน้าในตอนเช้าเป็นชั่วโมง ที่สาวคนนี้ทำผม ทาผิวด้วยโลชั่นต่างๆ รักษาหุ่นอย่างดี ที่เธอทำไปทั้งหมด เธอทำไปให้ใครมองระหว่าง ผู้ชายดอนฮวน self-esteem สูงหรือพวกผู้ชาย AFC ที่วันๆเอาแต่บอกตัวเองในเรื่องร้ายๆที่เจอมาในชีวิต ถามจริงๆว่าเธออยากจะให้ใครเข้าไปคุยด้วย" "โอ้ววว ใช่เลยครับ ไม่ต้องสงสัยเลยเธอต้องการผู้ชายที่ self-esteem สูง ผู้ชนะอย่างดอนฮวนแน่นอน" "รู้มั้ยพวกสาวสวยสุดฮอตทั้งหลาย ถึงแม้ว่าเธอจะดูซับซ้อนแค่ไหนในสายตาของเรา แต่ชีวิตเธอต้องคำสาปอยู่กับความสนใจ จากพวกผู้ชาย AFC Nice guy ทั้งหลาย!!!! พวกเธอเบื่อ!!! เบื่อมาก!!!! สุดแสนจะเบื่อ!!!! เวลา AFCเข้าไปจีบ!!! เบื่อขนาดที่ผมไม่รู้จะสรรหาภาษาอะไรมาบรรยายดี พวกเธอเจอความสนใจจาก AFC ทุกวัน!!! ทุกที่!!! ที่เธอไป เดินเล่นหน้าปากซอย , ไปเที่ยวห้าง, Shopping ที่สยาม , ไปเรียนหนังสือ, วิ่งเล่นแถวสวนสาธารณะ, เล่นโบว์, เดินไปซื้อตัวหนังที่ major ,กินข้าวตามร้านอาหาร นายสายตาที่จ้องมองไม่กระพริบ นายการถูกแอบมอง นายการถูกเดินตาม ทุกที่!!!! ทุกเวลา!!! ทุกวัน!!! อย่างนี้ไม่เรียกต้องคำสาปแล้วจะเรียกอะไรครับ? เธอรู้ว่าพวกนั้นได้แต่มองอย่างเดียวกลัวความสวยของเธอกันทุกคน เธอเบื่ออออออออออออ!!!!!! (กรุณาลากเสียงยาวตามแล้วจะได้อารมณ์) ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเรียกร้องสิทธิสตรีขอให้ผู้หญิงมีสิทธิ์เท่าเทียมกับ ผู้ชายมากแค่ไหนก็ตาม แต่ในใจเธออ้อนวอนขอให้ได้พบกับผู้ชายที่สามารถนำเธอได้ ผู้ชายที่เป็นแมนจริงๆ คนที่ปกป้องเธอได้ คุณไม่จำเป็นต้องหน้าตาเหมือน Brad Pitt ถึงจะมีสิทธิ์ได้ใจจากพวกเธอ เพียงแต่คุณต้องเดินเข้ามาด้วยสิ่งที่เธอต้องการที่สุดจากผู้ชายคนหนึ่ง self-esteem แค่นั้นแหละ ดอนฮวนคือความรู้สึกที่มีต่อตัวเอง ท้ายสุดคุณก็รู้ว่าสิ่งเดียวที่สามารถหยุดยั้งไม่ให้คุณเป็นดอนฮวนได้ก็มี เพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้น ตัวคุณเอง เพราะคุณมีอำนาจที่จะเลือกรู้สึกอย่างไรกับตัวคุณเองก็ได้ คุณมีอำนาจที่จะเลือก You have the power of will, You have the power to choose." ทิ้งท้าย "The greatest barrier to achievement or success is not lack of talent or ability but rather, the fact that achievement and success, beyond a certain level, are outside our self-concept - our image of who we are and what is appropriate to us. The greatest barrier to love is the secret fear that we are unlovable. The greatest barrier to happiness is the wordless sense that happiness is not our proper destiny." -Nathaniel Branden. "อุปสรรคสำคัญที่ยับยั้งความสำเร็จไม่ใช่เป็นเพราะเราขาดความสามารถหรือ พรสวรรค์ แต่เป็นเพราะเราคิดว่าความสำเร็จมันเกินกว่าที่เราจะทำให้เป็นจริงได้ เกินตัวตนของเราและไม่เหมาะสมกับเรา อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความรักคือการที่เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถเป็น ที่รักของใครได้ อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับความสุขคือการที่เรารู้สึกว่าความสุขไม่ใช่ จุดหมายปลายทางของเรา - Nathaniel Branden. ============================================== • บทที่ 5 เสน่ห์ดึงดูดใจ smiling การยิ้ม การยิ้มนั้นเรียกว่าเป็นอาวุธคู่กายของ dj อีกอย่างหนึ่ง เปรียบได้กับ เป็นหมัดแยีบที่ส่งออกไปลองเชิงคู่ต่อสู้ และสร้างจังหวะให้เราเข้าทํา55 ซึ่งการยิ้มนี้ก็จะใช้คู่กับการสบตาเสมอ เป็นหมัด 1-2 ที่จะมาพร้อมๆกัน และถ้าคุณสามารถใช้มันได้อย่างดีละก้อ การจีบสาวจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกมาก ลองคิดดูถึงตอนที่สาวๆยิ้มให้คุณดูซิครับ คุณรู้สึกยังไงบ้าง อืมม คุณรู้สึกดีแค่ไหนครับ มันไม่จําเป็นเลยว่าสาวที่ยิ้มให้คุณจะ สวยหรือไม่ เพราะโดยปกติแล้วมนุษย์เราเมื่อมีคนมายิ้มให้ เราจะ รู้สึกดีขึ้นมา มันเป็นไปเองโดยธรรมชาติ แล้วเวลาที่สาวเหล่านั้นยิ้มให้คุณ(โดยเฉพาะสาวแปลกหน้า) มีน้อยครั้งมากที่คุณจะไม่ยิ้มตอบกลับไป นี่แสดงให้เห็นว่ารอยยิ้มของคนนึงสามารถมีอิทธิพลกับอารมณ์ ของอีกคนนึงได้ ครับ เราชอบรอยยิ้มของสาวๆใช่มั้ยครับ คุณคิดว่าพวกเธอชอบรอย ยิ้มของหนุ่มหรือป่าว? โฮะๆๆๆ พวกเธอชอบมันครับ ชอบมากกกด้วย เหมือนกับพวกเรานั่นแหละ เพียงแต่ว่าผู้หญิงจะเก็บอาการดีกว่าเท่านั้นแหละครับ คนปกติธรรมดาทุกคน ชอบเวลาที่คนอื่นยิ้มให้ เป็นสัจธรรม เอาล่ะ!!! เรารู้กันแล้วว่าการยิ้มมันดี แล้วทีนี้มันจะมีผลยังไง กับพวกเธอบ้าง อย่างแรกเลยมันบอกว่าคุณมาดี มันทําให้ทุกคนสบายๆ ไม่เกร็ง ต่อมามันจะทําให้เธอคิดว่าคุณเป็นคนที่มีความมั่นใจ เพราะว่า โดยส่วนใหญ่ผู้ชายไม่ค่อยยิ้มให้สาวแปลกหน้าหรอก พวกเค้า กลัวว่าถ้าเธอไม่ชอบเค้าแล้ว จะต้องเสียหน้าผิดหวัง เป็นข้อผิดพลาดอย่างมากกกก การยิ้มนั้นมันบอกให้เธอรู้เลยว่าคุณกําลังอยู่ในอารมณ์ที่ดี เธอจะเห็นว่าคุณสามารถที่จะแบ่งปันความสุขให้เธอได้ ถ้าเธอทําเหมือนไม่อยากรับไมตรีจิตอันดีของเราก็ช่างเธอครับ น่าสงสารแทนเธอที่มีคนเอาความสุขมาแบ่งปันแล้วยังไม่รับอีก เธอคงชอบให้คนอื่นทําหน้าบึ้งใส่ น่าเสียดายแทนเธอจริงๆครับ ต่อมามันจะทําให้เธอแปลกใจและคิดว่าคุณป็นคนแบบไหนกันแน่นะ ทําไมคุณถึงดูเหมือนมีความสุข และคุณยังแสดงออกถึงความกล้า หาญออกมาให้เธอได้เห็นอีกด้วย คุณทําตัวตรงกันข้ามกับผู้ชายส่วนใหญ่ ซึ่งไม่กล้าจะส่งยิ้มให้สาว พวกเค้ากลัวจนตัวสั่น ยังๆๆ ข้อดียังมีอีก การยิ้มทําให้คุณมีเสน่ห์มากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หน้าตาแบบไหนก็ตาม เมื่อคุณยิ้มคุณดูดีมีเสน่ห์กว่าตอนทําหน้าเฉยๆแน่ นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ข้อสุดท้ายถ้าเธอยิ้มกลับหรือทําหน้าเขินๆ แล้วมองลงพื้น อะไรจะเกิดขึ้น หึๆๆๆ คุณรู้ทันทีเลยว่าเธอเปิดใจให้คุณไปคุยแน่นอน คุณได้ทําลาย กําแพงที่กั้นอยู่ระหว่างคุณกับเธอออกไปแล้ว คุณกับเธอก็ได้รู้จักกันโดยที่ยังไม่ได้พูกกันสักคํา ============================================= สุดยอดเคล็ดลับในการจีบสาว : ใครเคยเป็น nice guy เหมือนผมเมื่อก่อนบ้างครับ เคยสงสัยมั้ยครับว่า ทําไมยิ่งเราทําดีกับพวกสาวๆมากเท่าไหร่ พวกเธอก็ดูเหมือนว่าจะหนีเรา ออกไปไกลมากแค่นั้น มันน่าแปลกจริงๆนะครับ มันเหมือนเป็นสมการที่ผกผันในตัวเอง เพราะอะไรรู้มั้ยครับ ก้อเพราะว่าการที่เราอยากได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป มันจะทําให้เราดูเหมือนว่าอ่อนแอ มันเหมือนกับว่าเราเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต ยังจํากันได้ใช่มั้ย ตอนเด็กๆ เวลาอยากได้ของเล่นอะไร เราร้องขอแม่ตลอด ถ้าแม่ไม่ให้ เรายิ่งร้องหนักเลย ก้อจะเอาอ่ะ จนในที่สุดแม่ต้องใจอ่อน แต่น่าเสียดายครับที่พอเราโตขึ้นมา เราใช้แทคติกนี้ไม่ได้ในการจีบสาว แหม! ถ้าใช้ได้นี่ ผมว่ามันคงดีนะครับ วันๆร้องแต่จะเอาคนนี้อ่ะ จะเอาคนนั้นอ่ะ555 คงมีแฟนกันเต็มบ้านเต็มเมือง เฮฮาปาร์ตี้กันสุดๆ กลับมาเข้าเรื่องต่อ ที่วิธี nice guy มันไม่ได้ผลก็เพราะมันเป็นการตามจีบหญิงมากเกินไป (pursue woman) เคยเห็นเวลาที่!มันหลุดจากกรงตามข่าวต่างๆ เช่น ลิงมั้ย เคยเห็นตอนที่มีคนพยายามจะจับมันเข้ากรงมั้ยครับ เข้าใช้วิธีไหนจับมันครับ เค้าใช้วิธีล่อครับ ล่อด้วยอาหารมั่ง ล่อด้วยท่าทางมั่ง เพราะอาไรล่ะ ทําไมไม่เข้าไปจับมันเลย? ก็เพราะว่าถ้าไปวิ่งตามจับมันก็เหนื่อยครับ ยากกกกกก กว่าจะจับมาได้ แต่ว่าถ้าเราใช้วิธีล่อให้ลิงมา ให้จับเองมันเหนื่อยน้อยกว่า และยังมีโอกาสจับได้มากกว่าอีกด้วย มันก็เหมือนกับการจีบหญิงแบบดอนฮวนที่จริงๆแล้วเราไม่ได้ตามจีบ (pursue woman) เราใช้วิธีทําให้เธอ เข้ามาหาเอง (Attract woman) และนี่คือสิ่งที่คุณสามารถทําได้ดีที่สุดในการจีบสาวเป็นเคล็ดลับสุดยอด เป็นวิธีของ dj อย่างแรกคุณต้องกําจัดความอยากที่จะได้ตัวเธอออกไปให้หมด โชว์ความนิ่ง โชว์ให้เธอเห็นว่าคุณเป็นแมนที่ควบคุมความต้องการของตัวเองได้ แล้วให้เธอตอบสนอง มาด้วยความต้องการของเธอเอง ซึ่งอาจจะหมายถึงความต้องการในตัวคุณ คุณจะต้องแสดงออกให้เธอเห็นในตอนแรกว่า คุณมีอะไรให้เธอบ้าง(มั่นใจ ตลก สนุกที่จะอยู่ด้วย เข้มแข็ง อบอุ่น) พูดง่ายๆ ก็คือให้ความสนใจเธอก่อน จากนั้นถอยออกมาเพื่อที่จะทําให้เธอแปลกใจ การไม่สนใจเธอจะทําให้คุณดูมีค่า มีพลัง การให้ความสนใจเธอตอนแรก และถอยออกมานั้นจะทําให้เธอรู้สึกว่าเธอเสียอะไรบางอย่างไป เหมือนกับที่เค้าชอบพูดกันว่า "เราไม่รู้คุณค่าของสิ่งที่มีอยู่จนกว่าจะเสียมันไป" ==================================================== สัญญาณว่าเธอสนใจ : การดูว่าเธอสนใจหรือไม่ สามารถทําได้ง่ายๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เราจะดูจากภาษาทางกายเป็นสําคัญ ภาษากายนั้นบอกถึงความรู้สึกที่แท้จริง ได้ดีกว่าภาษาพูดมากมายนัก แต่การดูภาษาทางกายนั้นก็มีข้อเสียคือมันไม่ จริงเสมอไป บางคนอาจจะแสดงออกมาในขณะที่ไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ฉะนั้นจึงอย่าถือว่าเป็นจริง 100% เมื่อเธอแสดงออกมา แต่การที่รู้ เอาไว้ก็เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง 1. ยิ้มให้คุณบ่อยๆ 2.หัวเราะกับมุขตลกคุณ ทั้งๆที่คุณคิดว่ามันไม่ขําเลยสักนิด 3.มองตาคุณเป็นระยะๆ 4.ม่านตาเธอขยายเวลาเห็นคุณ 5.สัมผัสคุณบ้าง เช่น แตะไหล่เวลาพูดกับคุณ 6.หวีผมหรือสะบัดผมบ่อยๆระหว่างที่คุยกัน 7.ไม่นั่งเอามือกอดอก 8.ไม่นั่งไข้วขาเหมือนกําลังป้องกันตัวเองอยู่ 9.ดูเหมือนอิจฉาเมื่อคุณคุยกับสาวอื่น 10.ถามเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณเยอะ 11.พยายามทําซี้กับเพื่อนคุณ 12 นั่งหรือยืนในลักษณะที่หันหน้าเข้าหาคุณ 13. นั่งหรือยืนโน้มมาทางคุณ 14.ในขณะที่คุยเธอพยายามไม่ให้การคุยขาดช่วง 15.ไม่เกร็งหรือถอยเมื่อคุณเข้าใกล้หรือสัมผัสเธอ 16. เขินหรือก้มหน้าเวลาคุณชมเธอ 17.กระพริบตาบ่อยๆเวลามองคุณ 18. พูดในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมชาติของเธอ =================================================== มองที่ตาของเธอ ผมเคยได้อ่านบทความทางเนทเกี่ยวกับการมองตากันของคนเราว่ามันจะมี ผลเป็นยังไงบ้าง ซึ่งผมอ่านแล้วแปลออกมาคร่าวๆได้ประมาณนี้ เค้าบอกว่าการมองตานั้นจะไปกระตุ้นสมองส่วนในสุดของมนุษย์ เวลาที่คุณมองตา สาวๆ ร่างกายเธอจะหลั่งสาร pea ออกมาทําให้เธอรู้สึกว่ากําลังมีความรัก เราสามารถที่จะทําให้เซ็นส์เธอรู้สึกได้ว่าเธอกับคุณกําลังตกหลุมรักกัน ด้วยการ พยายามมองตาเธอให้มากขึ้นในระหว่างการพูดคุย ควรจะมองประมาณ 75% ของเวลาทั้งหมดที่คุณคุยกัน เพื่อให้สาร pea นั้นไหลเวียนไปทั่วร่างกายเธอ อืมม เทคนิคนี้ดี ผมเลยคิดว่าจะลองนําไปใช้บ้าง วันนึงตอนที่ผมเดินเล่นรอเข้าเรียนอยู่ที่มหาลัย ผมก็ได้ยินเสียงเรียกจากข้างหลัง "เธอๆ เดี๋ยวก่อน" ผมหยุดเดินหันหลังกลับไปมอง อ๋อ เธอนั่นเอง เธอคนนี้เป็นผู้หญิงที่เรียนในห้องวิชาอังกฤษกับผมครับ เราไม่รู้จักกันหรอก แค่เคยพูดคุยกันบ้างในห้องนิดหน่อย เพราะว่านั่งใกล้ๆกัน "แหม เดินไม่ สนใจใครเลยนะ"เธอบอก ผมรู้ว่าเธอชอบผมครับเพราะจากลักษณะการ แสดงออกหลายๆอย่างในห้องของเธอ ในห้องเรียนนี่ผมนั่งกับเพื่อนผู้หญิงของผมครับ ซึ่งเพื่อนผมคนนี้ก็สวยใช้ได้เลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมเธอให้ความสนใจผมมากตอนอยู่ในห้อง อืมมันเป็น social proof ครับ แล้วก็วันนี้เธอยังมาทักผมก่อนอีก แต่ผมไม่ได้ชอบเธอครับ ผมก็แค่คิดว่าเธอน่ารักธรรมดา เราก็คุยกันถึงเรื่องงานที่อาจารย์ให้ทําส่งวันนี้ คุยไปสักพักผมก็บอกว่าผมต้องไปแล้ว จะไปกิน ข้าว เธอเลยบอกว่าดีเลยไปกินด้วยกันสิ อ้าว! ตายห่_ เข้าทางเธอเลย จะไปคนเดียวซะหน่อย โอเคๆไม่เป็นไรผมคิดในใจ คงดีกว่าไปกินคนเดียว ก็ไปนั่งทานข้าวกัน กินเสร็จ เธอก็คุยโน่นคุยนี่เรื่อยเปื่อย ตอนแรกผมก็เฉยๆ แต่ว่าในระหว่างที่คุยเนี่ยเธอ มองตาผมบ่อยมากครับ ผมซึ่งเป็นคนที่ไม่หลบตาใครอยู่แล้วก็เลยมองกลับไป คุยไปได้ซักพัก ผมก็เริ่มรู้สึกว่าเธอน่ารักขึ้นมาก รู้สึกเหมือนชอบเธอขึ้นมาครับ ในระหว่างที่คุยนี่เราสองคนแทบจะ ไม่ได้ละสายตาออกจากกันเลย ความรู้สึกผมตอนนั้นแปลกมากเหมือนคุยอยู่กับแฟน ผมไม่รู้หรอก ว่ามันมีผลยังงัยกับเธอแต่ผมเนี่ยเริ่มชอบเธอมากขึ้นแล้ว รู้สึกเหมือนกับว่าเราสองคนเป็นคู่รักกันแล้ว แล้วเธอก็ถามเบอร์ผม ผมให้เธอไปทั้งๆที่ตอนแรกกะจะไม่ยุ่งแล้วเชียว เธอบอกว่าผมคุยสนุกดี วันหลังจะโทรไปคุยด้วย แล้วผมก็แยกจากเธอเนื่องจากต้องไปเรียนอีกวิชา ผมเดินไปก็คิดว่า เธอก้อน่ารักกว่าที่เราคิดนี่หว่า เดินไปคิดไปเรื่อยเปื่อย แล้วผมก็มาคิดถึงบทความที่อ่านในเนท ผมเชื่อเลยว่าการมองตามันมีผลทําให้ รู้สึกว่าชอบคนที่คุยด้วยได้ เอ๊ะ! หรือว่าเธอได้อ่านบทความนั้นเหมือนกัน เฮ้ย!!!!! ปล.บทความนี้ใช้ได้ทีเดียวลองนำไปใช้ดูนะคับ แต่อย่าไปมองผู้ชายนะเด๋วโดน Teen เอา =============================================== สูตร 4C Confident (มั่นใจ)-- ความมั่นใจเป็นสิ่งที่สําคัญมาก (ถ้าไม่สําคัญที่สุด) ในการจีบสาว เป็นสิ่งที่สาวๆจะดูเป็นอันดับต้นๆ ในการเลือกคู่ เอาล่ะ! มาดูว่าอะไรคือความมั่นใจกันดีกว่า อย่างแรกความมั่นใจคือความคิด ที่บอกกับตัวเองว่าเราจะทําสิ่งนั้นๆสําเร็จ เรามีความสามารถพอที่จะทําได้ ความมั่นใจจะตรงข้ามกับความกังวล คนที่มั่นใจเป็นคนที่ไม่กังวล ความมั่นใจ ยังหมายถึงการทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยที่ไม่ลังเล คนที่มั่นใจไม่มัวแต่มาลังเล ว่าจะทํายังไงดี คนที่มั่นใจเป็นคนที่ทําอะไรโดยเด็ดขาด แน่วแน่ เค้ารู้ว่า กําลังทําอะไรอยู่ คนที่มั่นใจเป็นคนที่มีจุดยืนในชีวิต Calm (สุขุม) -- ความสุขุมก็เกี่ยวเนื่องกับความมั่นใจ ความสุขุมคือการที่ ไม่มีสิ่งไหนมากระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของคุณได้ไม่ว่ามันจะเลวร้ายแค่ ไหนก็ตาม ถ้าสถานการณ์ไม่เป็นใจคนที่สุขุมจะไม่วู่วาม โทษโน่นโทษนี่ ตรงกันข้ามเขาจะ ค่อยๆคิด หาวิธีแก้ไปทีละอย่าง มันทําให้คนอื่นดูว่าเค้าเป็นคนที่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้ แสดงให้เห็นว่าคุณโตเป็นผู้ใหญ่ Control (ควบคุม) -- การควบคุมหมายถึงการควบคุมตัวเองได้ดี ไม่ปล่อยให้อารมณ์ ความรู้สึกมาควบคุมการกระทําตัวของคุณได้ เค้าปฎิบัติตัวเข้ากับทุกสถานการณ์อย่าง เหมาะสม จะเห็นได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับความสุขุมอย่างมาก เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว ความสุขุม นั้นเป็นด้านความคิด การควบคุมเป็นด้านการกระทํา Challenging (ท้าทาย) -- ผู้หญิงจะต้องรู้สึกท้าทายที่จะได้เรามาเป็นแฟน ถ้าเธอรู้ อยู่แล้วว่าคุณชอบเธอมากและพร้อมที่จะเป็นแฟนกับเธอทุกเมื่อ ผู้หญิงจะเบื่อเอาได้ง่ายๆ challenging เป็นสิ่งที่ทําได้ยากที่สุดในทั้ง 4 ข้อนี้ สิ่งที่เราสามารถทําได้ก็คือไม่ให้ความ สนใจเธอมากเกินไป อย่าว่างที่จะเจอเธอเสมอ พยายามมีความเห็นต่างจากเธอบ้าง คุยกับหญิงอื่นบ้างอย่าให้เธอคิดว่าคุณเป็นของตาย วิธีการทําตัวให้ challenging ที่ดีที่สุดคือ การมีแฟนสวยถ้าคุณมีแฟนสวย สาวสวยอีกมากมายจะมองว่าคุณท้าทาย โดยที่คุณยังไม่ต่องทําอะไรเลย ================================================= Neg-hit Neg-hit (negative hit) เป็นเทคนิคที่ดีอีกเทคนิคนึงในการที่จะดึงความสนใจ ของสาวๆมาได้ มันเป็นการสังเกตจุดด้อยของพวกเธอแล้วพูดให้เธอ รู้ มันทําให้พวกเธอคิดว่าเรารู้จุดอ่อนของพวกเธอและไม่ได้คิดว่าเธอ perfectเหมือนที่ คนอื่นๆคิดการใช้ neg-hit โดยปกติแล้วจะใช้กับสาวที่สวยมากๆ ตั้งแต่ 8-9.99 เต็ม 10 (โลกนี้ไม่มีคนสวยเต็ม10ครับ ) เพราะสาวพวกนี้จะชินอยู่กับคําชมว่าเธอสวยอย่างโน้น เธอสวยอย่างนี้ เธอน่ารักที่สุด อะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อเธอโดน neg-hit เข้าไปเธอจะเสียสมดุล ออกอาการเป๋ได้ อย่างไรก็ตามอย่าหวังว่ามันจะเสกคาถาให้เธอมาชอบคุณในทันที มันเป็นหนึ่งใน ปัจจัยที่จะทําให้เธอชอบเท่านั้น ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้ neg hit กับสาวที่สวยน้อยกว่า 7.5 เต็ม10 เด็ดขาด ถ้าคุณ ใช้กับเธอมันจะไปทําลายความมั่นใจเธอได้ ชีวิตพวกเธออาจจะขมขื่นได้นะครับ เรา เป็น dj เราไม่ต้องการทําร้ายใครครับ มีข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวที่เราจะใช้ neg-hit กับสาวสวยน้อยกว่า 7.5 คือ ถ้าเรารู้ว่าพวกเธอคิดว่าพวกเธอสวยระดับ 8-9 คือพวกหลง ตัวเองนั่นเอง คิดว่าตัวเองสวยกว่าความเป็นจริง ถ้าเจอพวกนี่ก็ใช้ได้ ไม่เป็นไร คุณอาจจะสงสัยว่าแล้ว Neg-hit นี่มันจะมีประโยชน์ต่อเรายังไง มีครับ มีประโยชน์แน่นอน Neg-hit นั้น จะทําให้เกิดผลอยู่หลักๆดังนี้ 1.ทําลาย Bitch shield--เธอจะไม่สามารถสร้าง Bitch shield ขึ้นมาได้หรืออย่างน้อย Bitch shield จะลดน้อยลงไปเพราะว่าคุณไม่ได้แสดงออกว่าคุณกําลังจะมาจีบเธออย่างชัดเจน คุณนั้นกําลังบอกข้อด้อยให้เธอ ได้รู้ bitch shield จะสร้างได้ไม่เต็มที่เพราะว่า bitch shield จะมีก็ต่อเมื่อมีคนเข้าไปจีบเธอเท่านั้น 2.คุณควบคุมตัวเองและเธอได้--- คุณนั้นแสดงออกให้เธอได้เห็นว่า คุณไม่ใช่ nice guy ที่คอยแต่จะตามใจ ชมเธออยู่เรื่อยไป แต่ตรงกันข้ามคุณแสดงให้เห็นว่าคุณรู้จุดอ่อนของเธอ คุณไม่ได้ตื่นตะลึงไปกับความสวยของเธอ เพราะฉะนั้น คุณควบคุมตัวเองได้ดีและมันยังบอกอีกเธอว่าคุณควบคุมเธอได้เพราะคุณรู้จุด อ่อนเธอ 3.เธอสงสัย แปลกใจในตัวคุณ ---"เอ๊ะ! ผู้ชายคนนี้ไม่เห็นชมชั้นเหมือนคนอื่นๆเลย เค้าเป็นคนยังไงกันแน่ นี่ชั้นไม่สวยพอหรือนี่ เป็นไปไม่ได้!!! ทุกๆคนชอบชั้นนี่ เธอก็ต้องชอบชั้นด้วย มานี่ๆๆๆ พ่อตัวดี" หึๆๆๆ ผมชอบข้อ 3 ที่สุดเลย มีข้อควรระวังอีกหนึ่งข้อคือทุกครั้งที่ neg-hit สาวๆ คุณจะต้องคิดว่ามันเป็นข้อด้อยเธอจริงๆ ถ้าคุณคิดว่าตาเธอสวยก็อย่าไป neg-hit ตาเธอ เธอจะรู้ได้ว่าคุณไม่จริงใจ และการ neg hit นั้นคุณต้องทํามัน ด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ถึงแม้ว่าในหัวคุณจะตะโกนว่า "อย่าๆๆๆ อย่าไปพูดกับเธอแบบนั้น เดี๋ยวเธอ จะโกรธได้ เธออาจจะไม่ยอมคุยด้วยก็เป็นได้ ไม่ๆๆ" ถ้าสมองคุณตะโกนออกมาอย่างนี้คุณต้องสั่งให้มันหุบปากโดยด่วน เพราะการ neg-hit อย่างลังเลจะไม่ได้ผล ตัวอย่าง -ทําไม(ชื่อเธอ)แต่งหน้าเข้มอย่างนี้ล่ะ การแต่งหน้านี่ควรจะทําเพื่อให้ ความสวยมันเด่นออกมานะ ไม่ใช่ซ่อนมันไว้ -(ชื่อเธอ)น่าจะ ซอยผมสั้น/ไว้ยาว กว่านี้นะ มันจะเข้ากับหน้า(ชื่อเธอ)ดีกว่า -มือ (ชื่อเธอ)ใหญ่พอๆกับมือผู้ชายเลยนะ -รู้ตัวเปล่าว่า (ชื่อเธอ) มีหนวดด้วย ตลกมากเลย 55 ผู้หญิงมีหนวด -จมูก (ชื่อเธอ)นี่เล็กกว่าคนปกตินะเนี่ย -นิ้ว(ชื่อเธอ) เนี่ย สั้น/ยาวจังนะผู้ชายส่วนใหญ่ชอบสาวนิ้ว (ตรงข้ามกับที่เธอมี) สังเกตมั้ยว่าคุณไม่ได้บอกว่าคุณชอบแบบไหน มันจะทําให้เธออยากรู้ว่าคุณชอบ แบบไหน 55 ทุกครั้งที่เธออยากรู้เรื่องของคุณเป็นสิ่งที่ดี -รู้มั้ยว่าการที่เธอไป(การกระทําอะไรที่เธอทําแล้วคุณเห็นว่าเป็นข้อ บกพร่อง) อย่างนั้น มันไม่ดี รู้มั้ยว่ามันเสียมารยาท การ neg-hit นั้นไม่ใช่การด่าเธอ มันไม่ใช่ว่าเราไปบอกว่า "เธอมันแรดจริงๆ" อะไรแบบนั้น เราแค่บอกจุดบกพร่องให้เธอได้รู้เท่านั้นเอง net-hit มันได้ผลเพราะว่ามันดึงเธอลงมาอยู่ระดับเดียวกับคุณ ทําให้ bitchshield มันหายไป คุณแสดงออกถึงว่าคุณสามารถควบคุมเธอได้ ความสวยเธอไม่ได้ทําให้คุณประทับใจเลย หรือถ้าจะพูดสั้นๆก็คือ คุณ ทําตัวตรงกันข้ามกับผู้ชาย 99% ที่มาคุยกับเธอนั่นเอง สุขุม มั่นคง ผมอยากจะให้คุณลองจินตนาการดู วันนึงมีเซลล์ขายเครื่องไฟฟ้าจากบริษัทแห่งหนึ่งมากดกริ่งที่หน้าบ้านคุณ คุณเดินออกไปพบ และเค้าก้อเริ่มที่จะบรรยายสรรพคุณต่างๆของสินค้าที่เค้ามีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ราคา ประสิทธิภาพการใช้งาน รวมไปถึงการบริการหลังการขาย การรับประกัน เค้าพูดจบก็เสนอราคาให้คุณ 2 หมื่นบาท คุณก็ยังลังเลเนื่องจากไม่มั่นใจว่า มันจะดีจริงอย่างที่เค้าพูด คราวนี้ด้วยความที่เค้าอยากจะให้คุณซื้อมาก เค้าก็เลยลดราคาให้ เค้าบอกเหลือ 1หมื่น 5 พัน ก็ได้ คุณก็ยังลังเล เค้าลดราคาอีกบอก 1 หมื่นถ้วน เค้าพยายามลดราคามา ให้คุณพอใจและซื้อไปจากเค้าให้ได้ แต่คุณเริ่มสงสัยแล้วว่ามันจะดีจริงเหรอวะเนี่ย ลดราคา มาเหมือนจะยัดเยียดให้ผมซื้อเลยเว้ย คุณเลยบอกขอไปคิดดูก่อน แล้วคุณก็เดินกลับเข้าบ้านไป สักพักเซลล์ขายเครื่องไฟฟ้าจากอีกบริษัทมากดกริ่ง คุณเดินออกไปพบอีกเช่นเดิม เค้าพูดข้อดีของสินค้าเหมือนคนแรกแทบทุกอย่างแต่เค้า พูดอย่างสุขุม แน่วแน่และด้วยความมั่นใจ คุณรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เค้าพูดน่าจะเป็นจริง เค้าเสนอราคาให้คุณ คุณบอกว่ามันแพงเกินไปขอลดอีกสักหน่อยได้เปล่า เค้าบอก "เราไม่สามารถลดให้ได้ครับ เนื่องจากว่าสินค้าชิ้นนี้มันเป็นตัวที่ดีจริงๆ ประสิทธิภาพสูง ถ้าคุณซื้อไปคุณจะพอใจกับมันแน่นอน แต่ถ้าคุณไม่ซื้อผมมั่นใจว่า อีกสักพักจะต้องมีคน อื่นมาซื้อไปอย่างแน่นอน และตัวนี้ก็เป็นตัวสุดท้ายแล้วด้วย" แล้วลองคิดดูว่าถ้าคุณจะเลือกซื้อสินค้าจาก 2 บริษัทนี้ คุณจะเลือกของบริษัทไหนครับ แทบไม่ต้องคิดเลยว่า คุณต้องเลือกบริษัทที่สองแน่นอน!!! เพราะว่าเซลล์ทําให้มันดู มีค่ามากกว่า มันเหมือนเป็นที่ต้องการของตลาด สินค้าของบริษัทที่สองมันอาจจะ ไม่ดีจริงอย่างที่เค้าพูดก็ได้ แต่จากวิธีนําเสนอทําให้มันดูมีค่ามาก ผิดกับบริษัทแรก คนขายนั้นดิ้นรนที่จะขายมันให้ได้ ถึงแม้ว่ามันจะดีจริงอย่างที่พูด แต่มันก็ถูกมองว่ามีค่าด้อยกว่า เพราะวิธีเสนอขายมันผิด การจีบสาวก็เหมือนกับการซื้อขายของ เพียงแต่ว่าคุณเป็นทั้งเซลล์และตัวสินค้าในเวลาเดียวกัน ส่วนคนซื้อก็เป็นสาวๆ แค่นี้คุณก็รู้แล้วว่าคุณต้องทําตัวแบบไหน ================================================ เจมส์บอนด์คอมบิเนชั่น (James Bond's combination) เคยดูหนังเรื่อง เจมส์ บอนด์ กันมั้ยครับ ต้องเคยดูกันมาบ้างแน่นอน เวลาคุณเห็นเจมส์ บอนด์ครั้งแรกเลย คุณคิดว่าเค้าเป็นคนยังไงครับ.... อืมม แทบจะทุกคนต้องคิดเหมือนกันเลยว่าคนนี้เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองอย่างสูง เป็นคนที่มีพลัง อํานาจ เป็นคนที่มีความสุขุม ออกมาฉากแรก ยังไม่ทันที่จะทําอะไร แค่ออกมาพูด สองสามคํา เราก็สามารถรู้ได้แล้ว ทําไมล่ะ!! ทําไมเราทุกคนเห็นเหมือนกันครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับ 3 สิ่งที่ผมจะพูดถึงต่อไปนี้ 3 สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สําคัญมากในการจีบหญิง เพราะคุณรู้มั้ยครับว่า 70% ในการคุยกับหญิง เราไม่ได้สื่อสารทางคําพูด แต่เราสื่อสารด้วย นาย 3 อย่างนี้ มันจะเป็นตัวบอกลักษณะที่แท้จริงของเราให้คนอื่นได้รู้ 1.สีหน้า แววตา(facial expression) --- ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม สีหน้า ของเจมส์ บอนด์ แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน สีหน้าเค้าจะบ่งบอกถึงความนิ่งเสมอ เค้าไม่เคยทําหน้าลุกลี้ลุกลน เหมือนไม่แน่ใจ ว่าควรจะทําอะไร สีหน้าเจมส์ บอนด์บ่งบอกถึงความมั่นใจในตัวเองอย่างสูง เหมือน เค้าเป็นคนคุมเกมตลอดเวลา ถ้ามีใครพูดอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับเค้าแล้วล่ะก้อ เค้าก็ ยิ้มรับอย่างมั่นใจ ไม่เคยทําหน้าโกรธหรือกังวล note -- เวลาอยู่กับสาวๆ สีหน้าและแววตาเค้านิ่งแต่แฝงด้วยรอยยิ้มเอาไว้ นี่เป็นการบอกเธอว่า เค้ามีอํานาจเหนือกว่าเธอ เค้าสามารถควบคุมเธอได้ เวลาเค้าเข้าไปจีบสาวใครเคย เห็นเค้าทําหน้าแบบเลิ่กลั่กมั่งครับ ไม่มีครับ!!! 2. ท่าทาง (body language) --- เจมส์ บอนด์นั้น เดินด้วยความมั่นใจ ตัวตรง ทุกๆ ย่างก้าวเป็นไปอย่างมั่นคง เห็นแค่ท่าเดินก็รู้เลยว่านายหมอนี่มันเก่งที่สุดในเรื่อง โดยปกติเค้าไม่ได้เดินอย่างเร่งรีบ ตรงกันข้าม เค้าเดินอย่างช้าๆแต่มีพลัง ทุกการกระทําของเค้าบ่งบอกถึงความสุขุม แน่วแน่ เวลาที่เค้าเจอสาวคนที่เค้าชอบ ลักษณะท่าทางเค้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย สังเกตได้ว่าไม่ว่าจะทําอะไรก็ตาม เดิน ยืน นั่ง หรือ เปลี่ยนอิริยาบทต่างๆ มันดูเหมือนว่าจะช้ากว่าคนทั่วไปนิดนึงเสมอ (นิดเดียว ไม่มาก) มันทําให้ดูเหมือนว่าเค้ามีความมั่นใจ มีพลังและอํานาจ 3.นํ้าเสียง (tone of voice) --- นํ้าเสียงไม่ใช่คําพูดแต่เป็นระดับเสียง ซึ่งก็สําคัญมาก เจมส์ บอนด์ พูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างตํ่า ถ้าคุณเป็นคนที่มีเสียงสูงเวลาคุยกับสาวๆ ควรจะลดระดับเสียงให้ตํ่าลงมาซักนิดนึง แล้วสาวๆเค้าจะมองว่าคุณน่าสนใจมากขึ้น นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะเสียงตํ่านั้นมันแสดงออกว่ามีความหนักแน่น ไม่อ่อนแอ และยังแสดงให้เห็นว่า มีความมั่นคง สุขุมอีกด้วย และเมื่อคุณเอาทั้ง 3 อย่างนี้มารวมกันได้เมื่อไหร่ คุณก็จะมีคาแรกเตอร์ของเจมส์ บอนด์ สาวๆจะมองว่าคุณนี่เป็นคนที่โคตรมั่นใจในตัวเอง และคุณก็จะน่าสนใจเพิ่มขึ้นมาอีก 10 เท่า รับประกันซ่อมฟรีอย่างแรงงงงง!!! ============================================ The Ultimate challenge: เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น ๆ ๆ ๆ ในการจีบสาว challenge เป็นสิ่งที่จําเป็นมาก พวกเธอจะต้องรู้สึกว่า คุณเป็นสิ่งที่ท้าทายที่จะได้มา ถ้าพวกเธอได้คุณมาอย่างง่ายดายแล้วล่ะก้อ คุณก็จะถูกทิ้งไปอย่างง่ายดายและรวดเร็วเช่นเดียวกัน มันเหมือนกับเวลา ที่คุณเล่นเกม ถ้าเกมไหนมันง่าย คุณก็อาจจะเล่นสนุกกับมันไปซักพัก แต่ ไม่นานหรอก พอคุณชนะ พอคุณเล่นไปเรื่อยๆ จนรู้เทคนิคต่างๆหมดแล้ว คุณก็จะเริ่มเบื่อเพราะว่าคุณเล่นเมื่อไหร่ก็ชนะมันเมื่อนั้น และคุณก็จะไม่หัน กลับไปเล่นเกมนั้นอีก สังเกตมั้ยว่าทําไมเวลาคนเราแต่งงานไปแล้วความรักถึง ไม่ค่อยซู่ซ่าเหมือนเมื่อตอนรักกันใหม่ ๆ ก็เพราะเค้าชนะกันหมดแล้วนั่นเอง มันไม่มีความท้าทายเหลืออยู่แล้ว!!! การจีบสาวนั้นไม่ได้แตกต่างกัน ถ้าคุณเป็นคนที่ท้าทาย สาวที่เฉยๆกับคุณก็ จะชอบคุณขึ้นมาได้ สาวที่ชอบคุณอยู่แล้วจะยิ่งชอบคุณขึ้นไปอีก แต่หลักสําคัญ มันอยู่ที่ว่า คุณจะต้องเป็นเกมที่ไม่ง่ายเกินไปและไม่ยากเกินไปสําหรับเธอ คุณจะต้อง รักษาสมดุลตรงนี้เอาไว้ให้ได้ ต้องอยู่ตรงกลาง ถ้าคุณเป็นเกมที่ยากเกินไป เธอก็จะไม่เล่นกับ คุณเพราะเธอรู้ว่าเธอไม่มีโอกาสชนะ เธอจะหันไปเล่นเกมอื่น มีเทคนิคนึงที่ดีที่สามารถจะทําให้เธอมองว่าคุณเป็นคนที่ท้าทายได้ เทคนิคนี้ เรียกว่า hot & cold (เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น) และมันจะใช้ได้ดีมากเมื่อตอนที่เธอเริ่มสนใจเราบ้างแล้ว วันที่ 1 : คุณเจอเธอครั้งแรก เข้าไปขอเบอร์อย่างมั่นใจ เธอรู้สึกได้ว่าคุณเป็นแมนจริงๆ ให้เบอร์มา (Hot) วันที่ 4 : คุณโทรไปคุยอย่างสนุกสนาน ชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันข้างนอก เธอตกลง (Hot) วันที่ 6 : เดทกับเธอ คุณใช้เทคนิค dj ต่างๆ จนเธอเริ่มเปิดใจ กับคุณบ้าง (Hot) วันที่ 7 : เธอ messege มาหาคุณแต่คุณไม่ได้สนใจที่จะตอบกลับ (Cold) ตอนเย็นคุณโทรไปหาเธอบอกว่าเมื่อวานสนุกมาก คุณและเธอน่าที่จะ ไปหาอะไรทํากันอีก (Hot) วันที่ 8: คุณกับเธอไปดูหนัง ทานข้าว คุณยังคงใช้เทคนิค dj อย่างต่อเนื่อง เธอเริ่มสนใจคุณมากกว่าเดิมแล้ว (Hot) วันที่ 9 : เธอโทรมาหาคุณเอง คุณคุยได้แปปเดียวแล้วคุณก็บอกว่าต้องไปทําธุระ (Cold) วันที่12 : คุณโทรไปคุยกับเธอ อย่างสนุกสนานเช่นเคยแต่พอดีเพื่อนคุณโทรเข้ามา คุณบอกเธอว่ามีสายซ้อนต้องไปรับ (Hot และ Cold ) วันที่ 15: คุณกับเธอไปข้างนอกด้วยกันอย่างสนุกสนานเช่นเคย (Hot) เธอบอกคุณว่าพรุ่งนี้ให้โทรมาหา แต่คุณไม่ได้โทรไป (Cold) วันที่ 18: เธอโทรหาคุณแต่คุณไม่ได้รับ (Cold) ตอนกลางคืนเธอ messege มาถามว่าทําอะไรอยู่ คุณไม่ได้ตอบกลับ (Cold) วันที่ 19: คุณ messege ไปหาเธอ (Hot) เธอดีใจโทรกลับมา แต่คุณไม่ได้รับ (Cold) อีกหนึ่งชั่วโมงคุณโทรกลับไป นํ้าเสียงเธอดีใจ คุณคุยตามปกติ(Hot) วันที่ 22: คุณไปรับเธอไปเที่ยว (Hot) เธอเริ่มพูดถึงผู้ชายคนอื่นที่มาจีบเธอ คุณไม่สนใจเหมือนไม่แคร์ (Cold) คุณรับโทรศัพท์ที่สาวอื่นโทรมา เธอถามว่าคุยกับใคร คุณบอก ว่าไม่มีอะไร แต่เธอไม่ค่อยเชื่อเธอรู้สึกเหมือนคุณมีสาวอื่นด้วย(Cold) เที่ยวอย่างสนุก คุณเดินจูงมือเธอ (Hot) วันที่ 23-31: เธอกับคุณยังคงติดต่อกัน เธอโทรมาบางครั้งคุณก็รับ บางครั้งก็ไม่ บางครั้งคุณก็โทรไปบอกฝันดีนะ คิดถึง คุณอยู่กับเธอบางครั้งคุณก็กอดเธออย่างอบอุ่น บางครั้งคุณก็ไม่สนใจเธอเลย บางครั้งคุณพูดหวาน บางครั้งคุณตําหนิเธอ บางครั้งเธอสําคัญที่สุด บางครั้งสิ่งอื่นสําคัญกว่าเธอ Hot Cold Hot Cold Hot Cold Hot Cold Hot Cold Hot Cold Hot Cold Hot Cold Hot Cold!!! Get มั้ยครับ! เธอเหมือนๆจะได้คุณแล้ว แต่ก็เหมือนยังไม่ได้ คุณเหมือนๆจะยอมเธอ แต่ก็ยังไม่ได้ยอม มันคล้ายๆกับว่าเรายื่นขนมให้เธอกินแล้วพอเธอกําลังจะใส่ปากเรา ดึงมือกลับไม่ให้เธอกินซะนี่ เราเป็นเกมที่สุดยอดท้าทายสําหรับเธอ ไม่ใช่เกมที่ยาก แต่ก็ไม่ใช่เกมที่ง่าย คุณคือสุดยอดเกม โคตรพ่อท้าทาย The Ultimate Challenge เป็นเกมที่เธอเล่นยังไงก็ไม่มีวันจบ แต่เล่นแล้วสนุกทุกครั้ง!!! :: ==================================================== เป็นแมนที่แท้จริง เราได้ยินกันเสมอว่าเวลาจีบหญิงให้ทําตัวเป็นแมน "กล้าๆเข้าไว้ ทําตัวให้เป็นแมนหน่อย" อะไรแบบนั้น ใช่แล้ว เรารู้ว่าต้องเป็นแมน แต่ความเป็นแมนมันอยู่ตรงไหนล่ะ คนที่เป็นแมนเค้าจะทําตัวแบบไหน มีลักษณะอย่างไร คนที่เป็นแมนนั้นเป็นคนที่แข็งแรง มีกล้ามโตๆอย่างนั้นเหรอ? ไม่ใช่ เรากําลังพูดกันถึงความแข็งแรงทางด้านจิตใจ ด้านทัศนคติ ไม่ใช่ทางด้านร่างกาย อ๋อ ถ้าอย่างนั้น คนที่เป็นแมนเป็นคนที่กล้าหาญอย่างนั้นเหรอ? ก้อถูก ครับแต่บางส่วนเท่านั้น ถ้างั้นคนที่เป็นแมนที่แท้จริงเป็นยังไงกันแน่ ลองไปดูกันได้เลย!!! --มีเป้าหมายในชีวิต หมายถึงเป้าหมายในการที่จะจีบสาวเหรอ? ไม่ใช่ เค้ามีเป้าหมายอย่างอื่นที่แท้จริงในชีวิต เป็นสิ่งที่เป็นทุกๆ อย่างในตัวเค้า เป็นความฝันอันสูงสุด เป็นสิ่งที่บ่งบอก ความสําคัญในชีวิต ทุกๆวันเค้าจะพยายาม ไล่ตามเป้าหมายหรือความฝันของเค้าไปทีละนิดๆ เข้าใกล้มันไปเรื่อยๆ เป้าหมายในชีวิตนั้น เป็นเหตุผลที่ทําให้เค้ายังมีชีวิตอยู่ เค้าไม่เคยเลิกล้มความฝันเพราะ ถ้าเค้าทํามันก็เท่ากับว่าเค้าไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วนั่นเอง --หาทางแก้ปัญหา ไม่โทษคนอื่น เมื่อเกิดปัญหาเค้าหาทางแก้ ไม่มัวแต่มาโทษคนอื่น หรือสิ่งรอบตัว เค้ารู้ดีว่าปัญหามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ มนุษย์ทุกคนเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว เค้ายอมรับ และหาทางแก้ --ไขว่คว้าในสิ่งที่ต้องการ เป็นคนที่เดินเข้าหาสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นเส้นตรง ไม่มัวแต่อ้อมไปอ้อมมา เค้าทําในสิ่งที่เค้าอยากจะทํา ตราบใดที่มันไม่ทําให้คนอื่นเดือดร้อน ถ้าเค้าเห็นสาวสวย ที่อยากจะจีบ เค้าจีบ ไม่มีการลังเล เค้าต้องการสิ่งใด เค้าไขว่คว้าเอามันมา ง่ายๆแค่นั้นเอง --ไม่เสียใจในความเป็นแมน เค้าภูมิใจในความเป็นแมน ไม่เคยเสียใจที่เกิดมาเป็นแมน ผู้ชายที่เป็นแมนชอบผู้หญิงและชอบผู้หญิงสวยด้วย เค้าไม่เคยขอโทษในความเป็นแมนของเค้า ไม่เคยพูดว่า "ผมขอโทษนะครับที่มองคุณ ขอโทษทีที่อยากจะจีบ คุณ อยากจะได้เบอร์โทรศัพท์คุณ" ไม่มีทาง!!! เพราะว่าเค้าเป็นแมนอย่างแท้จริงนั่นเอง --ต้องการเป็นผู้ชนะ ผู้ชายที่เป็นแมนต้องการที่จะเป็นผู้ชนะในทุกๆเรื่อง ที่เค้าลงมือทํา เค้าอยากที่จะประสบความสําเร็จ ซึ่งบางที มันจะทําให้ดูเหมือนว่าเค้าเป็นคนที่ก้าวร้าวอยู่สักหน่อย --กล้าเผชิญหน้ากับความจริง กล้าที่จะเผชิญกับความจริงไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย แค่ไหนก็ตาม --รู้ดีว่าควรทําอะไร คนที่เป็นแมนเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี เค้ารู้ดีว่าอะไรเป็นสิ่งที่สําคัญที่จะต้องทํา รู้ว่าควร จะทําตัวอย่างไรในสถานการณ์ต่างๆ เค้าไม่เอาอารมณ์ ความรู้สึกมาเป็นตัวกําหนดการกระทํา --รู้ว่าความผิดพลาดเป็นสิ่งที่จะพาไปสู่ความสําเร็จ ความล้มเหลวเป็นเพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น เค้ารู้ดีว่ามันจะเป็นส่งที่พาเค้าไปสู่ความสําเร็จ เป็นสิ่ง ที่มีค่าที่จะสอนเค้า เค้าเรียนรู้จากความผิดพลาดและ เอามันมาเป็นบทเรียน นี่แหละคือแมนที่แท้จริง!!! =========================================== กําจัดทางเลือกของเธอให้หมดไป คุณเคยคิดมั้ยครับว่า การที่เป็นผู้หญิงสวยจะมีความรู้สึกยังไงบ้าง? ผู้หญิงที่สวยไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง เหมือนที่เราอยู่กัน ถ้าคุณเป็นผู้หญิงสวย คุณจะมีผู้ชายที่เข้ามาจีบและคอยเอาใจอย่างมหาศาล ถ้าผู้ชายคนนึงไม่สามารถจะให้สิ่งที่เธอต้องการได้ ผู้ชายอีกหลายๆคนจะให้เธอ ถ้าเธอต้องการสิ่งไหนเธอได้สิ่งนั้น เธอเหมือนอยู่อีกโลกนึงที่เราไม่เคยอยู่ เธอมีคอลเล็กชั่นหนุ่มๆ เอาไว้สนองความต้องการของเธอเอง แต่รู้มั้ยครับว่า เธอเบื่อ ผู้ชายไม่ได้เป็นสิ่งที่ท้าทายสําหรับเธอเลย ผู้ชายทุกคนบูชาเธออย่างกับนางฟ้ามาเกิด!!! เธอหันกลับมามองคอลเล็กชั่นหนุ่มๆของเธอ ดูว่าจะมีคนไหนบ้างที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เธอค้นหาผู้ชายคนนั้นวนไปวนมา เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เธอหาคนนั้นไม่เจอ!!! วันนึงคุณเข้ามารู้จักกับเธอ คุยกับเธออย่างสุขุม มั่นคง มั่นใจ คุณเริ่มคุยสนุกสนาน ตลก ทําให้เธอหัวเราะได้ คุณเอามือสัมผัสไหล่เธอเวลาที่การคุยเป็นไปอย่างออกรสชาติ คุณบอกว่ายินดีที่ได้รู้จักแล้วเดินจากไป เธอรู้สึกได้ว่าคุณชอบเธอแต่เซนส์เธอบอกได้ว่าคุณไม่แคร์เลยที่จะเสียเธอ ไป!!! ทําไม? เธอไม่เข้าใจ!!! ผู้ชายทุกคนไม่เคยเดินจากเธอไปเลย เธอคิดว่านี่อาจจะเป็นผู้ชายที่เธอตามหามาตลอดชีวิตก็ได้ ตอนนี้เธอก็ยังมีคอลเล็กชั่นหนุ่มพวกนั้นของเธออยู่ แต่เธอไม่อยากเล่นกับพวกนั้นแล้ว วันๆเธอเฝ้าเพ้อหาถึงคุณ คนที่แตกต่าง ลองคิดดูเวลาที่คุณเล่นเกม คุณมีแผ่นเกมที่ซื้อมาเป็นร้อยๆ แต่จะมีอยู่แค่เกมเดียวเท่านั้นที่คุณเล่นแล้วเล่นอีกไม่รู้เบื่อ ทําไมล่ะ! ทําไมคุณเลือกที่จะเล่นมันทั้งๆที่คุณมีเกมอีกเป็นร้อยที่จะให้เล่น ผู้หญิงสวยนั้นจะเลือกใครก็ได้ถ้าคุณทําตัวเหมือนผู้ชายคนอื่นๆที่มาจีบเธอ แล้วเธอไปหาคนอื่น คุณว่าเธอไม่ได้ ทําตัวให้แตกต่าง ทําให้เธอตื่นเต้น ให้เธอสนุก ด้วยความเป็นแมนของคุณ แล้วคุณจะเป็นทางเลือกเดียวของเธอ ============================================ สัมผัส: เปิดประตูหัวใจเธอ สมมุติว่าคุณจีบผู้หญิงคนหนึ่งมาสักระยะแล้ว เธอเริ่มที่จะสนิท กับคุณมากขึ้น พูดคุยเป็นกันเอง ทุกอย่างกําลังไปได้สวย แต่คุณรู้สึก ว่ามันมีบางสิ่งที่ทําให้คุณกับเธอยังไม่สามารถเป็นแฟนกันได้ เหมือนกับขาดอะไรไปสักอย่างนึง ถ้าคุณรู้สึกแบบนี้ เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะยังขาดส่วนที่สําคัญมากส่วนนึง ที่คู่รักทั่วไปมี นั่นก็คือ การสัมผัส คนเราจะยังไม่สนิทกันที่สุดจนกว่าจะมีการสัมผัส กันทางร่างกาย ลองคิดดูถึงคนที่คุณสนิทด้วย เพื่อนๆของคุณ คุณสามารถ กอดคอ คุยกันอย่างเป็นกันเองได้ คนไหนที่คุณสัมผัส บ่อย คนนั้นแหละที่คุณสนิทที่สุด ปัญหาใหญ่ในการจีบสาวปัญหาหนึ่งที่ผู้ชายมักจะถามอยู่เสมอๆก็คือ "ผมจะหาทางจับมือเธอยังไงดีครับ" "คบกันนานเท่าไหร่เธอถึงจะยอมให้จับมือครับ" "ถ้าเธอไม่ยอมให้จับมือผมจะทํายังไงดีครับ" ถ้าหากคุณยังมีปัญหาในการสัมผัสเธออยู่ละก้อ แสดงว่าคุณยังไม่สนิทกับเธอถึงขั้นแฟน และก็มีโอกาสสูงมากที่เธอจะยังคิดว่าคุณเป็นเพื่อนเธออยู่ คุณต้องสัมผัสเธอ! คุณต้องสัมผัสเธอ! คุณต้องสัมผัสเธอ! คุณต้องสัมผัสเธอ! คุณต้องสัมผัสเธอ! คุณต้องสัมผัสเธอ! คุณต้องสัมผัสเธอ! คุณต้องสัมผัสเธอ! "แต่ว่าถ้าเธอยังไม่คิดที่จะเป็นแฟนกับผมหล่ะครับ ถ้าผมไปสัมผัสเธอแล้วเธอ โกรธ ผมไม่แย่เลยเหรอครับ" คุณอาจจะคิดอย่างนี้ ถ้าเธอไม่คิดเราก็ช่วยทําให้เธอคิดสิครับ จําได้มั้ยครับว่าผู้หญิงจะจัด คุณให้เข้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสามกลุ่มนี้ เวลาที่คุณคุยกับพวกเธอครั้งแรก "แค่เพื่อน" "คนแปลกหน้า" "มีโอกาสที่จะเป็นแฟน" คุณต้องแสดงให้เธอเห็นว่าคุณมีความสนใจเธอทางเพศเหมือนอย่างที่แฟนเธอทํา คุณสบตานานกว่าปกติ สัมผัสไหล่เธอ กอดคอ เล่นหัว คุณทําเช่นนี้เธอจะไม่สามารถ จัดคุณไปอยู่กลุ่มเพื่อนได้ ไม่มีทาง! เพราะคุณไม่ได้ทําตัวแบบเพื่อน ถ้าไม่อยากเป็น แค่เพื่อนก็อย่าทําตัวแบบเพื่อน! หลักสําคัญคือคุณจะต้องไม่รีบร้อนจะสัมผัสเธอ คุณจะต้องทําในเวลาที่ เหมาะสม อย่าไปคิดว่าคุณจะต้องจับมือ กอดเธอในเวลาเท่านั้นเท่านี้ ผู้หญิงชอบที่จะถูกสัมผัสอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้นอย่าไปฝืนธรรมชาติ! -คุณคุยกับเธออย่างสนุกสนาน เธอหัวเราะออกมา คุณโอบเธอเบาๆที่ไหล่ -คุณเปิดประตูให้เธอเดินเข้าร้านอาหารไปก่อน ระหว่างที่เธอกําลังเดินเข้า คุณแตะเธอที่หลัง -เธอชี้ให้คุณดูรอยชํ้าที่ขาเนื่องจากเธอหกล้มมา คุณแตะขาเธอเบาๆแล้วถามเธอว่า เจ็บมากมั้ย? -คุณแซวเธออย่างสนุก เธอทนไม่ไหวทุบคุณที่ต้นแขน คุณบอกเธอด้วยสีหน้าทีเล่นทีจริง ว่าคุณเจ็บ และเอาคืนด้วยการจี้เอวเธอ -เธอบอกคุณว่าเธอไปทําผมใหม่มา คุณลูบผมเธอแล้วบอกว่าผมเธอสวย -อื่นๆอีกมากมาย การสัมผัสจะต้องเป็นไปอย่างสนุกสนาน อบอุ่น และทําในเวลาที่เหมาะสม สัมผัสเธอทุกครั้งที่มีโอกาสแต่อย่าไปฝืนธรรมชาติ!!! ============================================= ซุปเปอร์สตาร์ ผมว่าเราทุกคนก็อยากที่จะเป็นคนดัง คนที่มีชื่อเสียง เป็นซุปเปอร์สตาร์กันทั้งนั้น เพราะว่าเรารู้ว่าพวกเขาใช้ชีวิตในแบบที่เหมือนอยู่ในความฝัน อยู่อีกโลกนึง เค้าจะเอาอะไร เมื่อไรก็ได้ พวกเค้าสามารถที่จะหาสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่ปรารถนาได้เสมอๆ และสามารถหามันมาตอบสนองความต้องการได้อย่างทันทีด้วย ดูเหมือนกับว่าไม่มีสิ่งใดเลยที่ไกลเกินจะไชว่คว้า ตัวอย่างเช่นนักกีฬาอาชีพที่มีชื่อเสียงระดับโลก เรารู้ว่าเดวิด เบคแฮมสามารถซื้อบ้านหลังโตๆ ริมทะเลพร้อมทั้งรถเฟอร์รารี่คันละ 30 ล้านมาขับเล่นได้อย่างสบายๆ เรารู้ว่าไมเคิล จอร์แดนมีเงินในธนาคารหลายหมื่นล้านบาท ทั้งชีวิตนี้ต่อให้ใช้วันละล้านก็ยังไม่แน่ว่าจะหมด เรารู้ว่าไทเกอร์ วู้ดสามารถที่จะเอาเงินไปเผาเล่นสักร้อยล้านขนหน้าแข้งก็ยังไม่ร่วงสักเส้น เดียว หรือว่าจะเป็นดาราฮอลลีวู้ดระดับโลกอย่าง แบรด พิทท์ , ทอม ครูซ, นิโคลัส เคจ หรือพวกนักร้องบอยแบนด์ดังๆ เช่น พวก Nsync westlife ิ A1 และอีกหลายต่อหลายคนที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ฟู่ฟ่า มีทั้งชื่อเสียง เงินทองพร้อมสรรพ พวกเราต่างก็คิดว่าเราอยากจะเป็นซุปเปอร์สตาร์ด้วยกันทั้งนั้น เพราะมันคงจะเป็นสิ่งที่มีทําให้เรามีความสุข ชีวิตคงจะ แตกต่างจากที่เป็นอยู่ราวฟ้ากับดิน และมันก็ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีอีกสิ่งนึงที่ทําให้เราอยากจะเป็นซุปเปอร์สตาร์กันหนักหนา นั่นก็คือมันทําให้สาวสวยๆมากมายมาหลงใหล ได้อย่างง่ายดาย ซุปเปอร์สตาร์เหล่านี้จะเลือกที่จะควงใครก็ได้ ไม่ว่าจะสวยขนาดไหน ถ้าเค้าต้องการเค้าก็ควงได้ ต่อให้เป็นนางแบบซุปเปอร์โมเดลก็ไม่มีปัญหา คุณคิดว่าทําไมซุปเปอร์สตาร์เหล่านี้ถึงมีสาวๆมารุมล้อมมากมายครับ? "รวย" "หล่อ มีเสน่ห์" "มีชื่อเสียง ดัง" "มีอํานาจ" ใช่แล้วครับ ทุกๆอย่างที่คุณตอบมามันถูกต้องหมดเลย สาวสวยนั้นชอบผู้ชายอย่างที่คุณบอกมาทั้งสิ้น คุณอาจจะคิดว่า "อ้าว! แล้วมาบอกทําไม คุณจะให้ผมเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้ไง ก็ผมไม่ได้เป็น คุณจะให้ผมไปสมัครเป็นดารายังงั้นเหรอ? หรือว่าคุณจะให้ผมไปฝึกเล่นกีฬาให้เก่งจะได้ไปเป็นนักกีฬาอาชีพ ไม่เอาหรอก ผมไม่ได้ชอบเล่นกีฬานี่! นี่มันเป็นเทคนิคจีบสาวที่ผมทําไม่ได้ เข้าใจป่าว?" โอ๊ะๆๆๆ ผมไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปทําอะไรแบบนั้นครับ เพราะว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเป็นไปได้ หรือ ถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะต้องใช้เวลาที่นานเหลือเกิน ถ้าคุณไม่ได้รวยวันนี้ คุณก็คงจะไม่สามารถที่จะเป็นคนรวยขึ้นมาได้ทันตาเห็นภายในวันพรุ่งนี้ยกเว้น จะปล้นธนาคารเอา ซึ่งผมไม่ขอแนะนําอย่างยิ่งครับ หรือถ้าคุณไม่ใช่คนที่หน้าตาหล่อเหลาอย่างพระเอกหนัง คุณก็คงจะไม่หล่อไปตลอดชีวิต มันเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้ แต่คุณรู้มั้ยครับว่าซุเปอร์สตาร์เหล่านี้ยังมีอีกสิ่งนึงที่เหมือนกัน มีอีกสิ่งนึงครับที่คนทั่วไปมักจะมองข้าม เป็นสิ่งที่ทําให้เค้ามีเสน่ห์มากกว่าเดิม ผมบอกได้เลยว่าต่อให้เบคแฮมไม่ได้หล่ออย่างที่เห็นและไม่ได้ขับเฟอร์รารี่ เค้าก็ยังจะมีสาวสวยมาชอบอยู่ดี ต่อให้ไมเคิล จอร์แดนไม่ได้มีเงินในธนาคารแบบที่เค้ามี เค้าก็ยังจะมีสาวสวยมาให้ควงแน่นอน เพราะว่าพวกเค้ายังมีอีกสิ่งนึงที่สาวๆหลงใหล คุณรู้มั้ยครับมันคืออะไร? โอเค ครับสิ่งนี้ฝรั่งเรียกว่า Passion หรือถ้าแปลเป็นไทยก็คือ การที่เราหลงใหล คลั่งไคล้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างสุดๆ อย่างรุนแรงเรียกว่าถ้าขาดสิ่งนั้นไปเราอาจจะตายได้ มันคือชีวิตและจิตใจของเรา เป็นสิ่งที่เป็น ความหมายในชีวิต ผมขอใช้คําว่า passion แบบทับศัพท์นะครับเพราะคิดว่ามันสื่อความหมายชัดเจนดี ซุปเปอร์สตาร์เหล่านี้มี passion ไม่เหมือนกัน แต่ละคนก็ต่างกันออกไป สังเกตุมั้ยครับว่าซุปเปอร์สตาร์ทุกคน จะชื่นชอบและหลงใหลกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างมาก มันคือสิ่งที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเค้า เป็นชีวิตของเค้า คุณลองคิดดูครับว่าถ้าจอร์แดนไม่ได้เล่นบาสสักวันนึง คุณคิดว่าเค้าจะเป็นยังไง? ผมว่าเค้าคงนอนไม่หลับแน่ๆ หรือถ้าไทเกอร์ วู้ดไม่ได้ตีกอล์ฟซัก 3-4 วัน เค้าอาจจะ ลงแดงตายได้ Passion ของพวกเค้าเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดในชีวิตครับ เค้าอยู่ไม่ได้ถ้าขาดมัน เค้าทําเหมือน กับว่า passion ของเค้าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก เหมือนเป็นแฟนที่เค้ารักมากที่สุด และนี่ เป็นสิ่งที่สาวๆเห็นว่าน่าประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะมันทําให้ชีวิตเค้ามีคุณค่าขึ้นมา นี่เป็นสิ่งที่ทําให้นักดนตรีที่ไม่ดังไม่หล่อสามารถที่จะมีแฟนสวยสุดบาดตา บาดใจได้ เพราะเค้ามี passion กับดนตรี เค้ามีเสน่ห์เพราะเค้าทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจให้กับดนตรี หรือ passion กับฟุตบอลก็เป็นสิ่งที่ทําให้นักฟุตบอลธรรมดาๆสามารถยิงประตูสาวสวยได้ คนที่มี passion กับสิ่งใดสิ่งนึงอย่างมากนั้นจะเป็นคนที่น่าสนใจ มีชีวิตที่ไม่น่าเบื่อ ตื่นเต้น สนุกสนาน ชีวิตจะไม่ว่างเปล่า ชีวิตจะมีคุณค่า มีความหมาย ถ้าคุณไม่มี passion กับสิ่งไหนเลยชีวิตคุณจะไม่มีความหมายและมันจะทําให้คุณเป็นคนที่ไม่น่าสนใจ สาวสวยนั้นจะอยากที่จะเข้าร่วมกับชีวิตที่ได้ถูกสร้างไว้แล้ว ชีวิตที่มี passion มีคุณค่า มีความหมาย เพราะฉะนั้นจงสร้างคุณค่าของชีวิตคุณด้วย passion ดึงสาวๆเข้ามาร่วมชีวิตกับคุณ แล้วคุณก็จะกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ของพวกเธอ!!! ====================================================== ความสุขของดอนฮวน : สิ่งที่สําคัญที่สุด เอาล่ะครับ บทนี้เป็นบทที่สําคัญมากอีกบทหนึ่ง เอ่อ...จริงๆแล้วผมพูดผิดครับ ไม่ได้สําคัญมากหรอกแต่มัน.....สําคัญที่สุดต่างหาก!!! เพราะว่าผมกําลังจะพูดถึง สิ่งที่สําคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา มันเป็นจุดมุ่งหมายหลักอันดับแรกในชีวิต เป็นสิ่งที่ทําให้เรารู้สึกว่าโลกนี้มันน่าอยู่ มันทําให้เรารู้สึกว่าชีวิตนี้เป็นสิ่งที่มีค่า มีความหมาย ครับ ผมกําลังพูดถึงคําว่า "ความสุข" ความสุขนี่แหละครับที่ทําให้พวกเราได้เข้ามาในเวบนี้ เราต้องการที่จะได้ความสุขจากการจีบสาว เราต้องการให้มันประสบผลสําเร็จ ความสุขนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็พยายามที่จะได้มันมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ไม่ว่ามันจะยากเย็นแสนเค็ญ แค่ไหน ทุกคนก็ยังดิ้นรนเพื่อที่จะได้มันมาอยู่ดี แล้วความสุขของของคนทั่วไปอยุ่ที่ไหนครับ ยกตัวอย่างเช่น nice guy คุณคิดว่าความสุขของ nice guy อยู่ที่ไหนครับ? อื้มม เราลองให้คุณดอนฮวนมาถามคุณ nice guy กันดูดีกว่า "คุณ nice guy ครับ ความสุขที่สุดในชีวิตของคุณอยู่ที่ไหนครับ" ดอนฮวนถาม คุณ nice guy ตอบมามากมาย "การที่สาวสวยตกปากรับคําออกเดท " "เมื่อได้ไปดูหนังกับสาวสวยสองต่อสอง" "เมื่อสาวคนที่หมายปองยอมให้จับมือ" "เมื่อผมให้ดอกไม้เธอแล้วเธอเข้ามากอดผม" "เมื่อเธอยอมรับผมเป็นแฟน" "เมื่อเธอเข้ามาหอมแก้มผมและบอกว่าคิดถึง" "คุณถามผมทําไมครับคุณ dj ในเมื่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้ต่างก็เป็นสิ่งที่ทําให้คุณและผมมีความสุขที่สุด" nice guy ถามกลับ "คุณ nice guy ใช่ครับสิ่งที่คุณพูดมา ผมไม่ปฎิเสธหรอกครับว่ามันทําให้ผมมีความสุข แต่คุณรู้มั้ยว่ามันยังไม่ใช่ความสุขที่สุดสําหรับผม มันยังไม่ใช่ครับ" "ไม่น่าเป็นไปได้!!! มีสิ่งที่ทําให้คุณมีความสุขมากกว่านี้อีกเหรอครับ? มันคืออะไรกันแน่ คุณ dj ลองบอกให้ฟังหน่อยสิครับว่าความสุขของคุณอยู่ที่ไหน?" nice guy งุนงงกับคําตอบที่ได้รับ "ได้ครับ แต่ผมจะเล่าเป็นนิทานให้คุณฟังก็แล้วกัน" กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เทพเจ้าผู้สรรค์สร้างความสุขได้เรียกเทพเจ้าจากทั่วทุกสารทิศมารวมตัวกัน เพื่อ ประชุมในวาระสําคัญ แล้วเทพเจ้าแห่งความสุขก็พูดขึ้นว่า "หลังจากที่มนุษย์ได้ทราบข่าวว่าข้าได้นําความสุขไปเก็บไว้ที่ดินแดนอันไกล โพ้นแห่งหนึ่ง ก็ได้มีมนุษย์จํานวนมากมาย ออกเดินทางไปที่ดินแดนแห่งนั้นเพื่อนําความสุขมาสู่แดนมนุษย์ แต่สิ่งที่ข้าไม่คาดฝันก็คือมนุษย์ต่างก็อยากจะได้ความสุข มาครอบครองแต่เพียงผู้เดียว ระหว่างการเดินทางจึงเกิดการแก่งแย่ง ทะเลาะวิวาทกันในหมู่มนุษย์ขึ้นมา เกิดการเห็นแก่ตัว บ้างก็เข่นฆ่ากันเองไม่มีความสงบเหลืออยู่อีกต่อไป ในสถานการณ์เช่นนี้ข้าว่าข้าจะดัดนิสัยพวกมนุษย์เหล่านี้สักหน่อย และนําความสุขไปเก็บไว้ที่อื่น ท่านทั้งหลายคิดว่าข้าควรจะทําเช่นไรดี?" เทพเจ้าแห่งความสุขถาม "ข้าว่าท่านควรจะนําความสุขไปซ่อนใต้มหาสมุทรที่ลึกที่สุด" เทพเจ้าองค์หนึ่งให้ความเห็น "ไม่ได้ เราทําเช่นนั้นไม่ได้เพราะมนุษย์ก็จะหาวิธีดํานําลงไปค้นหาความสุขอยู่ดี" เทพเจ้าแห่งความสุขพูด "ถ้าอย่างนั้นเราก็ควรจะนําความสุขไปไว้บนภูเขาที่สูงที่สุด ที่มนุษย์ยากจะปีนขึ้นไป" เทพเจ้าอีกองค์เสนอ "ไม่ได้อีกเช่นกันท่าน เพราะว่าในที่สุดมนุษย์ก็จะคิดวิธีปีนขึ้นไปบนภูเขาและการแก่งแย่งกันก็จะ ไม่ลดน้อยลงด้วย" เทพเจ้าทั้งหลายต่างก็ประชุมกันอย่างเคร่งเครียดเป็นเวลานาน จนในที่สุดเทพเจ้าแห่งความสุขก็ตะโกนขึ้นมาว่า "ข้านึกออกแล้ว!!!" "ท่านคิดอะไรอยู่หรือ?" เทพทุกองค์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน "ข้าคิดออกแล้วว่าข้าจะนําไปซ่อนไว้ในที่ซึ่งมนุษย์น้อยคนนักจะคาดเดาได้ ข้าจะนําความสุขไปซ่อนไว้ในใจของพวกมนุษย์เอง" "ซ่อนไว้ในใจหรือ?" "ใช่ ข้าจะนําความสุขไปซ่อนไว้ในใจของมนุษย์ทุกคน การแก่งแย่งก็จะลดน้อยลง และมันก็จะมีมนุษย์น้อยคนที่ สามารถรู้ได้ว่าความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใด และด้วยวิธีนี้พวกมนุษย์ก็จะสามารถเลือกได้เองด้วยว่า พวกเขาอยากจะมีความสุขหรือไม่ เพราะว่าความสุขอยู่ในใจพวกเขาแล้วนั่นเอง" หลังจากดอนฮวนเล่านิทานจบ nice guy ก็พูดขึ้นมาว่า "คุณกําลังจะบอกผมว่าความสุขของคุณอยู่ที่......." "ใช่ครับ ความสุขที่สุดมันอยู่ที่ใจผมนั่นเอง ความสุขที่สุดของผมไม่ได้อยู่ที่ภายนอก แต่มันมาจากภายในตัวผมครับ มันขึ้นอยู่กับตัวผม" dj ตอบ ความสุขของดอนฮวนขึ้นอยู่กับตัวเค้าเอง ความสุขที่แท้จริงมาจากภายในตัวเอง ทุกๆบท ทุกๆเทคนิคในเวบจะไร้ค่า ไร้ความหมายไปเลยถ้าคุณยังไม่มีความสุขกับตัวเอง neg-hit , cocky funny, challenge, กําจัดความดิ้นรน ,......... และอีกร้อยแปดพันเก้า ทุกๆอย่างครับ!!! มันจะมีประโชน์อะไรครับถ้าคุณสามารถจีบสาวติดได้แต่คุณไม่มีความสุขกับตัว คุณเอง มันจะมีประโยชน์ยังไงถ้าเมื่อเธอทําดีกับคุณแล้วคุณมีความสุขมาก แต่พอเธอเริ่มห่างเหิน คุณกลับเศร้าและทุกข์ระทม คุณกําลังไปรอให้เธอมาทําให้คุณมีความสุข ความสุขของคุณขึ้นอยู่เธอ ความสุขของคุณ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง!!! ทําไมเราไม่สร้างความสุขขึ้นมาจากภายในตัวเองล่ะครับ มันง่ายกว่าที่คิดมาก และคุณรู้มั้ยครับว่ามันคือสิ่งที่สําคัญที่สุดดดดดดดดดดดดที่จะทําให้คุณ จีบสาวติดเลยก็ว่าได้ ======================================================== ผม(Rattapon_k) จะเล่าเรื่องของผมให้ฟัง เมื่อตอนที่ผมเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ๆนั้น ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองได้พัมนาไปทีละนิดๆๆๆๆ และเมื่อผมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ผมก็มีความสุขกับตัวเองมากขึ้นๆๆๆๆๆๆๆ จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งผมก้อรู้และเข้าใจ ได้เลยว่าผมไม่จําเป็นต้องรอให้ใครมาทําให้ผมมีความสุข เพราะว่าผมสามารถสร้างมันขึ้นมาได้จากตัวผมเอง ผมไม่จําเป็นต้องรอให้ผู้หญิงมาชอบถึงจะมีความสุข ผมไม่จําเป็นต้องให้คนอื่นมาสนใจผมถึงจะมีความสุข ความสุขของผมไม่จําเป็นต้องขึ้นอยู่กับคนอื่นอีกต่อไป ถามว่าแล้วผมมีความสุขมั้ยถ้าผมจีบสาวคนที่ชอบติด ผมตอบได้เลยว่าผมมีความสุขครับ และสุขมากด้วย แล้วถ้าสาวคนที่ชอบมาทําดีกับผมล่ะมีความสุขมั้ย ตอบได้เหมือนเดิมว่ามีความสุขครับ การที่คนอื่นมาทําให้เรามีความสุขมันดีครับ ผมรับไว้ด้วยความเต็มใจ แต่ความสุขอันดับแรกผมสร้างมันขึ้นมาจากภายในตัวเอง รู้มั้ยครับ มีอยู่วันนึงที่ผมเดินอยู่ในมหาวิทยาลัย วันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขมาก ผมหันไปมองคนทั่วไป ผมรู้ได้เลยว่าพวกเขาไม่ค่อยมีความสุขกับตัวเองเท่าไหร่นัก บางคนนั่งซึม แววตาเศร้าสร้อย บางคนนั่งเหม่อลอย เหมือนพวกเขากําลังรอให้บางสิ่งบางอย่างมาทําให้พวกเขามีความสุข ผมมาคิดได้ว่าผมโชคดีนะที่ความสุขของผมขึ้นอยู่กับตัวผมเอง วันนั้นผมเดินอยุ่ในมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุขที่สุด และเชื่อมั้ยครับ มีผู้หญิงไม่ตํากว่า 7-8 คนที่หันมาแล้วก็ยิ้มให้กับผม!!! ผมเดินไปหาเพื่อน เพื่อนก็ถามว่า "เฮ้ย ทําไมคุณดูมีความสุขจังเลยวะ วันนี้" ใช่ครับ ผมกําลังจะบอกว่าเมื่อความสุขของเราขึ้นอยู่กับตัวเองเมื่อไหร่ คนอื่นๆ เค้าจะรู้สึกได้ และจะมีคนมากมายที่เข้ามาสนใจในตัวคุณ เพียงเพราะว่าคุณกําลังมีความสุขกับตัวเอง!!! คิดดูสิครับ คนทั่วไปความสุขจะอยู่ภายนอก อยู่ที่วัตถุ สิ่งของหรือไม่ก็รอให้ คนอื่นมาทําให้มีความสุข แต่พอความสุขของคุณขึ้นอยู่กับตัวเอง คนอื่นจะแปลกใจ และสงสัยขึ้นมาทันทีว่า ทําไมคุณถึงดูมีความสุขมากจังเลย เหมือนคุณเป็นคนที่มี ความสุขที่สุดในโลก พวกเค้าจะเข้ามาหาคุณ และค้นหาคําตอบให้ได้ พร้อมทั้ง หวังด้วยว่าคุณจะสามารถแบ่งปันความสุขให้พวกเค้าได้ และนั่นจะเป็นเวลาที่สาวๆจะมารุมล้อมคุณอย่างมากมาย มาเริ่มสร้างความสุขจากภายในตัวเอง -หลงรักตัวเอง ทําในสิ่งที่ตัวเองชอบและต้องการ -ดีใจกับสิ่งเล็กๆน้อยที่ตัวเองทํา เช่น มีความสุขกับการ ที่ได้ไปเดินเล่นในหมู่บ้าน การปั่นจักรยาน การดูดาวยามกลางคืน -มองโลกในแง่ดี และรู้ด้วยว่าปัญหาทุกอย่างจะมีทางแก้ของมัน -ดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่และพยายามทําสิ่งต่างๆให้ดีที่สุด -รู้ว่าชีวิตมันสั้นเกินกว่าที่จะมาจมอยู่กับความทุกข์ใจ นี่คือเทคนิคที่ดีและสําคัญมากที่สุดเลยก็ว่าได้ในการจีบสาว เพราะเมื่อความสุขขึ้นอยู่กับตัวเองแล้วทุกอย่างมันจะตามมา ความมั่นใจ- คุณจะไม่กลัวการจีบสาว เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คุณก็ยังมีความสุขได้ ความสนุกสนาน- เมื่อคุณมีความสุข คุณก็สามารถจีบสาวได้อย่างที่ใจต้องการและสนุกไปกับมัน ความท้าทาย- คุณไม่ต้องไปรอให้ใครมาทําให้คุณมีความสุข ตรงกันข้ามทุกคนอยากที่จะให้คุณมาทําให้เค้ามีความสุข คุณเป็นคนท้าทาย ความตลก- ในเมื่อคุณมีความสุขคุณก็สามารถแบ่งปันให้กับคนอื่นๆได้ด้วย คุณจะเป็นคนที่ตลกขึ้น ความมีเสน่ห์- คุณจะมีเสน่ห์ เพราะคุณเป็นคนที่แตกต่าง ทุกคนจะเข้ามาสนใจคุณ ความสุขของดอนฮวนขึ้นอยู่กับตัวเอง คุณจะกลายเป็นคนที่แบ่งปันความสุขให้คนอื่นๆ คุณจะเป็นคนที่มีความสุขอย่างเหลือเฟือ แล้วจะมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฎิเสธคุณได้อีกหรือครับ ในเมื่อเธอเจอคุณเท่ากับว่าเธอเจอความสุข ================================================ จบบทที่ 5 โดยสมบูรณ์แบบครับ ================================================ บทที่ 6 พัฒนาการคุย เทคนิคการคุย การเป็นนักคุยที่ดี 1. คุณต้องมีความรู้สึกอยากจะค้นหาตัวตนของคนที่คุยอยู่ด้วยจริงๆ สมองของ เราคิดเรื่องต่างๆได้มากมาย ทําไมคุณจะหาเรื่องที่คุยไม่ได้ ลองทําใจให้สบาย แล้ว คิดเรื่องที่จะคุย 2.เป็นนักฟังที่ดี คุณตั้งใจฟังสิ่งที่เธอเล่า คุณจับประเด็นคําถามใหม่จากประโยค ที่เธอพูดออกมา แล้วถามเธอต่อ คุณนํา เธอตาม 3. ถามคําถามที่ไม่สามารถ ตอบได้ด้วยคําว่า "ใช่" หรือ "ไม่" อย่างเดียวได้ เช่นเฟิร์นรู้สึกยังไงที่ได้ไปเที่ยวในที่ต่างๆ คําถามที่เกี่ยวกับความรู้สึกจะใช้ได้ดี จะทําให้เธอเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา ให้เธอเปิดใจกับเรามากขึ้น 4. ให้เธอเป็นคนที่พูดมากกว่าคุณ เรตติ้งควรจะเป็น เธอพูด70% คุณ30% คุณแค่จับประเด็นที่น่าสนใจแล้ว ฟังเธอเผยความรู้สึกออกมา 5.สนุกกับมัน การคุยนั้นควรจะคุยสิ่งที่สบายๆ ไม่เครียด อย่าคุยเรื่องปัญหาการเรียน หรือปัญหาการทํางานโดยเด็ดขาด การเข้าไปคุยตามสถานการณ์ มีคนสงสัยหลายคนว่าเราจะเริ่มที่จะเข้าไปพูดกับสาวๆที่เราชอบยังไง วิธีนึงที่ดีก็คือการเข้าไปคุยตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนั้น ไม่ต้องแนะนําตัวเอง ไม่ต้องคิดคําเท่ๆ คําหวาน แค่พูดบางอย่างให้เข้ากับสถานการณ์ในตอนนั้น นี่เป็นบางตัวอย่าง คุณกับเธอกําลังเข้าแถวรอจ่ายเงินที่ร้านหนังสือของมหาลัย คุณเห็นเธอถือหนัง สือวิชานึง อยู่ เธอกับคุณสบตากันแปปนึง คุณก็พูด "อื้มม ผมลงวิชานี้เมื่อเทอมที่แล้ว เป็นวิชา ที่สนุกมาก ผมยังคิดที่จะกลับไปอ่านอีกเลยครับ" ด้วยนํ้าเสียงประชดและยิ้ม อย่างมั่นใจ สังเกตุปฏิกริยาของเธอ ถ้าเธอตอบสนองดี คุณก็เริ่มคุยอย่างอื่นได้สบาย -เจอสาวสวยในร้าน cd เพลง คุณเห็นเธอกําลังเลือก cd อยู่ เธอหันมาสบตาคุณอีกแล้ว คุณพูด "แผ่นที่คุณกําลังดูอยู่เพราะครับ ผมซื้อไปฟังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ ok เลยนะ"ด้วยนํ้าเสียงที่จริงใจ หร้อมกับยิ้ม สังเกตุปฎิกิริยาของเธอ คุณแค่ต้องพูดบางสิ่งให้เข้ากับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ มองตาเธอ พูดด้วยความมั่นใจ พร้อมรอยยิ้ม พูดให้เหมือนกับคุณรู้จักเธอมานานแล้ว Trance word Trance word เมื่อคุณกําลังคุยกับสาวอยู่นั้น ถ้าคุณสังเกตดีๆ คุณจะรู้ได้ว่า มันจะมีคําบางคําที่สําคัญกับเธอ เป็นคําที่เธอใช้พูดซํ้าแล้วซํ้าอีก คุณก็รู้ได้ เลยว่าคําพวกนี้มีคุณค่ากับเธอแน่นอน เราเรียกคําเหล่านี้ว่า Trance word ในการพูดคุยนั้นคุณควรที่จะใช้คําเหล่านี้ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมันจะทําให้ จิตใต้สํานึกเธอรู้สึกได้ว่ามันก็เป็นคําที่สําคัญสําหรับคุณด้วยเช่นกัน ฉะนั้นการที่เราพูดคําเหล่านี้กลับไป ที่เธอ เธอจะคิดว่าคุณเข้าใจเธอและมีอะไรที่สัมพันธ์ (connection)กับเธออยู่ ตัวอย่าง ผม- อี๊ฟคิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดในชีวิตคู่ อี๊ฟ- อืมมม อี๊ฟว่าน่าจะเป็นความซื่อสัตย์ต่อกันและไว้ใจกันนะ ถ้าไม่เชื่อใจและซื่อสัตย์ ต่อกันเนี่ย ก็คงมาอยู่ด้วยกันไม่ได้ (Trance word= ซื่อสัตย์ ไว้ใจ) ผม- ใช่ๆ พี่เข้าใจที่อี๊ฟพูดนะ คนสองคนต้องซื่อสัตย์และไว้ใจซึ่งกันและกันก่อน เพราะถ้าไม่มีการเชื่อใจ ซื่อสัตย์ต่อกันเนี่ย ความสัมพันธ์ก็คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน อี๊ฟ- พี่คิดคล้ายๆ อี๊ฟเลยเนอะ สังเกตไหมครับว่าผมแค่พูดในสิ่งที่เธอพูดออกมาแค่นั้นเอง เธอรู้สึกว่าผมมี ความเชื่อที่คล้ายกับเธอ (ก็แหงล่ะ! เธอเพิ่งบอกมาเองว่ามันคืออะไร) เธอรู้สึก ว่าเรามีความสัมพันธ์กันบางอย่าง =============================================== Value และ Eliciting Value Value สิ่งที่สําคัญที่จะทําให้เราจีบหญิงติดก็คือ การแสดง value ของคุณให้เธอ เห็นออกมา หรืออีกนัยนึงคือการแสดงให้เธอเห็นว่าคุณมีอะไรเธอได้บ้าง คุณมีคุณค่าอย่างไร ถ้าเธอไม่ให้เบอร์ หรือปฎิเสธการออกเดท แสดงว่าคุณยังไม่ได้แสดง value ของคุณให้เธอเห็น ถ้าเธอไม่เห็นคุณค่าของคุณ เธอก็ไม่รู้ว่าจะโทรหาคุณทําไม? จะมาคบกับคุณทําไม? ตัวอย่างเช่น คุณเป็นผู้ชายที่อารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี เวลาคุณอยู่กับเธอ คุณทําให้เธอรู้สึกดีไม่ว่าเธอกําลังอยู่ในอารมณ์ไหนก็ตาม เธอรู้สึกได้ว่าทุกครั้งที่เธออยู่กับคุณ เธอ อารมณ์ดีขึ้นเสมอ และหายกังวล นี่แหละเป็นคุณค่าที่เธอรู้สึกว่าคุณให้เธอได้ คณจะไปคาดหวังให้เธอชอบเพียงเพราะว่าคุณเป็นคุณนั้นเป็นไปไม่ได้ คุณต้อง แสดงคุณค่าออกมาให้เธอเห็น Eliciting Value eliciting value นี้ต่างจาก Value การที่คุณกําลัง eliciting value คือ การที่คุณกําลังหาว่าสิ่งไหนสําคัญกับเธอ สิ่งไหนีมีคุณค่า แล้วคุณเอาสิ่งนั้น แหละให้กับเธอ คุณ - เวลาว่างนุชชอบทําอะไร นุช - ถ้าว่างมากๆเนี่ย ชอบไปเที่ยวทะเลต่างจังหวัดนะ นุชยังเคยไปเล่น bananaboat เลย สนุกมาก คุณ - โห! babana boat ทําไมชอบล่ะ นุช - ก็รู้สึกตื่นเต้นดี คุณรู้ทันทีว่าเธอชอบที่จะรู้สึกตื่นเต้น มันๆ จากนั้นเปลี่ยนตัวคุณไปในแบบที่ สามารถให้ความรู้สึกนั้นกับเธอได้ พาไปเดทที่ตื่นเต้นๆ ไม่ใช่น่าเบื่ออย่างไปดูหนัง ทานข้าวธรรมดาๆ อาจจะไปเที่ยวสวนสนุก ไปออกกําลังกายแล้วแต่ ไม่จําเป็นต้อง ไปทําในสิ่งที่เธอชอบจริงๆ แค่เพียงไปทําอะไรที่ให้เธอรู้สึกตื่นเต้นได้ก็พอ อีกตัวอย่าง คุณ - แล้วฝ้ายคิดว่า ฝ้ายชอบผู้ชายแบบไหน ฝ้าย - ชอบตัวใหญ่ๆแบบฝรั่งนะ ไม่ต้องหล่อมากหรอก คุณ - ทําไมถึงชอบล่ะ รู้สึกยังงัยเวลาอยู่กับผู้ชายตัวใหญ่ ฝ้าย - ไม่รู้สิ ถ้าอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่นมั้ง โหะๆๆ คุณเพิ่งค้นพบว่าอะไรที่ทําให้เธอชอบผู้ชายคนนึง เธอชอบคนที่ทําให้เธอ อบอุ่น คุณไม่จําเป็นต้องตัวใหญ่อย่างที่เธอพูดมาหรอก แค่ทําให้เธอรู้สึกว่า คุณเป็นคนที่อบอุ่นเท่านั้น :: ==================================================== เมื่อคุณได้เบอร์เธอมา: วิธีคุยโทรศัพท์ 1.ห้ามคุยนานกว่า 30 นาทีเป็นอันขาด-- การโทรคุยกับสาวๆนั้น จุดประสงค์ที่ แท้จริงก็คือการชวนเธอออกเดท ไม่ใช่ไปสนทนาปัญหาบ้านเมือง คุณนั้นมีเวลา คุยอีกเต็มที่เมื่อคุณเดทกับเธอ 2.วางสายในขณะที่การคุยกําลังสนุก--ผู้ชายหลายต่อหลายคนได้ทําผิดพลาดอย่าง มาก ในข้อนี้ พวกเค้าคิดว่าถ้าทําให้เธอคุยกับเค้านานๆได้ เธอจะหันมาชอบ พวกเค้าไม่เคยวาง ในขณะที่การสนทนาเป็นไปอย่างสนุกสนานออกรสชาติ เค้านั้นยังดั้นด้นคุยมันต่อไป 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง จนในที่สุดก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว แต่เค้าก็ยังไม่วาง จนกระทั่งใน ที่สุดเธอก็เบื่อ คุณต้องวางสายทุกครั้งที่คิดว่าการสนทนากําลังเป็นไปอย่างสนุก เรียกว่า เมื่อถึงจุดพีคเมื่อไหร่ คุณต้องวางทันที มันจะทําให้เธอคิดถึงคุณ คิดถึงบทสนทนาที่ดี ระหว่างคุณและเธอ และพอครั้งต่อไปที่คุณโทร คุณจะรู้สึกได้เลยว่าเสียงเธอนั้นดีใจ ที่คุณโทรมา 3.ขอเธอวางก่อนทุกครั้ง--อย่ารอให้เธอขอวางสายก่อน คุณต้องบอกเธอก่อนทุกครั้ง!! คุณจะต้องทําตัวให้ท้าทาย ทําเหมือนว่าคุณมีสิ่งที่สําคัญกว่าเธอรอคุณอยู่ ทําให้เหมือนกับว่าคุณนั้นชอบที่จะคุยกับเธอแต่ถ้าไม่ได้คุยคุณก็ไม่แคร์!!! 4.ไม่โทรทุกวัน ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม --เคยได้ยินมาหลายครั้งหลายหนเหลือเกินว่า เวลาจะคุยโทรศัพท์จีบสาวนั้น ให้โทรไปทุกวัน โทรไปเรื่อยๆ บอกเธอไปว่าคิดถึง อย่างโน้นอย่างนี้ เพราะเดี๋ยวเธอก็ใจอ่อนเอง ผิดถนัด!!! ผู้หญิงนั้นถ้าเธอชอบเรา ไม่ว่าเราจะโทรไปทุกวันหรือไม่โทรหาเธอก็ยังชอบเราอยู่ดี การที่ไม่โทรไปหาเธอบ้าง จะทําให้เธอกระวนกระวายและคิดถึงคุณมากยิ่งขึ้น แต่คุณลองคิดดูถ้าเธอ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะชอบคุณหรือไม่ แต่คุณโทรไปหาเธอทุกวันๆๆๆ คุณนั้น กําลังบอกเธอเลยว่าความสุขทั้งหมดของคุณขึ้นอยู่กับเธอคนเดียว คุณไม่ได้เป็นสิ่งที่ท้าทาย เลยสําหรับเธอ เธอรู้ได้ทันทีว่าคุณเป็นลูกไก่ในกํามือ โทรไปวันเว้นสองวันบ้าง บางครั้ง ก็ 3-4 วันครั้ง มันจะทําให้เธอรู้ว่าคุณมีชีวิตเป็นของตัวเอง และdonjuanทุกคน ก็มีชีวิต เป็นของตัวเอง 5.คุยเรื่องความรู้สึก คุยเรื่องความคิดของเธอ--- อย่าคุยแต่เรื่องทั่วไป เช่น ทําอะไรอยู่ วันนี้ไปไหน ช้อปปิ้งมาเหรอ ซื้ออะไรมา การคุยแบบนี้ใครก็คุยกับเธอได้และคุณจะทําให้เธอเบื่อ!!! การคุยเรื่องทั่วไปนั้นเราจะคุยเฉพาะตอนแรกๆ ที่เราโทรไปเท่านั้น จากนั้นคุณต้องคุยเรื่องที่ เกี่ยวกับความรู้สึกเธอ ความคิดของเธอ ถามเธอว่าเธอคิดยังไง รู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ เรื่องนั้น จากนั้นก็ให้เธอเผยตัวตนของเธอออกมา ให้เธอเปิดใจกับคุณมากขึ้น และที่สําคัญคืออย่าคุยเรื่องที่มันเครียด ทําใจให้สบายๆ ทําเหมือนกับว่าคุณคุยกับ เพื่อนคุณเอง ======================================================= พจนานุกรมดอนฮวน การเป็น dj โดยส่วนมากแล้วเราจะสื่อให้คนอื่นได้รู้ด้วย ท่าทาง และลักษณะภายนอกแต่ว่าคําพูดนั้นก็เป็นสิ่งที่จําเป็นที่จะต้องมี เพราะว่ามันจะเป็นประโยชน์อย่างมากถ้าคุณสามารถสื่อสารได้ดีทั้ง คําพูดและท่าทาง แต่อย่างไรก็ตามคําพูดนั้นจะต้องมาพร้อมกับท่าทางภายนอกเสมอ ถ้าคุณได้อ่าน เจมส์บอนด์คอมบิเนชั่น ในบทที่5นั่นแหละคือลักษณะที่ดีที่ควรจะมี ไว้ เอาล่ะ ต่อไปนี้คือ คําหรือประโยคที่คุณจะต้องตัดไปจากพจนานุกรม dj คุณจะต้องหลีกเลี่ยง ไม่พูดคําเหล่านี้ เรียกว่าลืมไปเลยว่ามีอยู่ในภาษาไทย "ไม่แน่ใจ" "ไม่รู้สิ" "จะเอายังไงดี" "ทํายังไงดี" หรือคําอื่นๆที่มีความหมายคล้ายๆกัน คุณจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด ถ้าเกิดคุณไม่แน่ใจบางอย่างขึ้นมาจริงๆ คุณจะต้องนิ่งเข้าไว้ ทําให้เหมือนกับว่าไม่มีอะไรสามารถมาทําอะไรคุณได้ เหมือน คุณรู้ว่าปัญหามันจะแก้ไปได้ด้วยดี ไม่ว่าปัญหาเหล่านั้นมันจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตแค่ไหน คุณก้อจะไม่พูดคําเหล่านี้ออกมา คุณต้องฝึกให้มันเป็นธรรมชาติ เพราะ dj คือคนที่ไม่เคยหวั่นไหวเมื่อปัญหารอบข้างเข้ามากระทบ เค้าพร้อมที่จะแก้ปัญหาอยู่ตลอดเวลา ลองดู เมื่อคุณตัดคําเหล่านี้ออกไปจากพจนานุกรมได้เมื่อไหร่ คุณก็จะรู้สึกว่าตัวเองมั่นใจอย่างมาก เพราะคุณไม่เคยบอกกับตัวเอง เลยว่าคุณไม่มั่นใจ!!! ========================================================= สันนิษฐานว่าเธอจะซื้อจากคุณ ลองสมมุติกันว่าพวกเราเป็นคนขายของที่ต้องการจะขายสินค้าอะไรก็ได้สักตัวนึง เอาเป็นว่าว่าเรา เป็นคนขายเสื้อผ้าละกัน เป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง คุณเห็นลูกค้าคนหนึ่งเข้ามาในร้าน เค้าเดิน ดูเสื้อผ้าไปเรื่อยๆ ทีละตัวๆ จนเกือบจะทั่วร้าน แล้วเค้าก็มาหยุดอยู่ตรงเสื้อตัวหนึ่ง อืมม เค้าหยิบขึ้นมา พลิกดูข้างหน้า ข้างหลัง ขอบตะเข็บ เค้าหยุดดูเสื้อตัวนี้นานพอสมควร คุณสังเกตุได้ว่าเค้าน่าที่จะสนใจเสื้อตัวนี้บ้างไม่มากก็น้อย คุณก็เลยเดินเข้าไปพูดว่า "สวัสดีครับ เสื้อตัวนี้นี่เป็นเสื้อดีไซน์แบบใหม่ล่าสุด สั่งตรงมาจากต่างประเทศครับ แบบเสื้อตัวนี้กําลังฮิตมากครับในหมู่วัยรุ่น" "อื้มม ครับ สวยดี" เขาตอบ "ครับ และเนื้อผ้าตัวนี้ก็ยังนิ่มมากครับ สวมใส่สบายเหมาะกับอากาศร้อนอย่างเมืองไทย เรามีให้เลือกทั้งแบบ สีแดงและสีขาวนนะครับ ไม่ทราบว่าคุณชอบสีไหนครับ แดงหรือขาว" "'งั้นผมเอาสีแดงละกันครับ" เขาตกลงซื้อ อ่า ห้าาาา คุณทําสําเร็จ!!! คุณขายเสื้อได้แล้วเพราะว่าคุณได้ปฎิบัติตามกฎข้อที่ 1 ของนักขายที่ดี นั่นก็คือ คุณสันนิษฐานว่าลูกค้าจะซื้อ คุณไม่ได้ถามลูกค้าว่า "คุณจะซื้อเสื้อตัวนี้หรือเปล่าครับ?" ตรงกันข้ามคุณถามเค้าว่า "คุณจะเอาสีแดงหรือสีขาวครับ" คุณบอกข้อดีของสิ่งที่ลูกค้ากําลังจะซื้อจากนั้น คุณก็ให้เค้าเลือกเองว่าจะเอาแบบไหน คุณสันนิษฐานไว้ก่อนแล้วว่าเค้าจะซื้อจากคุณ!!! ถ้าคุณปฎิบัติตามกฎข้อนี้รับรองว่ายอดขายคุณจะเพิ่มขึ้นจากเดิมแน่นอน รู้มั้ยครับว่ากฎข้อนี้ เป็นกฎที่ เซลล์แมนทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อ 3-4 เดือนก่อนถ้าถ้าคุณเรียนอยู่มหาลัยใดมหาลัยหนึ่ง คุณคงเคยเจอเซลล์ที่มาขายบัตรลดดูหนังของ i-max คงยังพอจํากันได้ใช่มั้ยครับ ตอนนั้นมีอยู่วันนึงผมกําลังเดินอยู่กับเพื่อนผมคนนึงที่หน้ามหาลัย เซลล์คนนี้ก็เข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง จากนั้นเค้าก็บรรยายสรรพคุณต่างๆของบัตรอันนี้เยอะแยะไปหมด พอเสร็จแล้วเค้าก็ถามผมกับเพื่อนว่า "น้องทั้งสองคนจะซื้อกี่ใบคะ พี่ว่าซื้อไปสัก 3 ใบนะคะจะได้เอาไปเผื่อแฟนน้องด้วย" อ้าาาาาาา เค้าไม่ได้ถามผมกับเพื่อนว่า "น้องจะซื้อหรือเปล่าคะ?" แต่เค้าให้ผมตัดสินใจว่าจะเอากี่ใบ เค้าสันนิษฐานว่าผมจะต้องสนใจและซื้อไปอย่างแน่นอน ผมนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากก็เลยไม่ได้ซื้อ แต่ เพื่อนผมมันตัดสินใจซื้อไป 1 ใบ ที่เซลล์คนนี้สามารถขายได้เพราะว่าปฎิบัติตามกฎการขายที่สําคัญ นั่นคือการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเราจะสนใจ อืมมม แล้วเราจะมาประยุกต์ใช้ในการจีบสาวได้ยังไง? ก็ไม่ยากครับ อย่างแรกคือให้คุณหาสาวคนที่คุณคิดว่า น่าจะสนใจในตัวคุณอยู่บ้าง จากนั้นคุณก็นํากฎข้อนี้มาใช้ แต่ก่อนอื่นลองมาดูตัวอย่างที่ผิดที่ผู้ชาย ืnice guy ส่วนใหญ่ทํากันก่อน เค้าเจอสาวสวยที่ชอบแล้วก็เดินเข้าไปคุยกับเธอ (ถ้าวันนั้นเค้ากล้าพอ) เธอก็ตอบสนองด้วยท่าทีที่โอเค เหมือนจะสนใจเค้าอยู่บ้าง ทุกอย่างเหมือนจะไปด้วยดี แต่แล้วก็มาตายตอนจบเมื่อเค้าพูดขึ้นมาว่า "ไม่ทราบว่าผมจะขอเบอร์โทรศัพท์คุณได้มั้ยครับ?" เธอนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา "เอ่อ...... คือว่า ค่อยมาคุย ตอนที่เราเจอกันครั้งต่อไปดีกว่านะคะ" โอวว โนวววว ผิดพลาดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ การถามเช่นนี้สิ่งที่คุณให้ตัวเลือกเธอคือ ให้เธอตอบว่าได้ หรือ ไม่ได้ มีอยู่สองอย่าง คุณไปเปิดโอกาสให้เธอปฎิเสธคุณได้ ไม่ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรงกันข้ามถ้าเป็นดอนฮวนจะพูดว่า "ผมคิดว่าเราน่าจะทําความรู้จักกันไว้นะครับเพราะว่าอย่างน้อยเราคงจะเป็น เพื่อนที่ดีต่อกันได้ เบอร์โทรศัพท์คุณเบอร์อะไรครับ?" จากนั้นนิ่งแล้วรอเธอตอบกลับมา ถ้าคุณอ่านเธอถูกว่าเธอพอจะสนใจในตัวคุณ เธอจะให้เบอร์คุณมาเพราะคุณไม่ได้ให้ ตัวเลือกปฎิเสธสําหรับเธอ คุณแค่บอกสิ่งที่ดีที่จะเกิดขึ้นถ้าเธอปฏิบัติตามจากนั้นคุณก็สันนิษฐานเอา เองเลยว่าเธอจะต้องให้เบอร์คุณ หรือว่าจะเป็นตอนที่คุณชวนเธอออกเดท "เราน่าจะไปหาอะไรสนุกๆทํากันวันเสาร์นี่นะ เธออยากที่จะไปโยนโบว์หรือไปดูหนังมากกว่ากัน" "อ้อม อยากจะไปทานข้าวกันตอนกลางวันหรือตอนเย็น" "หนิง สะดวกวันเสาร์หรือวันอาทิตย์" ถ้าเธอสนใจคุณอยู่บ้าง โอกาสที่เธอจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งมีมากกว่า 70 % และก็ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ!!!! คุณจะได้ไปออกเดทกับสาวคนที่คุณชอบแล้ว หรือถ้าเธอลังเล ปฎิเสธคุณก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล นี่เป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่ไม่สามารถจะตอบตกลงผู้ชายได้ในครั้งแรก รอจนกว่าคุณคิดว่าความสนใจเธอเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ทําให้เธอรู้ว่าคุณไม่ได้รีบเร่งจะให้เธอตอบตกลง ให้เธอรู้ว่าคุณก็ไม่ได้อยากจะฝืนให้บางสิ่งบางอย่างมันเกิดขึ้น โชว์ให้เธอเห็นว่าคุณเป็นคนที่สบายๆ รีแลกซ์ และเมื่อเวลาที่ดีมาถึงค่อยลองถามเธอใหม่อีกครั้งนึง สิ่งที่ต้องจําไว้อีกอย่างนึงก็คือคุณต้องไม่ลังเล สีหน้า นํ้าเสียง แววตา ต้องแสดงออกมาว่าคุณมั่นใจว่า เธอจะต้องตกลง คุณต้องเชื่ออย่างเต็มที่ว่าเธอจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง และเมื่อนั้นเทคนิคนี้ก็จะมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่าลืมนะครับ สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเธอสนใจ!!! ==================================================== Cocky Funny and Sexual : Cocky Funny and Neg hit ช่วงที่ผ่านมา ผมได้รับ e-mail จากหลายๆท่านเขียนมาบอกว่า อยากที่จะให้เพิ่มเติมในส่วนของ cocky funny เพราะรู้สึกว่ามัน สนุกและได้ผลดี ครับ ผมก็คิดเหมือนกัน สาว 2-3 คนที่ผมจีบติดช่วงหลังๆ มานี่ cocky funny (CF) มีส่วนสําคัญมากครับ ผมมาคิดดูแล้วถ้าไม่มี CF นี่ผมคงจีบไม่ติดอย่างแน่นอน ก่อนอื่นผมอยากจะพูดถึงทัศนคติที่คุณต้องมีเวลาที่ใช้ CF กันก่อน สิ่งแรกที่คุณต้องมีซึ่งเหมือนกับการใช้เทคนิคอื่นๆ ก็คือ คุณต้องไม่สนใจผลลัพธ์ เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่า ถ้าเราสนใจผลลัพธ์ เราก็มั่นใจแค่เปลือกนอก แต่ข้างในยัง หวังที่จะให้เธอมาชอบ ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็จะไม่สามารถ CF ได้เต็มที่เพราะคุณกดดันตัวเอง คุณไม่จําเป็นต้องกดดันตัวเองว่าจะต้องจีบสาวคนนี้ให้ติดให้ได้ คุณไม่จําเป็นเลยครับ เพราะมัน ไม่มีประโยชน์อะไรเลย คุณควบคุมเธอไม่ได้ คุณมีอิทธิพลกับเธอบ้างเท่านั้นเอง สอง คุณควรจะอยู่ในอารมณ์ที่ดี อันนี้เห็นกันได้ชัดๆ เพราะเวลาที่คุณ CF เธอ คุณกําลังจะทําให้เธอขํา ถ้าคุณกําลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ คุณจะทําให้เธอขําได้หรือครับ? เวลาจะใช้ CF กับสาวๆ ให้คุณคิดว่า "อืมม ชั้นรู้ว่าเธอจะต้องชอบเพราะชั้นเป็นคน cocky funny เธอจะต้องหัวเราะแน่ๆ" ให้คุณคิดแค่นี้เวลาจะใช้มันทุกครั้ง ซึ่งพอคุณบอกตัวเองอย่างนี้นานๆเข้า ต่อไปคุณไม่ต้องคิดอย่างนี้อีกเลย เพราะคุณจะรู้สึกเอง มันจะซึมเข้าไปเป็นธรรมชาติของคุณเอง คุณก็จะเริ่มเป็น dj โดยธรรมชาติ focus อยู่ที่ความสนุกของ CF อย่าไป focus ที่ตัวผู้หญิงว่าเธอจะตอบสนองยังไง เอาล่ะครับ เมื่อทัศนคติถูกต้องแล้วผมก็อยากจะให้คุณรู้ถึง concept อีกอันนึงคือ Be Sexual คือ การที่เป็นคนเปิดในเรื่องเพศ ไม่ซ่อนมันไว้ข้างใน การที่เราเล่นหูเล่นตากับผู้หญิง , สัมผัสเธอ, พูดเรื่อง sex กับผู้หญิง (พูดเฉพาะเมื่อมันเหมาะสมเท่านั้น) อย่างนี้ถือเป็นการที่เรา sexual ทั้งหมด ดูง่ายๆ เลยก็คือ Nice guy เป็นพวกที่ปิดในเรื่องเพศ เป็นพวก Non-sexual Nice guy จะไม่กล้าทําในสิ่งที่ผมบอกข้างต้น เพราะพวกเค้านึกว่ามันจะทําให้ผู้หญิงกลัว ตกใจ และหนีไปจากเค้า น่าสงสาร nice guy นะครับที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงชอบผู้ชาย sexual แต่การที่เรา sexual ไม่ใช่การที่เราหื่นกาม สองอย่างนี้ต่างกันนะครับ ถ้าคุณเดินไปเจอผู้หญิงคนนึงยังไม่ได้รู้จักกันเลย คุณไปบอกเธอ "หน้าอกคุณใหญ่จังเลยครับ ผมชอบ" เอ่อ... ถ้าไปพูดอย่างนี้ก็ตัวใครตัวมันครับ เพราะมันไม่ใช่ sexual แล้ว มันเกินไปกลายเป็นพวกบ้ากาม โรคจิต เพราะฉะนั้นทําความเข้าใจให้ดีก่อนนะครับ โอเค คราวนี้ผมอยากจะให้คุณใช้เทคนิค CF แต่ว่านํามันมารวมกับ Sexual ด้วย เป็น CF + Sexual "เอ๊ะ! แล้วมันทํายังนะ" คุณอาจจะยังสงสัยอยู่ ก้อไม่ยากครับ CF+ Sexual คือการพูดตลก แบบกวนๆ แซวนิดๆ และก็แฝงเรื่องเพศ เรื่อง sex เข้าไปด้วย ทําไมถึงต้องใช้ CF + Sexual ? จําได้มั้ยว่า ถ้าผู้หญิงรู้สึกสบายๆกับเราอย่างเดียวแต่ไม่รู้สึกว่าเราเปิดในเรื่องเพศ เราจะเป็นได้แค่เพื่อน ถ้าผู้หญิงรู้สึกว่าเราเปิดในเรื่องเพศแต่ไม่รู้สึกสบายๆ relax เมื่ออยู่กับเรา เราจะกลายเป็น นายโรคจิต บ้ากาม แต่ถ้ามันมีทั้งสองอย่าง เธอรู้สึกสบายๆ กับเรา และเราเป็นคนที่เปิดในเรื่องเพศ ผู้หญิงจะจัดเราไปอยู่ในกลุ่ม ที่อยากจะเป็นแฟนด้วย CF+Sexual ทําให้เรามีทั้งสองอย่างครับ เจ๋งมั้ยล่ะครับ อิอิ และเมื่อไรที่คุณถนัดการพูดแบบ CF+Sexual แล้วละก็ เตรียมตัวโดนสาวๆเข้ามารุมได้เลย!!! ==================================================== Keyword listening เอาล่ะครับ คราวนี้เราจะมาพูดกันถึงเทคนิคที่จะทําให้คุณคุยกับสาวๆได้อย่างไม่ต้อง กังวลว่าไม่มีอะไรจะให้คุย ผู้ชายหลายคนมีปัญหามากครับ ในการคุยกับสาวๆแล้ว อึ้ง พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะคุยอะไรดี คุณคิดว่าเวลาเราคุยกับสาวๆนั้นเราควรจะคุยเรื่องอะไรดีครับ เราควรจะคุยเรื่องอะไรที่จะทําให้เธอไม่เบื่อ? ไม่ยากครับ คุยเรื่องเธอไงล่ะ!!! กฎข้อที่ 1 ของการคุย คุณคุยเรื่องของเธอ ไม่ใช่เรื่องคนอื่น ไม่ใช่เรื่องตัวคุณเอง แต่คุณคุยเรื่องของเธอ!!! ผู้หญิงถ้าได้คุยเรื่องของตัวเองส่วนมากจะสามารถเมาท์ได้อย่างยาวนานข้ามปี บางครั้งเราแทบจะไม่มีโอกาสได้อ้าปากเลยด้วยซํา เรื่องของคุณและของคนอื่น คุณค่อยคุยเมื่อเวลาโอกาสมันมาถึงเท่านั้น เช่นเธอเล่าว่าเธอชอบไปทะเล คุณอาจจะเสริมเรื่องของคุณว่าคุณชอบไปทะเลเหมือนกัน อะไรแบบนี้ โดยปกติแล้วการคุยที่ดีเราควรจะคุยเรื่องของเธอประมาณ 70 % ของการคุยทั้งหมด การคุยเรื่องของเธอ นอกจากมันจะทําให้เธอไม่เบื่อแล้วยังมีอีกเหตุผลนึงที่ทําให้เราควรจะคุย เรื่องของเธอ คุณรู้มั้ยครับว่ามันคืออะไร? ลองคิดดูสิครับ ผมเฉลยให้คุณทางด้านล่างแล้ว แต่อย่าเพิ่งไปดูเฉลยนะ ลองคิดดูก่อน ถึงตอนนี้เรารู้แล้วว่าเราควรจะคุยเรื่องของเธอ คราวนี้จะทํายังไงไม่ให้การคุยมันขาดช่วง ปัญหาที่ผมได้ยินผู้ชายถามบ่อยๆ ก็คือ เวลาคุยกับสาวๆ ไปได้สักพัก มักจะหมดเรื่องคุย บทสนทนาจะขาดช่วง ทําให้รู้สึกอึดอัดทั้งคุณและเธอ ปัญหานี้พบบ่อยมากครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่เงียบๆ พูดน้อยๆ อยู่แล้วเนี่ยก็ยิ่งจะรู้สึกลําบากมากในการคุยกับสาวๆ ไม่เป็นไร ทางแก้มีอยู่แล้ว ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ขอให้เราตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูดมา เราก็จะพบว่า ประโยคที่เธอพูดออกมานั้น โดยส่วนใหญ่เธอได้บอกใบ้ถึงสิ่งที่เธออยากจะคุยต่อไปให้เรามาแล้ว วิธีนี้ใช้การสังเกตคําในประโยคที่เรียกว่า keyword ที่เธอพูดออกมาเท่านั้นเอง keyword คือคําที่เด่นออกมาในประโยคที่เราสามารถนํามาตั้งเป็นคําถามใหม่ได้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถคุยได้โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีอะไรให้พูดอีก ต่อไป วิธีนี้ผมเรียกมันว่า keyword listenning ตัวอย่างที่ 1 เธอ " วันนี้ไปเดินชอปปิ้งที่สยามกับผึ้งสองคน" ถ้าคุณตั้งใจฟัง คุณก็จะรู้ว่าเธอให้ keyword คุณมา 3 คํา 1. สยาม 2.ชอปปิ้ง 3. ผึ้ง คําสามคํานี้แหละที่คุณสามารถนํามันมาตั้งคําถามใหม่ได้ คุณอาจจะถามเธอต่อไปว่า สยาม-------- "ทําไมถึงชอบไปสยาม?" ชอปปิ้ง-----"เวลาไปชอปปิ้งชอบซื้ออะไร?" ผึ้ง-----------"ไปชอปปิ้งกับผึ้งบ่อยแค่ไหน ทําไมชอบไปกับผึ้ง?" เห็นมั้ยครับว่าแค่ประโยคเดียวที่เธอพูดมา เราสามารถเอามาตั้งคําถามได้ตั้งหลายอย่าง ง่ายนิดเดียวครับครับ แค่จับ keyword ที่เธอพูดมาให้ได้ จะว่าไปแล้วคล้ายๆเล่นต่อคํา เธอพูดถึงอะไรเราก็ถามต่อไปถึงสิ่งนั้น เจาะลึกเข้าไป ตัวอย่างที่ 2 เธอ " อาทิตย์ก่อนไปเที่ยวภูเก็ตกับเพื่อนมา" เธอให้ทางเลือกคุณ 2 ทาง 1.ภูเก็ต 2. เพื่อน ภูเก็ต------"ภูเก็ตมีอะไรน่าสนใจบ้าง? ชอบตรงไหน?" เพื่อน------"ไปกับใครบ้าง?" ตัวอย่างที่ 3 เธอ "ชอบไปดูหนังที่เมเจอร์เวลาว่าง" ทางเลือก 3 ทางอีกแล้ว 1. ดูหนัง-----"ชอบดูหนังแนวไหน?" 2.เมเจอร์----"ทําไมชอบไปเมเจอร์?" 3.เวลาว่าง--"แล้วเวลาว่างทําอย่างอื่นหรือเปล่า?" ไม่ยากเลยครับแค่ตั้งใจฟัง จับ keyword ที่เธอพูดมา คุณก็จะมีคําถามที่สามารถถามเธอได้มากมาย เท่านี้คุณก็จะเป็นคนที่คุยเก่งขึ้นอีกมากทีเดียว!!! เฉลยคําถาม เวลาที่เราคุยเรื่องของเธอมันจะทําให้เธอเผยตัวตนของเธอออกมา ทําให้เธอรู้สึกว่าเปิดใจ กับเรามากขึ้น เคยรูสึกกันใช่มั้ยครับว่า เวลาเราบอกเรื่องของเราให้ใครฟังก็ตาม ถ้าเค้าตั้งใจฟัง เรื่องของเราเป็นอย่างดี เราจะรู้สึกว่าเราเริ่มสนิทกับคนนั้นมากขึ้น เป็นจิตวิทยาครับ เพราะเวลาเรา เล่าเรื่องส่วนตัวของเราให้คนอืนฟังเนี่ย จิตใต้สํานึกมันจะรู้สึกเองเลยว่า "โอเคขณะนี้ฉันกําลังเปิดเผยเรื่องของฉันอยู่ เพราะฉะนั้นคนที่คุยอยู่ด้วยเป็นคนที่ฉันไว้ใจได้ เป็นคนที่ฉันสนิทด้วย " จิตใต้สํานึกเรามันจะคิดไปเองเลยครับ เพราะฉะนั้นถ้าเราทําให้เธอคุยเรื่องของเธอได้มากเท่าไหร่ เธอก็จะเปิดใจให้กับเรามากเท่านั้น และมันจะได้ผลยิ่งขึ้น ถ้าเรื่องของเธอนั้นเป็นเรื่องความรู้สึกของเธอ ชอบ ไม่ชอบอะไร มีความรู้สึกต่อเรื่องนั้น เรื่องนี้ยังไง ถ้าคุณทําให้เธอเผยเรื่องความรู้สึกเธอออกมามากๆ โอกาสที่เธอจะสนิทกับคุณก็จะเร็วยิ่งขึ้น อย่าลืมนะครับ คุยเรื่องของเธอประมาณ 70 % ของการคุยทั้งหมด และถ้าจะให้ดีคุยเรื่องความรู้สึกของเธอ ========================================== CF + Sexual 1. ผมไปเที่ยวผับนึงกับสาวที่ผมกําลังจีบอยู่ ซึ่งวันนั้นเธอรินเหล้าให้ผมบ่อยมากๆ ผมเลยบอก ผม : "จะมอมเหล้าชั้นเหรอ?" เธอ : "ใช่ ได้มั้ยล่ะ?" เธอพูดและก็รินเหล้าส่งให้ผม ผม : "เสียใจด้วย ไม่ได้ ชั้นไม่ยอมให้เธอข่มขืนชั้นหรอกนะ" สบตาพร้อมยิ้มด้วยความมั่นใจ กวนๆ เธอ : ยิ้มและส่งสายตา sexy 2. ผมได้นัดสาวไปทานข้าวที่ร้านอาหาร ทานเสร็จผมก็ขับรถจะไปส่งเธอ ระหว่างที่ขับอยู่นั้น เธอก็ได้เอนมาซบไหล่ผม บรรยากาศเริ่มเป็นใจ พอดีรถติดไฟแดง ผมเลยก้มลงไปจูบหน้าผากเธอ เธอสบตากับผมครู่นึง แล้วเราก็จูบกัน (ตอนนั้นตอนกลางคืนครับ ดึกแล้วด้วย รถผมติดไฟแดงอยู่คันเดียว ไม่มีรถข้างๆ และข้างหลังครับ ^_^ ) จากนั้นเธอก็ถามผมว่า เธอ : "เป็นยังไง พอจะสู้สาวๆคนอื่นได้มั้ย?" ผม : "อืมม อันนี้ต้องขอพิสูจน์ดูอีกครั้งนึงก่อน" ผมก้มลงไปจูบเธออีกสักพักนึง แล้วก็พูดว่า ผม : "โอ้ววว ทางสถาบันของเราขอมอบประกาศนียบัตรพร้อมทั้งโล่ห์ดีเด่นให้คุณ ในฐานะที่คุณเป็นนักเรียนที่ทําคะแนนได้สูงสุด ทิ้งห่างคนอื่นๆขาดลอย" เธอ : หัวเราะพร้อมทั้งเข้ามากอดผม ผม : เห็นรถ taxi แล่นผ่านรถผมไปหนึ่งคัน ผมหันกลับไปมองสัญญาณไฟ พร้อมคิดในใจว่า "ไฟแม่_เขียวตั้งนานแล้วนี่หว่า 55" 3.ผมได้คุยโทรศัพท์กับสาวคนนึงที่ผมจีบมาสักระยะแล้ว เริ่มที่จะรู้สึกสบายๆกันแล้ว คุยกันสักพัก ผมบอก ผม : "โอเค ไว้แค่นี้ก่อนละกัน เธอก็ไปนอนได้แล้ว มันดึกแล้ว" เธอ : "อืม แล้วค่อยคุยกันใหม่" ผม : "ได้ครับ แต่ว่าคืนนี้ไม่ต้องนอนฝันถึงผมก็ได้นะครับ" พูดทีเล่นทีจริง เธอหัวเราะนิดนึงแล้วพูดว่า : "เดี๋ยวคืนนี้จะตามไปหลอกในฝันซะให้เข็ด" 4. ผมนัดสาวไปเที่ยว เธอแต่งชุดเกาะอกมา ผมเลยใส่ cocky funny ไปว่า ผม : "แต่งชุดแบบนี้ ผมว่ามันอันตรายนะครับ" ทําทีเหมือนจะพูดจริงจัง เธอ : "เหรอ มันโป๊เกินไปเหรอ" ผม : "คือมันก็ไม่มากหรอก แต่กลัวว่าอีกสักพัก จากเกาะอกมันจะมาเกาะที่เอวนะสิ" ยิ้มกวนๆพร้อมส่ายหัว เธอทุบผม : "หาว่าชั้นหน้าอกเล็กเหรอ" 5. อันนี้เอามาจากหนังเรื่อง FAKE เป็นฉากที่พระเอกคือลีโอ พุฒ เจออั้ม นางเอกเป็นครั้งแรกในผับ พระเอกเห็นนางเอกนั่งอยู่คนเดียว ท่าทางเศร้าๆ จึงเข้าไปนั่งคุย คุยอะไรไม่รู้ จําไม่ได้ สักพักนางเอกก็พูด นางเอก : "คุณรู้เหรอว่าชั้นเป็นคนยังไง?" พระเอก : "รู้ คุณเป็นผู้หญิง ผมยาว ที่กําลังผิดหวังกับความรัก" นางเอก : "แล้วอะไรอีกล่ะ?" พระเอก : "แล้ว..คุณก็กําลังสนใจผม" ยิ้มที่มุมปากนิดนึง สีหน้า แววตานิ่งมองที่ตานางเอก นางเอก : เซ็นส์ได้ว่าพระเอกไม่ใช่ nice guy 6. อันนี้ก็มาจาก FAKE หลังจากที่พระเอก ลีโอ พุฒมีอะไรกับนางเอกแล้ว ตอนเช้าตื่นขึ้นมา พระเอกก็หอมนางเอกแล้วก็คุยกันสักพัก นางเอกก็พูดว่า นางเอก : "คุณชอบชั้นตรงไหน?" พระเอก : "ใครบอกว่าผมชอบคุณ?" ยิ้มนิดๆ แต่พระเอกก็เจอเอาคืนเพราะดันไปถามเธอกลับว่า พระเอก : "แล้วคุณล่ะชอบผมตรงไหน?" นางเอก : "ใครบอกว่าชั้นชอบคุณ?" ***ใครได้ดูหนังเรื่องนี้จะเห็นว่าลีโอ พุฒ พระเอกที่ตอนแรกมีลักษณะกึ่ง jerk กึ่ง donjuan กลับกลาย เป็น nice guy เต็มตัวหลังจากที่รู้จักนางเอกไม่นาน (การเป็น nice guy ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ต้องทําในเวลาที่เหมาะสม พระเอกค่อนข้างจะเป็นแมนมากโดยปกติ แต่หลังจากเจอนางเอกแล้วกลับเฝ้าเพ้อถึงนางเอก ตลอดเวลา กลายเป็นโคตร nice guy) หรือบางครั้งถ้าเราอยากจะดัดแปลงให้เป็น CF + Neg hit ก็สามารถทําได้ได้ (พูดตลก เสียดสีที่แฝงไว้ด้วยการแซวข้อบกพร่องของเธอ) CF + Neg hit 7. ผมชวนสาวไปเที่ยว ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ เธอก็โชว์รูปที่เธอไปถ่ายมาให้ผมดู เธอ: "เป็นไง น่ารักมั้ย?" ผม : "อันนี้ คุณป้าที่ไหนมายืนโพสท่าอยู่เนี่ย?" เธอ : ทําหน้างอนๆ แต่อมยิ้ม ผม : "โอ๋ๆๆๆ ไม่เอาน่า ดูสิ งอนมากๆ ตีนกาขึ้นเลยนะ" เอามือไปแตะที่ตาของเธอ เธอ : ทุบแขนผม (อีกแล้ว) 8. อันนี้ผมใช้ตอนที่เธอถามผมว่าทําไมผมถึงเข้าไปขอเบอร์เธอ เธอ: "ทําไมถึงมาขอเบอร์(ชื่อเธอ)ล่ะ เพื่อน(ชื่อเธอ) สวยกว่า(ชื่อเธอ) อีกนะ เปลี่ยนใจยังทันนะ" ผม : "ก็(ชื่อเธอ) เป็นผู้หญิงที่สะดุดตามากที่สุด" พูดเหมือนจะจริงจังอีกแล้ว ^_^ เธอ: "เหรอ สะดุดตายังไง?" ทําเสียงดีใจ ผม : "ก็พอมองเข้าไปในกลุ่มแล้ว (ชื่อเธอ)เตะตามาก ตัวใหญ่ บึกบึน บดบังรัศมีคนอื่นๆหมดเลย เห็นครั้งแรกแล้วรู้เลยว่า..ปกป้องเราได้ทั้งชีวิต" ยิ้มกวน ***มุขปกป้องเราได้ทั้งชีวิต ยืมมาจากเดี่ยวไมโครโฟนของ โน้ต อุดม 9. ผมไปเที่ยวผับกับเธอ เธอหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ผมมองไปที่คําเตือนบนซองเขียนว่า "สูบบุหรี่ทําให้แก่เร็ว" ผมชี้ให้เธอดูคําเตือน เธอยิ้มนิดนึง ผมเอื้อมมือไปจับแก้มเธอ แล้วก็พูด ผม : "ไม่น่าเชื่อ การสูบบุหรี่ทําให้คนเราแก่เร็วจริงๆ" ผมส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ เธอ : หัวเราะแล้วก็แซวผมกลับว่า ผมก็แก่พอๆกับเธอนั่นแหละ คําเตือน : ห้ามใช้ cocky funny มากเกินไป มิฉะนั้นอาจจะมีสาวๆมากมายมารุมล้อมโดยไม่รู้ตัวได้ ^_^ ในที่สุดก็จบ บทที่ 6 เพียงเท่านี้นะครับ ที่เหลือต่อไปก็คือตัวของคุณเองแล้วล่ะ พยายามต่อไป โชคดี =========================================================================